10 อันดับ หม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
ในช่วงเวลาปัจจุบันนี้มี เครื่องประกอบอาหารสำเร็จรูปมากมาย ที่ถูกออกแบบมาให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานได้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากตัวเลือกสินค้ามากมาย ที่มีวางจำหน่ายให้เราเลือกซื้อได้ตามท้องตลาดในช่วงเวลานี้ หนึ่งในตัวเลือกน่าสนใจที่จะช่วยให้คุณสามารถทำอาหารในรูปแบบการนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะสำหรับการใช้งานในการประกอบอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะ ก็คงจะเป็น หม้อนึ่งไฟฟ้า ที่ทำงานได้อย่างง่ายดาย ผ่านการใช้งานสายไฟเพื่อเชื่อมต่อเข้ากันกับระบบไฟบ้านนั่นเอง
โดยหากกล่าวไปถึง ในเรื่องของตัวเลือกสินค้าประเภทนี้ ที่มีให้เราเลือกซื้อได้ตามโลกออนไลน์นั้น จะค่อนข้างมีอยู่มากมายที่มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน, วัสดุที่ใช้ในการผลิต, แบรนด์สินค้า ที่มีออกวางจำหน่าย หรือแม้แต่ระดับราคาของสินค้าแต่ละรุ่น ส่งผลให้ในการเลือกซื้อนั้น จะนับมีความหลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานได้ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับแต่ละคนได้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นด้วยตัวเลือกมากมาย ที่มีออกวางจำหน่าย มาให้เราได้เลือกซื้อกัน ก็ทำให้สินค้ามีการแข่งขัน และส่งผลให้ผู้ผลิตมีการแข่งขัน ในด้านของความคุ้มค่า รวมไปถึงยังเป็นผลให้เราได้ใช้งานสินค้าที่รองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยหากคุณเริ่มสนใจและกำลังมองหาสินค้าตัวนี้มาติดบ้านเอาไว้ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ก็สามารถเลือกซื้อดูจากทั้งหมด 10 รุ่น ที่เรากำลังจะแนะนำให้คุณได้บทความนี้ได้เลย
แนะนำ 10 อันดับ หม้อนึ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
- ELVIRA Jet Steamer
- Lacor 69121
- HOMEMATE HOM-261481
- FRY KING FR-B15
- BEAR BR0013
- TEFAL VC145130
- Tefal VC100630
- Russell Hobbs 19270-56
- Imarflex SC-532
- OTTO หม้อนึ่งไฟฟ้า รุ่น SM212A
1. ELVIRA Jet Steamer
★★★★★
เครื่องนึง แบบแรงดันสูงดีไซน์การออกแบบสุดทันสมัย ที่จะช่วยให้คุณประกอบอาหารได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | ELVIRA Jet Steamer |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 9 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
รุ่นแรกเป็นเครื่องนึ่งแบบแรงดันสูงจากแบรนด์ ELVIRA ที่ทำงานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ จากการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศอังกฤษ ซึ่งนอกจากจะทำให้การประกอบอาหารทำได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นส่วนที่ทำให้ตัวเครื่องประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน ส่วนในเรื่องของปริมาตรความจุในการประกอบอาหารนั้น รุ่นนี้จะทำได้มากถึง 9 ลิตรภายในจำนวนชั้นพลาสติกคุณภาพสูง ที่ให้มาทั้งหมดถึง 3 ชั้นในการประกอบอาหาร นอกจากนี้ด้วยการใช้งานวัสดุแบบ Tritan™ ก็ยังช่วยให้ตัวเครื่องไม่มีสารก่อมะเร็งเลยแม้แต่น้อยด้วยครับ
ข้อดี
✓ ไม่มีสารก่อมะเร็ง
✓ สามารถนึ่งอาหารจำนวนมากได้พร้อม ๆ กัน
✓ เทคโนโลยีการนึ่งระดับสูงจากประเทศอังกฤษ
ข้อเสีย
✘ ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บและจัดวางพอสมควร
2. Lacor 69121
★★★★★
หม้อนึ่ง ระบบไฟฟ้า จากแบรนด์ Lacor ที่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสูงจากประเทศสเปน
ยี่ห้อ / รุ่น | Lacor 69121 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | – |
ขนาดตัวสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | – |
กำลังไฟฟ้า | 1,000 วัตต์ |
รุ่นนี้เป็นหม้อนึ่งแบบ 3 ชั้นจากแบรนด์ Lacor ที่จะช่วยให้คุณอบนึ่งอาหารประเภทต่าง ๆ ได้ง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากการใช้งานมาตรฐานการผลิตระดับสูงจากประเทศสเปน ซึ่งทำให้นอกจากจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้ตัวเครื่องประหยัดพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยมไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยที่ในส่วนของการเปิดใช้งานนั้น ตัวอุปกรฯจะใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานเพียงแค่ 1,000 วัตต์ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะต้องจ่ายไป ก็จะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในกลุ่มคน ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ประกอบอาหารสำหรับสายสุขภาพครับ
ข้อดี
✓ จำนวนชั้นในการประกอบอาหารค่อนข้างมาก
✓ มาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงจากประเทศสเปน
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานไม่สูงมากนัก
ข้อเสีย
✘ –
3. HOMEMATE HOM-261481
★★★★★
เครื่องนึ่งอาหาร ระบบไฟฟ้าแบบ 3 ชั้นที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ที่ต้องการประกอบอาหารสายสุขภาพได้อย่างลงตัว
ยี่ห้อ / รุ่น | HOMEMATE HOM-261481 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | – |
ขนาดตัวสินค้า | 160 x 300 x 290 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 3.207 กิโลกรัม |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 750 วัตต์ |
HOMEMATE HOM-261481 เป็น เครื่องนึ่ง อาหารขนาดมาตรฐาน ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของสายสุขภาพโดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชันการประกอบอาหารรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ทั้งการอบอาหาร, การนึ่งอาหาร หรือแม้แต่การหุงข้าว โดยที่ในระหว่างการใช้งานนั้น ตัวเครื่องจะยังคงสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไว้ได้แบบดีเยี่ยม ด้วยขั้นตอนการนึ่งอาหารที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้น้ำมัน ที่สำคัญด้วยการถูกออกแบบให้ถอดแยกส่วนต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ก็ทำให้การจัดเก็บทำได้อย่างไม่ลำบากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ แยกส่วนเพื่อจัดเก็บได้อย่างง่ายดาย
✓ ตั้งเวลาเปิดใช้งานล่วงหน้าได้มากถึง 60 นาที
✓ จำนวนชั้นในการประกอบอาหารที่มีอยู่ถึง 3 ชั้น
ข้อเสีย
✘ –
4. FRY KING FR-B15
★★★★★
หม้อนึ่ง ระบบไฟฟ้า แบบอเนกประสงค์ ที่รองรับได้ทั้งการนึ่งผักและผลไม้ ไปจนถึงอาหารสดอย่างปลาและเนื้อสัตว์อื่น ๆ
ยี่ห้อ / รุ่น | FRY KING FR-B15 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 28 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | 470 x 420 x 400 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 3.5 กิโลกรัม |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 1,500 วัตต์ |
ต่อมาเป็นอีกหนึ่งรุ่นระดับสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ จากวัสดุในการผลิตที่ทนทานต่อความร้อนได้ในระดับสูง และคงคุณค่าทางอาหารของวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้แบบดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผัก, ผลไม้ หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ โดยที่ในส่วนของการใช้งานนั้น จะใช้งานเป็นการทำความร้อน ด้วยระบบแท่งฮีตเตอร์แบบคู่ ซึ่งสามารถรองรับการให้ความร้อนในการประกอบอาหาร 2 ชั้นได้อย่างเพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยขนาดความจุในการประกอบอาหาร ที่ทำพร้อมกันได้มากถึง 28 ลิตร ก็ส่งผลให้รุ่นนี้ประกอบอาหารพร้อมกันได้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ปริมาตรความจุในการประกอบอาหารสูงถึง 28 ลิตร
✓ ระบบทำความร้อนแบบแท่งฮีตเตอร์คู่
✓ ฟังก์ชันการใช้งานเลือกปรับได้หลากหลายรูปแบบ
ข้อเสีย
✘ ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานค่อนข้างสูง
5. BEAR BR0013
★★★★★
หม้อนึ่งไฟฟ้า แบบ 2 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้คุณประกอบอาหารได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | BEAR BR0013 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 4 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | 335 x 293 x 236 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2.17 กิโลกรัม |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 650 วัตต์ |
BEAR BR0013 จัดเป็นรุ่นขนาดเล็ก ของ หม้อนึ่ง ระบบไฟฟ้า ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งภายในบ้านและห้องคอนโดทุกขนาด จากขนาดตัวเครื่องที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป ซึ่งทำให้การจัดเก็บสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และไม่กินพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านของคุณมากเท่าไหร่นัก ส่วนในเรื่องของขนาดความจุในการประกอบอาหารนั้น จะทำได้พร้อมกันสูงสุดถึง 4 ลิตรต่อหนึ่งรอบการใช้งาน โดยที่จะใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานของตัวเครื่องอยู่ในระดับที่ต่ำแค่ 650 วัตต์เพียงเท่านั้นครับ
ข้อดี
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าในการเปิดทำงานเพียง 650 วัตต์
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
✓ ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บไม่มากเท่าไหร่นัก
ข้อเสีย
✘ –
6. TEFAL VC145130
★★★★★
หม้อนึ่งไฟฟ้า ขนาด 6 ลิตรจากแบรนด์ Tefal ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจ ด้วยระยะเวลาการรับประกันที่ให้มาสูงสุดถึง 2 ปีหลังการใช้งาน
ยี่ห้อ / รุ่น | TEFAL VC145130 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 6 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | – |
TEFAL VC145130 นับเป็น หม้อนึ่ง ระบบไฟฟ้าขนาดมาตรฐานจากแบรนด์ Tefal ที่มาพร้อมขนาดความจุในการประกอบอาหาร 6 ลิตร และจำนวนชั้นในการประกอบอาหารที่ให้มาด้วยกันทั้งหมดถึง 2 ชั้น ซึ่งเลือกปรับระยะเวลาในการนึ่งได้สูงสุดถึง 60 นาที ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปของผู้คนในหนึ่งครอบครัวได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการอบนึ่งผักหรือเนื้อสัตว์ นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ตัวอุปกรณ์จึงยังมีการแถมการรับประกันสินค้ามาให้สูงสุดถึง 2 ปีหลังการเปิดใช้งานตัวเครื่องเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ การรับประกันสินค้าที่ให้มายาวนานสูงสุดตลอด 2 ปี
✓ ตั้งเวลาในการนึ่งอาหารได้สูงสุด 60 นาที
✓ ฟังก์ชันการใช้งานที่กดเลือกใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
✘ จำนวนชั้นที่มีให้ใช้งานได้เพียงแค่ 2 ชั้น
7. หม้อนึ่งไฟฟ้า Tefal VC100630
★★★★★
เครื่องนึ่ง ระบบไฟฟ้าขนาด 9 ลิตร ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดสวยงาม และใช้งานได้อย่างเพียงพอสำหรับสายสุขภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | Tefal VC100630 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 9 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | 230 x 274 x 365 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 900 วัตต์ |
Tefal VC100630 เรียกได้ว่าเป็น หนึ่งในรุ่นสุดน่าสนใจ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของหลาย ๆ บ้านเป็นอย่างมาก ในปี 2023 นี้ จากสเปกภายในและรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ที่ได้ถูกมาให้สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นขนาดความจุในการประกอบอาหารที่ให้มาทั้งหมด 9 ลิตร, ขนาดความจุของแทงค์น้ำที่รองรับได้ 1.8 ลิตร, การใช้กำลังไฟฟ้าในการเปิดทำงาน 900 วัตต์, ฟังก์ชันการตั้งเวลานึ่งอาหารล่วงหน้า ที่ทำได้สูงสุดถึง 6o นาที และวัสดุในการผลิตตัวสินค้าที่ใช้งานเป็นพลาสติก PP ความทนทานสูง ที่ใช้งานได้แบบไร้สารก่อมะเร็ง เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ ขนาดความจุในการประกอบอาหารระดับมาตรฐาน 9 ลิตร
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานเพียง 900 วัตต์
✓ วัสดุในการผลิตมีความแข็งแรงและทนทานความร้อนได้ในระดับสูง
ข้อเสีย
✘ ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บพอสมควร
8. Russell Hobbs 19270-56
★★★★★
หม้อนึ่งไฟฟ้า รุ่นขนาดความจุในการประกอบอาหาร 9 ลิตร ที่ทำงานได้อย่างประหยัดพลังงาน ด้วยกำลังไฟฟ้าในการเปิดใช้งานเพียง 800 วัตต์
ยี่ห้อ / รุ่น | Russell Hobbs 19270-56 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 9 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 800 วัตต์ |
ถัดมาเป็นรุ่นระดับกลาง ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปภายในบ้านได้อย่างเพียงพอ ทั้งจากขนาดความจุในการประกอบอาหาร ที่ทางแบรนด์ได้ให้มาใน ระดับ 9 ลิตร ซึ่งจะทำงานโดยใช้กำลังไฟฟ้าในการประกอบอาหารเพียง 900 วัตต์, การตั้งเวลาในการประกอบอาหารล่วงหน้า ที่ทำได้ สูงสุดถึง 60 นาที หากต้องการนึ่งอาหารในระยะยาว ไปจนถึงจำนวนชั้นในการประกอบอาหารทั้งหมด 3 ชั้น ที่ถูกออกแบบแต่ละชั้นมาสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งในส่วนของการหุงข้าวและ อุ่นอาหาร รุ่นนี้ก็ยังทำได้จากขนาดความจุของโถประกอบอาหาร ที่ให้ขนาดความจุมาในระดับ 1 ลิตรอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
✓ เหมาะสำหรับการใช้งานของสายสุขภาพ
✓ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปภายในบ้าน
ข้อเสีย
✘ ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างสูง
9. Imarflex SC-532
★★★★★
เครื่องนึ่งอุ่นอาหารจากแบรนด์ Imarflex แบบ 3 ชั้น ที่สามารถตั้งระยะเวลาในการทำงานได้สูงสุดถึง 90 นาที
ยี่ห้อ / รุ่น | Imarflex SC-532 |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | – |
ขนาดตัวสินค้า | 370 x 253 x 275 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2.7 กิโลกรัม |
ตั้งเวลาสูงสุด | 90 นาที |
กำลังไฟฟ้า | 700 วัตต์ |
Imarflex SC-532 ยังคงเป็นอีกหนึ่งรุ่นของเครื่องนึ่งอุ่นอาหารแบบ 3 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของคนทั่วไปในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะ โดยที่ความโดดเด่นสำคัญที่ทางแบรนด์ได้ใส่มาให้ในรุ่นนี้ จะเป็นในส่วนของระยะเวลาการตั้งเวลาในการอุ่นอาหารสูงสุด ที่ตัวเครื่องจะทำได้มากถึง 90 นาที ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่มากกว่ารุ่นอื่น ๆ ในบทความนี้อยู่พอสมควร ที่สำคัญด้วยการใช้กำลังไฟฟ้าในการเปิดทำงานเพียง 700 วัตต์ ก็ยังส่งผลให้รุ่นนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปิดทำงานได้เป็นอย่างมากด้วยครับ
ข้อดี
✓ การตั้งเวลาในการอุ่นอาหารที่ทำได้มากถึง 90 นาที
✓ ประหยัดพลังงานได้แบบดีเยี่ยม
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ข้อเสีย
✘ วัสดุที่ใช้ในการผลิตอาจดูไม่มีความหรูหรามากเท่าไหร่นัก
10. OTTO หม้อนึ่งไฟฟ้า รุ่น SM212A
★★★★★
หม้อนึ่งไฟฟ้า มาพร้อมกับ ถาดนึ่ง 3 ชั้น สามารถเลือกใช้งานได้ที่ละชั้น หรือพร้อมกันได้
ยี่ห้อ / รุ่น | OTTO รุ่น SM212A |
ขนาดความจุในการประกอบอาหาร | 2.5 ลิตร |
ขนาดตัวสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 |
กำลังไฟฟ้า | 850 วัตต์ |
สุดท้ายเป็น OTTO หม้อนึ่งไฟฟ้า รุ่น SM212A ที่ถูกผลิต ขึ้นมาสำหรับการใช้งานภายในบ้านทั่วไป และห้องคอนโดขนาดปกติโดยเฉพาะ ด้วยการเลือกปรับระดับความร้อน ที่ทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ผ่านการใช้งานปุ่มปรับหมุนบริเวณด้านหน้าของตัวอุปกรณ์ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ผลิตจากพลาสติกทนความร้อนสูงและสเตนเลสไม่เป็นสนิม ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายดายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ข้อดี
✓ ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
✓ วัสดุในการผลิตมีความทนทานในระดับมาตรฐาน
ข้อเสีย
✘ –
วิธีเลือกซื้อ หม้อนึ่งไฟฟ้า
6 วิธีการเลือกซื้อ หม้อนึ่งไฟฟ้า
1. เลือกจากขนาดความจุของหม้อแต่ละรุ่น
สิ่งแรกที่ควรให้ความสนใจการเลือกซื้อหม้อนึ่งไฟฟ้าซักหนึ่งเครื่องมาไว้ สำหรับการใช้งานภายในบ้านของคุณ จะเป็นในส่วนของขนาดความจุในการประกอบอาหาร ที่หม้อรุ่นนั้น ๆ รองรับได้ในการใช้งาน เนื่องจากสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงปริมาณอาหารสูงสุด ที่คุณจะสามารถทำได้ในหนึ่งรอบการใช้งาน โดยแน่นอนว่ารุ่นที่มีขนาดใหญ่มากกว่า และมาพร้อมจำนวนชั้นในการนึ่งอาหารที่มากกว่า ก็จะต้องประกอบอาหารพร้อมกันได้มากกว่าตามไปด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ในการตัดสินใจเลือกซื้อนั้น หากคุณต้องการใช้งานในพื้นที่ ที่จะต้องมีผู้รับประทานอาหารเป็นจำนวนมาก ก็ควรเลือกดูจากรุ่นที่มีขนาดใหญ่ และขนาดความจุของอาหารสูงมากกว่าเสียก่อน แต่หากไม่ได้มีจำนวนผู้คนที่ต้องการรับประทานอาหารมากขนาดนั้น การเลือกรุ่นที่มีขนาดแค่เพียงพอต่อการใช้งาน ก็น่าจะเหมาะสมสำหรับการประกอบอาหารภายในพื้นที่นั้นมากพอแล้วครับ
2. พิจารณากำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการเปิดใช้งาน
จากการถูกออกแบบตัวอุปกรณ์ให้ทำงานได้ ด้วยการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าเข้ากับตัวเครื่อง เป็นผลให้ในระหว่างการใช้งาน ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นค่าไฟฟ้าด้วยนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่มีกำลังไฟฟ้าในการทำงานที่มากกว่า ที่ถึงแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่า แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้นก็จะต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน ส่วนในเรื่องของมอเตอร์ที่ถูกใส่มาให้ภายในอุปกรณ์ตัวนั้น ๆ ก็จะต้องมีความเหมาะสมและรองรับกำลังไฟฟ้าได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์ ดังนั้น ถ้าต้องการเลือกซื้อรุ่น ที่คุ้มค่ามาก ที่สุด สำหรับการใช้งานทั่วไปภายในที่ที่คุณต้องการเปิดใช้งาน การพิจารณาในส่วนของกำลังไฟฟ้า ที่จะใช้ในการเปิดทำงานของตัวเครื่อง ก็นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกลืมไปในการพิจารณาด้วยเช่นกันครับ
3. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของตัวสินค้า
เนื่องจากสินค้าตัวนี้เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงานของระบบไฟฟ้า ทำให้ในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ที่ทางแบรนด์ได้ใช้ในการผลิต ก็จัดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่คุณจะต้องตรวจสอบก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อด้วยเช่นกัน เพื่อให้คุณมั่นใจได้มากที่สุดถึงความปลอดภัย เมื่อจะต้องใช้งานอุปกรณ์ตัวดังกล่าวในช่วงเวลาที่คุณต้องการ โดยที่ในส่วนของการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานนั้น ก็จะทำได้อย่างง่ายดายจากการสังเกตดูจากฉลากบนบรรจุภัณฑ์ และตรามาตรฐานต่าง ๆ ที่ถูกสลักลงบนตัวสินค้า แต่หากคุณไม่ทราบว่ามาตรฐานใด ที่ควรมีอยู่บนอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกประเภท การศึกษาดูจากช่องทางออนไลน์ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ ก็ถือเป็นเรื่องที่ฉลาดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
4. ให้ความสำคัญกับความหลากหลายในการใช้งานของตัวเครื่อง
ในส่วนของความหลากหลายในการใช้งานของอุปกรณ์ นั้นจัดเป็นหนึ่งในปัจจัยเสริม ที่จะช่วยให้คุณใช้งานตัวสินค้าได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากสินค้าประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งหลัก ๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในครัวปกติ ทำให้ผู้ผลิตในหลากหลายแบรนด์ จึงมีการออกแบบสินค้าของตนให้มีความหลากหลายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดในการเลือกซื้อสินค้าซักหนึ่งรุ่น โดยที่ฟังก์ชันการใช้งานเสริมอื่น ๆ ที่จะสามารถพบเห็นได้ในอุปกรณ์ประเภทนี้ก็ ยกตัวอย่างเช่น อบอาหาร, หุงข้าว , การอุ่นอาหาร ไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งานรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงกัน โดยนอกจากการเลือกซื้อจากส่วนนี้เป็นหลัก จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่าในการใช้งานสินค้าที่มากยิ่งขึ้นแล้ว ในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานเสริม ที่ถูกใส่มาให้สำหรับการใช้งานนั้น ยังจะช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้มากยิ่งขึ้น จากความครบครันในตัวอุปกรณ์ ที่รองรับการใช้งานได้มากกว่าการนึ่งอาหารอีกด้วยครับ
5. คำนึงถึงพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บตัวอุปกรณ์
หม้อนึ่งไฟฟ้า ตามปกติแล้วเป็นสิ่ง ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทำให้โดยส่วนใหญ่มักจะมีการใช้งานแบบเป็นครั้งคราว และจัดเก็บใส่ตู้เพื่อการใช้งานในรอบถัดไปมากกว่า ดังนั้นเพื่อให้การจัดเก็บทำได้แบบไม่กินพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากเท่าไหร่นัก การคำนึงถึงพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บตัวเครื่อง จึงนับเป็นส่วนสำคัญที่คุณจะต้องพิจารณาและให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ที่สำคัญการเลือกซื้อสินค้าจากรายละเอียดในส่วนนี้ ยังจะเป็นส่วนที่ช่วยให้คุณจำกัดการเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสม สำหรับการใช้งานภายในบ้านของคุณได้ง่ายดาย และสะดวกมากยิ่งขึ้นในเวลาเดียวกันด้วยครับ
6. เลือกดูจากระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันสินค้า
จากที่เราได้กล่าวไปแล้วถึงรายละเอียดในส่วนของ มาตรฐานความปลอดภัย ที่ทางแบรนด์ได้ใช้งานในการผลิตตัวสินค้า ซึ่งเป็นส่วนที่มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการใช้งาน แต่นอกจากรายละเอียดในส่วนดังกล่าวแล้ว เรื่องของระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันที่ถูกแถมมาให้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีความจำเป็น หากต้องการให้ตัวเครื่องมีความคุ้มค่าในส่วนนี้มากที่สุดด้วยเช่นกัน โดยที่ในด้านของการรับประกันสินค้านั้น จะเป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานของคุณได้อีกหนึ่งขั้น หากคุณต้องการใช้งานตัวสินค้าในระยะยาว เนื่องจากจะแสดงให้เห็นถึงการรับประกันต่อความเสียหาย และการซ่อมแซมในกรณีที่ไม่สามารถใช้งานตัวเครื่องได้ นอกจากนี้รายละเอียดในส่วนดังกล่าวยังจะทำให้คุณเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการเลือกซื้อได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
บทสรุป
หม้อนึ่งอาหารนั้นจัดเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการประกอบอาหารแบบเฉพาะทางอย่างแท้จริง จากรูปแบบการผลิตในการผลิต ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการทำอาหารในรูปแบบการนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งถึงแม้บางรุ่นจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้มากกว่าการเป็นเพียงหม้อนึ่ง แต่จากการพิจารณาในส่วนหลักจองการเปิดทำงาน ก็จัดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่คุณควรจะต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน
โดยที่ในส่วนของรายละเอียดที่ทางเราอยากจะแนะนำให้คุณลองพิจารณาในการตัดสินใจซื้อนั้น จะประกอบไปด้วยในเรื่องของขนาดความจุในการประกอบอาหาร ที่หม้อแต่ละรุ่นถูกออกแบบมา , กำลังไฟฟ้าในการเปิดใช้งานตัวเครื่อง, มาตรฐานความปลอดภัยที่ผู้ผลิตใช้งาน, ฟังก์ชันการใช้งานเสริมรูปแบบอื่น ๆ ที่ถูกใส่มาให้m พื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บตัวสินค้า ไปจนถึงระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันต่าง ๆ ที่ถูกแถมมาให้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งสิ้น โดยหากคุณได้ลองเลือกซื้อดูจากทั้งหมด 10 รุ่นที่ เราได้แนะนำไป และสนใจในการเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ในบทความนี้ ก็สามารถกดสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงก์ที่เราได้แนบมาให้ และรอรับพัสดุที่จะส่งไปถึงหน้าบ้านคุณได้เลยครับ