10 อันดับ เครื่องดูดควัน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2022
สำหรับห้องครัวแบบครบวงจร ที่หลาย ๆ บ้านสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น จะมีองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ มากมาย ที่มีความสำคัญแตกต่างกันออกไปในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องครัว หรือแม้แต่องค์ประกอบส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นจะต้องมีในการใช้งาน ซึ่งในแต่ละส่วนขององค์ประกอบเหล่านั้น ก็จะยังมีส่วนแยกย่อยต่าง ๆ ออกมาอีกพอสมควรด้วยเช่นกัน โดยหากกล่าวถึงหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญ ที่จะช่วยควบคุมกลิ่นภายในบ้านให้ดีได้มากที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ในการประกอบอาหารต่าง ๆ หลุดลอดออกไปติดยัง เฟอร์นิเจอร์ อื่น ๆ ภายในบ้านของคุณ ก็คงจะเป็น เครื่องดูดควัน หนึ่งในอุปกรณ์แบบติดเพดาน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในด้านนี้ อย่างตรงจุดมากที่สุดนั่นเอง ซึ่งจากการที่ เครื่องดูดควัน นี้เป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในระยะยาวนานหลายปี และจำเป็นจะต้องเลือกซื้อเพียงครั้งเดียว ตลอดอายุการใช้งาน ก็ส่งผลให้ในส่วนของการพิจารณาเลือกซื้อ จำเป็นต้องตัดสินใจให้รอบคอบ และ ถี่ถ้วนมากที่สุดตามไปด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น เพื่อให้การพิจารณาเลือกซื้อของคุณทำได้รวดเร็วง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเป็นการจำกัดตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าไปด้วยในเวลาเดียวกัน วันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 รุ่นน่าสนใจในราคากำลังดี มาให้คุณลองเลือกซื้อไปพร้อมกันกับเราเรียบร้อยแล้ว โดยที่ทางเราเชื่อว่าจากทั้งหมด 10 รุ่นใน วันนี้ จะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งรุ่นที่เหมาะสมกับ บ้านคุณมาก ที่สุด อย่างแน่นอนครับ
แนะนำ 10 อันดับ เครื่องดูดควัน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
- TECNOGAS TNP SIGARO 36 SS
- เครื่องดูดควัน TEKA LDH TC 90
- HAFELE HH-TT0690QCC
- Lucky Flame RG-971T
- EVE HC-HEE52J-90
- GRACE G 400.7
- Electrolux EFT6510X
- OXYGEN VA-2690C-P3
- FRANKE FTC 632L GR/XS
- GALAXY KW16-T
1. TECNOGAS TNP SIGARO 36 SS
★★★★★
เครื่องดูดควัน รูปทรงกระบอก รุ่นประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ จัดการกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยรอบได้เป็นอย่างดี
ยี่ห้อ / รุ่น | TECNOGAS TNP SIGARO 36 SS |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 358 x 358 x 1,258 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
รุ่นแรก เป็น ที่ดูดควัน รุ่นระดับสูงจากแบรนด์ TECNOGAS ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามทันสมัย และดูมีความแข็งแรงทนทานไปด้วยในเวลาเดียวกัน จากวัสดุในการผลิตสินค้าที่ใช้งานเป็นสเตนเลสคุณภาพยอดเยี่ยม ส่วนในเรื่องของการใช้งานนั้น ด้วยความที่ตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบมาให้เป็นอุปกรณ์สำหรับติดตั้งบริเวณกลางห้อง จึงทำให้สามารถจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์โดยรอบห้องครัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่การเลือกปรับระดับความแรงในการดูดอากาศนั้น จะทำได้สูงสุดทั้งหมด 3 รูปแบบ ที่จะช่วยให้เลือกปรับใช้งานได้สถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการตั้งเวลาปิดแบบอัตโนมัติสูงสุด 3 นาที ที่จะช่วยให้การใช้งานมีความสะดวกสบายมากขึ้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ สามารถจัดการกับกลิ่นและควันได้ในบริเวณกว้าง
✓ วัสดุที่ช้ในการผลิตมีความแข็งแรงทนทานสูง
✓ การรับประกันมอเตอร์ที่ให้มายาวนานสูงสุดตลอด 8 ปี
ข้อพิจารณา
✘ จำเป็นจะต้องติดตั้งบริเวณกลางห้องเพียงเท่านั้น
2. TEKA LDH TC 90
★★★★★
เครื่องดูดอากาศแบบติดผนัง ที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยกำลังในการดูดของตัวเครื่อง ที่ให้มามากถึง 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | TEKA LDH TC 90 |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 900 x 500 x 400 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
TEKA LDH TC 90 เป็นรุ่นติดผนังที่ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์สุดหรูหราคลาสสิก และสามารถตกแต่งเข้าชุดกันกับอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว จากวัสดุในการผลิตและโทนสีที่ใช้เป็นสีดำสลับกับสีเงิน โดยที่รายละเอียดส่วนต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์ได้ผลิตมาให้เราใช้งานกันในรุ่นนี้ จะประกอบไปด้วย กำลังในการดูดอากาศของตัวเครื่อง ที่ทำได้สูงสุดในระดับ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, ความสามารถในการเลือกปรับระดับแรงลม ที่มีออกมาให้เลือกใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระดับ และขนาดฐานของตัวสินค้าที่ใช้พื้นที่ในการติดตั้ง 90 เซนติเมตร เป็นต้น ที่สำคัญเพื่อเพิ่มความง่ายและสะดวกสบายในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องจึงยังมีการออกแบบบริเวณส่วนสั่งการให้ออกมาเป็นรูปแบบของระบบสัมผัสอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ แผงควบคุมการทำงานแบบระบบสัมผัส
✓ ดีไซน์การออกแบบมีความเรียบหรูทันสมัย
✓ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่มากนัก
ข้อพิจารณา
✘ การรับประกันที่ให้มาเพียง 1 ปี
3. HAFELE HH-TT0690QCC
★★★★★
เครื่องดูดควันรูปลักษณ์การออกแบบสุดทันสมัย ที่สั่งการการทำงานได้อย่างง่ายดาย ผ่านการใช้งานแผงควบคุมระบบสัมผัส
ยี่ห้อ / รุ่น | HAFELE HH-TT0690QCC |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | 323 วัตต์ |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | 72 เดซิเบล |
HAFELE HH-TT0690QCC จัดเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดน่าสนใจ ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบสุดโดดเด่นล้ำสมัย ทำให้สามารถติดตั้งร่วมกันกับเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินทุกรูปแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน, คอนโด หรือแม้แต่ร้านอาหาร ซึ่งด้วยการทำงานของมอเตอร์คุณภาพสูง ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายในของตัวสินค้า จึงทำให้รุ่นนี้รองรับการดูดอากาศภายในห้องครัวได้ ด้วยระดับความแรงสูงสุด 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่เลือกปรับระดับความแรงในการใช้งานได้ที่ 3 ระดับ ยิ่งไปกว่านั้นตัวอุปกรณ์ยังมีความโดดเด่นอยู่ในเรื่องของการตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ ที่ทำได้สูงสุดถึง 60 นาทีด้วยครับ
ข้อดี
✓ การตั้งเวลาปิดการทำงานแบบอัตโนมัติสูงสุด 60 นาที
✓ กำลังในการดูดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
✓ ดีไซน์การออกแบบมีความสวยงามทันสมัย
ข้อพิจารณา
✘ ระดับเสียงในการเปิดใช้งานอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
4. Lucky Flame RG-971T
★★★★★
ที่ดูดควันแบบปรับระดับแรงลงได้ 3 รูปแบบจากแบรนด์ Lucky Flame ที่ใช้งานดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิก และดูแข็งแรงทนทานไปด้วยยในเวลาเดียวกัน
ยี่ห้อ / รุ่น | Lucky Flame RG-971T |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 900 x 480 x 1,045 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
สำหรับรุ่นนี้นับเป็นรุ่นดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิก ที่มาพร้อมสเปกโดยรวมจัดอยู่ในระดับพื้นฐาน ส่งผลให้ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างเพียงพอในทุกสถานการณ์ เริ่มตั้งแต่กำลังในการดูดอากาศ ที่ให้มาสูงสุดประมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, การปรับระดับแรงลมในการใช้งาน ที่มีให้เลือกใช้ได้ทั้งหมดถึง 3 ระดับ ไปจนถึงระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ ซึ่งให้มายาวนานสูงสุดตลอด 3 ปี ที่สำคัญรุ่นนี้ยังจัดเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สั่งการการทำงานในส่วนต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย จากการถูกออกแบบบริเวณแผนควบคุมหรือส่วนสั่งการต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นรูปแบบดิจิทัลหรือระบบสัมผัสด้วยนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ ประหยัดพลังงานได้อย่างมีคุณภาพ
✓ แผงควบคุมใช้งานเป็นระบบสัมผัส
✓ ดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิกติดตั้งกับห้องครัวได้ทุกรูปแบบการตกแต่ง
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่ใช้พื้นที่ในการติดตั้งพอสมควร
5. EVE HC-HEE52J-90
★★★★★
เครื่องดูดควันแบบติดผนังจากแบรนด์ EVE ที่ทำงานได้ด้วยกำลังในการดูดสูงสุด 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | EVE HC-HEE52J-90 |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 4 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 900 x 480 x 1,095 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
ต่อมาเป็นเครื่องดูดอากาศแบบติดผนัง ที่มีสเปกโดยรวมจัดอยู่ในระดับที่สูงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่พอสมควร ทั้งจากกำลังในการดูดอากาศ ที่ให้มาสูงสุดในระดับ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจัดเป็นระดับที่สูงเป็นอย่างมาก สำหรับสินค้าที่มีระดับราคาจัดอยู่ในระดับนี้, ระดับความแรงลมในการดูดอากาศ ที่เลือกใช้งานได้มากถึง 4 รูปแบบ และขนาดความกว้างในการติดตั้งกับผนัง ที่จะมีความเหมาะสมในช่วงประมาณ 90 เซนติเมตร นอกจากนี้ด้วยการติดตั้งแผ่นกรองแบบ Baffle Filter ก็ยังเป็นส่วนที่ทำให้ตัวเครื่องรองรับการกรองไอน้ำมันได้เป็นอย่างดีในระหว่างการใช้งานด้วยครับ
ข้อดี
✓ การติดตั้งแผ่นกรองไอน้ำมันแบบ Baffle Filter
✓ กำลังในการดูดอากาศที่ให้มา 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
✓ ฟังก์ชันการตั้งเวลาเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ
ข้อพิจารณา
✘ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งพอสมควร
6. GRACE G 400.7
★★★★★
เครื่องดูดควันแบบสลิมไลน์ที่ติดตั้งได้แบบไม่กินพื้นที่ จากดีไซน์การออกแบบที่ไม่มีปล่องดูดควันเช่นเดียวกันกับรุ่นอื่น ๆ
ยี่ห้อ / รุ่น | GRACE G 400.7 |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 700 x 320 x 200 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
หากคุณกำลังมองหารุ่นที่ประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง และมาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่มีความโดดเด่นออกมาจากรุ่นอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง รุ่นนี้จะนับเป็นหนึ่งในรุ่นที่คุณควรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากรูปลักษณ์ดีไซน์ตัวเครื่องที่ใช้งานเป็นแบบสลิมไลน์ ส่งผลให้ไม่จำเป็นจะต้องมีปล่องดูดควันทรงยาว ที่ค่อนข้างเปลืองพื้นที่ในการติดตั้ง และเป็นผลให้เหมาะสำหรับการติดตั้งกับห้องครัว ที่มีตู้เก็บของด้านบนเป็นอย่างมาก อีกทั้งจากการติดตั้งคาร์บอนสำหรับการดูดกลิ่น ก็เป็นส่วนที่ช่วยให้รุ่นนี้ควบคุมกลิ่นได้ดีมากกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ แผงควบคุมระบบสัมผัส
✓ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่มากนัก
✓ คาร์บอนสำหรับการจัดการกลิ่นไม่พึงประสงค์
ข้อพิจารณา
✘ –
7. Electrolux EFT6510X
★★★★★
ที่ดูควันขนาดเล็กกะทัดรัด 60 เซนติเมตรจากแบรนด์ Electrolux ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็กอย่างห้องครัวของคอนโดและหอพัก
ยี่ห้อ / รุ่น | Electrolux EFT6510X |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 520 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | 330 วัตต์ |
ขนาดตัวเครื่อง | 598 x 160 x 300 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | 50 ถึง 60 เดซิเบล |
Electrolux EFT6510X เรียกได้ว่าเป็นรุ่นขนาดเล็ก ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ห้องครัวของคอนโด ซึ่งมีพื้นที่จำกัดเป็นอย่างมาก จากการถูกออกแบบรูปลักษณ์ตัวเครื่องให้สามารถติดตั้งบริเวณตู้ด้านบนได้อย่างลงตัว โดยที่นส่วนของรายละเอียดในการทำงานต่าง ๆ จะประกอบด้วยกำลังไฟฟ้าในการทำงานที่ทำได้ 520 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, การเลือกปรับระดับแรงลมที่ทำได้ 3 ระดับ, กำลังไฟฟ้าในการทำงานที่ใช้เพียง 330 วัตต์ และระดับความดังในการทำงาน ที่อยู่ในช่วงประมาณ 50 ถึง 60 เดซิเบล เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ สามารถติดตั้งบริเวณตู้เก็บของด้านบนได้
✓ ระดับเสียงในการทำงานไม่ดังมากนัก
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าไม่สูงมากนัก
ข้อพิจารณา
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องครัวขนาดใหญ่
8. OXYGEN VA-2690C-P3
★★★★★
เครื่องดูดอากาศรูปคลาดสิกที่ดูแข็งแรงทนทานอย่างยอดเยี่ยม จากการใช้งานวัสดุสเตนเลสคุณภาพสูงในการผลิต
ยี่ห้อ / รุ่น | OXYGEN VA-2690C-P3 |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 895 x 500 x 450 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | – |
รุ่นนี้เป็นรุ่นสเตนเลสแบบติดผนัง ที่ใช้งานดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิก และดูแข็งแรงทนทานอย่างยอดเยี่ยม ส่วนในเรื่องของสเปกและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกใส่มาให้ภายในตัวเครื่องนั้น ก็ยกตัวอย่างเช่น กำลังในการดูดอากาศของตัวเครื่อง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, ระดับความแรงลมที่เลือกใช้งานได้ 3 ระดับ และตัวกรองไขมัน 2 ชั้น สำหรับดักจับคราบความมันต่าง ๆ เป็นต้น ที่สำคัญเพื่อให้การทำความสะอาดทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ตัวอุปกรณ์จึงยังมีการออกแบบมาให้แผงดูดอากาศ สามารถถอดออกได้อย่างสะดวกและรวดเร็วอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ถอดเปลี่ยนแผงดูดอากาศได้ง่าย
✓ ตัวกรองไขมันแบบ 2 ชั้น
✓ วัสดุในการผลิตมีความแข็งแรงทนทานสูง
ข้อพิจารณา
✘ –
9. FRANKE FTC 632L GR/XS
★★★★★
เครื่องดูดควันแบบสลิมไลน์จากแบรนด์ FRANKE ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งกับตู้เก็บของด้านบนได้อย่างพอดี
ยี่ห้อ / รุ่น | FRANKE FTC 632L GR/XS |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | 3 ระดับ |
กำลังไฟฟ้า | – |
ขนาดตัวเครื่อง | 598 x 280 x 175 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | 65 เดซิเบล |
FRANKE FTC 632L GR/XS เป็นรุ่นแบบสลิมไลน์ ที่มีขนาดความกว้างของตัวเครื่องประมาณ 60 เซนติเมตร ส่งผลให้เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องครัว ที่มีขนาดพื้นที่ในการใช้สอยไม่มากเท่าไหร่นัก โดยที่จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ จะอยู่ในเรื่องของขนาดเล็กกะทะรัด ที่ทำให้ตัวเครื่องใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย และมีการประหยัดพลังงานที่ดีเยี่ยมไปด้วยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งในส่วนของกำลังในการดูดที่ให้มา ก็นับว่าตอบโจทย์การใช้งานในห้องคอนโดหรือหอพักได้ดีมากเพียงพอแล้วด้วยครับ
ข้อดี
✓ ระดับเสียงในการเปิดทำงานอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก
✓ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย
✓ สามารถติดตั้งบนตู้เก็บของด้านบนของครัวได้
ข้อพิจารณา
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่
10. GALAXY KW16-T
★★★★★
ที่ดูดอากาศรุ่นดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามทันสมัย ที่จะช่วยยกระดับห้องครัวของคุณให้ดูหรูหราได้มากยิ่งขึ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | GALAXY KW16-T |
กำลังในการดูดของตัวเครื่อง | – |
ระดับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้ | – |
กำลังไฟฟ้า | 238 วัตต์ |
ขนาดตัวเครื่อง | 900 x 385 x 545 มิลลิเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างเปิดใช้งาน | 35 ถึง 48 เดซิเบล |
สุดท้ายเป็นรุ่นราคาประหยัด ที่มา พร้อมความกว้างขนาด 90 เซนติเมตร และ ถูกออกแบบ มาสำหรับห้องครัว ที่มีขนาดกลางไปจนถึงห้องที่มีขนาดใหญ่ โดยที่ในส่วนของการทำงานนั้น จะใช้แรงลมที่มีค่าแรงดันอยู่ในช่วง 330 Pa และใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานเพียงแค่ 238 วัตต์ รวมไปถึงยังมีเสียงในการทำงานที่เบาสุดเพียง 35 เดซิเบลอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นด้วยดีไซน์การออกแบบ ที่มีความสวยงามทันสมัย และสีที่มีการออกแบบมาอย่างสวยงามลงตัว ก็ยังทำให้สามารถติดตั้งร่วมกันกับห้องครัวทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ ระดับเสียงในการทำงานไม่สูงมากนัก
✓ ดีไซน์การออกแบบมีมีความเข้าชุดกันกับห้องครัวทุกสไตล์การตกแต่ง
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานไม่สูงมากนัก
ข้อพิจารณา
✘ ใช้พื้นที่ในการติดตั้งพอสมควร
เลือกซื้อ เครื่องดูดควัน อย่างไรดี ?
6 วิธีการเลือกซื้อ
1. เลือกจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
เนื่องจากตัวเลือกของสินค้าที่มีวางจำหน่ายให้เราเลือกซื้อกันได้ตามท้องตลาดนั้น จะมีอยู่ค่อนข้างหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ขนาดพื้นที่ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้ในขั้นตอนแรก ๆ ของการตัดสินใจซื้อ คุณจึงควรเลือกจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเครื่องเสียก่อน
เพราะแน่นอนว่าในแต่ละบ้านก็จะต้องมีขนาดของห้องครัว ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากคุณเลือกรุ่นที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป สำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ภายในครัวไม่มากนัก ก็อาจทำให้เสียงที่ส่งออกมามีความดัง และสิ้นเปลืองพลังงานมากจนเกินไปในการเปิดใช้งาน แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเลือกรุ่นที่มีขนาดเล็กมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ตัวเครื่องดูดควันทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็นด้วยนั่นเองครับ
2. พิจารณาดีไซน์การออกแบบที่เข้าชุดกันกับการตกแต่งภายในห้องครัว
เรื่องของดีไซน์การออกแบบนั้น ก็ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยในการตัดสินใจเลือกซื้อสิ่ง ที่มีความเป็นเฟอร์นิเจอร์และจะต้องถูกติดตั้งเพื่อการใช้งานในระยะยาวอย่างสินค้าประเภทนี้ เนื่องจากในการออกแบบและสร้างห้องครัวซักหนึ่งห้อง หลาย ๆ คนก็มักจะทำการเลือกส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มีดีไซน์การออกแบบ ใกล้เคียงและเข้าชุดกัน เพื่อให้ห้องครัวภายในบ้านของคุณมีความสวยงามมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ตัวเครื่องไม่มีความแปลกแยกออกมาจนเด่นสะดุดจามากเกินไป การพิจารณาถึงเรื่องดีไซน์การออกแบบก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ก็นับเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
3. ให้ความสำคัญกับกำลังในการดูดที่เลือกปรับได้
ในการใช้ชีวิตประจำวันนั้นเราไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนว่า จะทำอาหารที่มีกลิ่นแรง หรือ น้อยเพียงใด ในแต่ละวัน เป็นผลให้ในการเลือกซื้อ จึงควรมองหารุ่นที่เลือกปรับระดับในการดูดควันได้อย่างหลากหลายมากที่สุด เนื่องจากในแต่ละระดับความแรงในการเปิดใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่แน่นอนว่าจะต้องมีการใช้กำลังไฟฟ้า และมีระดับเสียงที่แตกต่างกันออกไปตามความสามารถหรือระดับแรงลม ซึ่งหากคุณประกอบอาหารที่มีกลิ่นแรง ก็จะทำให้สามารถปรับความแรงในการดูดอยู่ในระดับสูงได้ ในขณะที่การประกอบอาหารแบบเบา ๆ ก็จะเลือกใช้งานระดับความแรงที่ต่ำลงมาได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในเรื่องของระดับความแรงในการดูด ที่เลือกปรับได้ในการใช้งาน จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการใช้งานของตัวเครื่องด้วยนั่นเองครับ
4. ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันของตัวสินค้า
หากต้องการเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บข้อมูล และ ใช้งาน กล้องวงจรปิด Xiaomi ให้ดีได้มากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก่อนการตัดสินใจซื้อ จะเป็นในส่วนของการเชื่อมต่อแบบไร้สายเข้ากันกับเครื่องสมาร์ทโฟน ด้วยการทำงานของแอปพลิเคชัน ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายใน ตัวเครื่อง โดยที่ในเรื่องนี้นอกจากจะทำให้การสั่งการทำได้ง่ายดามากยิ่งขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้การตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ และการบันทึกวิดีโอแบบถ่ายทอดสดจากตัวกล้อง ทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
5. เลือกดูจาก กำลังในการดูดควัน ของตัวเครื่อง
กำลังในการดูดควัน ของ เครื่องดูดควัน แต่ละรุ่น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพการทำงาน และความสามารถในการใช้งานสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ทำให้หนึ่งในส่วนสำคัญที่ควรจะถูกนำมาพิจารณาเป็นอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ จึงเป็นในเรื่องกำลังในการดูดควัน ซึ่งจัดเป็นหน้าที่หลักที่ผู้ใช้งานจะต้องการในการเปิดใช้งานตัวเครื่องนั่นเอง โดยที่แน่นอนว่ารุ่นที่มีกำลังในการดูดควันสูงมากกว่า ก็จะต้องมาพร้อมระดับราคาที่สูงมากกว่า และมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากยิ่งกว่าด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกดูจากเรื่องของกำลังในการดูดควันของตัวเครื่อง ก็เป็นสิ่งที่มีผลต่อเนื่องไปกับระดับเสียงในการเปิดใช้งาน ที่เรากำลังจะกล่าวถึงเป็นหัวข้อถัดไปด้วยครับ
6. คำนึงถึงค่าความดังของเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน
หนึ่งในปัญหาสำคัญ ที่ไม่ควรถูกลืมไปในการตัดสินใจเลือกซื้อ คือ เรื่องของค่าระดับเสียง ที่ตัวอุปกรณ์จะส่งออกมาในระหว่างการเปิดใช้งานตัวเครื่อง โดยที่สิ่งนี้ตามปกติแล้วจะแปรผันไปกับกำลังในการดูดควันของตัวอุปกรณ์เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่มีกำลังในการดูดสูง และมาพร้อมประสิทธิภาพในการจัดการกับควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มากกว่า ก็จะต้องมีระดับเสียงในการเปิดทำงาน และค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งานที่สูงมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความที่ระดับราคามักจะอยู่ในช่วงที่สูงกว่า จึงทำให้ในส่วนของการปรับระดับความแรงในการดูดมีความหลากหลาย และส่งผลให้ค่าความดังก็จะมีความแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการความยืดหยุ่นและรุ่นที่ปรับระดับเสียงตามความต้องการในการใช้งานได้มากที่สุด การเลือกรุ่นที่มีจุดเด่นสำคัญอยู่ในด้านนี้ ก็นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
บทสรุป
จากที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าสินค้าประเภทนี้ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีระดับราคาที่สูง และถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในระยะยาว จึงทำให้ในการตัดสินใจเลือกซื้อซักหนึ่งเครื่องมาไว้ติดตั้งภายในบ้านของคุณ นับเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนรอบคอบ เพื่อให้ได้ใช้งานรุ่นที่มีความคุ้มค่ามากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งในส่วนของการเลือกซื้อให้ดีมากสุด อย่างที่เราได้กล่าวไปนั้น หลัก ๆ แล้วเราก็อยากจะแนะนำให้ลองพิจารณาดูจากสิ่งที่เราได้แนะนำไปเสียก่อน โดยที่ทุกสิ่งนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น และควรถูกนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อด้วยกันทั้งสิ้น แต่หากคุณได้ลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และไม่สามารถตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี สำหรับการใช้งานภายในบ้านของคุณ ในปี 2022 นี้ เราก็เชื่อว่าจากทั้งหมด 10 รุ่นที่เราได้รวบรวมมา น่าจะมีซักหนึ่งรุ่นที่ถูกใจคุณอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ