10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
เครื่องดูดความชื้น dehumidifier คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ ที่กำลังเริ่มได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นจากผู้ใช้งานทั่วทั้งโลกในขณะนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการเลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยที่หลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้นั้น จะเป็นการลดความชื้นสัมพัทธ์ที่มีอยู่บนอากาศบริเวณโดยรอบของพื้นที่ที่คุณเปิดใช้งาน เพื่อให้คุณมีสามารถหายใจในสถานที่นั้น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ควบคู่ไปกับการให้ความรู้สึกที่สบายและผ่อนคลายในการทำกิจกรรมอื่น ๆ มากที่สุดภายในบ้านไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญจากระดับราคาที่เปิดตัวมาไม่สูงมากจนเกินไป และเทรนด์การรักษาสุขภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ ทั้งในกลุ่มของผู้คนในวัยทำงานและผู้สูงอายุ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ที่เริ่มมองหาอุปกรณ์ตัวนี้มาไว้ในครอบครองสำหรับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากคุณเริ่มมีความรู้สึกกว่าอยากจะทดลองซื้อ และกำลังมองหารุ่นที่น่าสนใจทั้งในด้านของสเปก ฟังก์ชันการใช้งาน และระดับราคา ก็ลองเลือกซื้อไปพร้อมกันกับเราในบทความ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 นี้ ที่เราได้ คัดสรร 10 รุ่น น่าซื้อมาให้คุณได้ลองเลือกชมได้เลย
10 เครื่องดูดความชื้น ( dehumidifier ) ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
- HOMEMATE HOM-16H458
- Xiaomi Youpin NEW WIDETECH Internet Dehumidifier
- LG MD16GQSA1.ATH
- HOMEMATE HOM-1625Z2
- Bwell BDH-30
- HAFELE DEHUMIDIFIER
- SHANBEN Dehumidifier 12L
- HAFELE Dehumidifier
- Simplus Dehumidifiers
- Lecon Dehumidifier 15L
1. HOMEMATE HOM-16H458
★★★★★
เครื่องดูดความชื้นดีไซน์การออกแบบสุดล้ำสมัย รองรับการใช้งานในพื้นที่ 45 ตารางเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | HOMEMATE HOM-16H458 |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 45 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 410 x 265 x 665 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 18,000 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 640 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 48 เดซิเบล |
รุ่นแรกเป็นเครื่องดูดความชื้นที่มีดีไซน์การออกแบบสวยงามล้ำสมัย และรองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่สูงสุด 45 ตารางเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบป้องกันการสะสมตัวของเชื้อราที่บริเวณฝาผนังและเพดานบ้าน ที่จะช่วยให้บ้านของคุณปราศจากสิ่งสกปรกไปได้มากที่สุด ในขณะที่สามารถลดความชื้นภายในห้องได้มากถึง 40 ลิตรไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังมีการติดตั้งแผ่นกรองแบบ HEPA Filter ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักฝุ่นได้แบบมีคุณภาพ และยังทำความสะอาดได้ง่ายเพียงแค่เคาะฝุ่นออก โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเลยแม้แต่นิดเดียวอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ แผ่นกรองแบบ HEPA Filter คุณภาพสูง
✓ การลดความชื้นที่ปริมาตร 40 ลิตรต่อวัน
✓ รองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ 45 ตารางเมตร
ข้อเสีย
✘ น้ำหนักมากเคลื่อนย้ายได้ลำบาก
2. Xiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier
★★★★★
เครื่องลดความชื้นภายบ้านขนาด 18 ลิตรที่มีโหมดการทำงานทั้งหมด 5 รูปแบบ และเลือกปรับแรงลมตามความต้องการได้ทั้งหมด 3 ระดับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 40 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 334 x 220 x 470 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 240 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 38 เดซิเบล |
Xiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier เป็นเครื่องลดความชื้นที่มีขนาด 18 ลิตร และถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในห้องที่มีพื้นที่ขนาด 5 ถึง 40 ตารางเมตร ที่สามารถปรับระดับแรงลมในการใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระดับ และมีโหมดการใช้งานที่รองรับทั้งหมดถึง 5 รูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านตลอดวันไปได้อย่างยาวนานโดยรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากที่สุด อีกทั้งเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานยังสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อสั่งการการทำงานของตัวเครื่องในรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
ข้อดี
✓ สั่งการตัวเครื่องผ่านแอปพลิเคชันได้
✓ โหมดการใช้งาน 5 รูปแบบ
✓ เสียงรบกวนที่มีเพียง 38 เดซิเบล
ข้อเสีย
✘ ลดความชื้นได้เพียงแค่ 18 ลิตร
3. LG MD16GQSA1.ATH
★★★★★
เครื่องดูดความชื้นรุ่นขนาด 16 ลิตรจากแบรนด์ LG ที่มาพร้อมความสามารถในการทำงานระดับยอดเยี่ยม
ยี่ห้อ / รุ่น | LG MD16GQSA1.ATH |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | – |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
ระดับของเสียงรบกวน | 33 เดซิเบล |
LG MD16GQSA1.ATH เป็นสินค้ารุ่นระดับสูงที่ถูกออกแบบมา ให้คุณสามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากรายละเอียดการทำงานโดยรวม ที่ได้ถูกติดตั้งมาให้ของตัวสินค้า และการที่สามารถรองรับการดูดความชื้นได้ที่ระดับ 16 ลิตร โดยสิ่งที่ถือเป็นความน่าสนใจหลัก ๆ ในรุ่นนี้ จะเป็นเรื่องของการทำงาน ที่จะส่งออกระดับเสียงมาเพียง 33 เดซิเบล ซึ่งจะเป็นช่วงของระดับเสียง ที่จะไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเลยแม้แต่น้อย
ข้อดี
✓ ระดับเสียงรบกวนค่อนข้างต่ำ
✓ ขนาดความจุการดูดความชื้นสูงถึง 16 ลิตร
✓ ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง
ข้อเสีย
✘ ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างมาก
4. HOMEMATE HOM-1625Z2
★★★★★
เครื่องดูดความชื้นขนาดกำลังดีที่รองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาด 25 ตารางเมตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | HOMEMATE HOM-1625Z2 |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 25 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 343 x 240 x 512 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 13,000 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 460 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 46 เดซิเบล |
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นขนาดกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หอพัก หรือแม้แต่คอนโด ที่มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดอยู่ไม่เกิน 25 ตารางเมตร สำหรับการลดความชื้นภายในห้องและป้องกันกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตของคุณดำเนินไปได้อย่างสบายและปลอดภัยมากที่สุด ด้วยความชื้นที่สามารถลดได้มากถึง 25 ต่อหนึ่งวัน นอกจากนี้ด้วยการติดตั้งล้อและหูจับบริเวณด้านบนและด้านล่างของเครื่อง และน้ำหนักโดยรวมเพียง 13 กิโลกรัม ยังทำให้การเคลื่อนย้ายทำตำแหน่งได้ง่ายอยู่มากเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ หน้าจะ LCD สำหรับสั่งใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ
✓ การเคลื่อนย้ายที่ทำได้ง่าย
✓ เหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็ก
ข้อเสีย
✘ เสียงในการทำงานของตัวเครื่องค่อนข้างดัง
5. Bwell BDH-30
★★★★★
อุปกรณ์สำหรับการดูดความชื้นที่สามารถลดความชื้นในห้องได้มากถึง 30 ลิตรต่อวัน
ยี่ห้อ / รุ่น | Bwell BDH-30 |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 30 ถึง 50 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 280 x 370 x 580 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 1,800 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 650 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 51 เดซิเบล |
รุ่นนี้จัดเป็นสินค้าหนึ่งในรุ่น ที่ถูกออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาอย่างสวยงามทันสมัย และสามารถจัดวางได้อย่างไม่เปลืองพื้นที่มากจนเกินไป สำหรับในด้านของประสิทธิภาพการทำงานนั้น ตัวสินค้าจะสามารถรองรับการดูดความชื้นได้ในระดับ 30 ลิตรต่อวัน จากการทำงานที่มีประสิทธิภาพของตัวสินค้า และการครอบคลุมพื้นที่ในการใช้งานได้สูงสุดถึง 50 ตารางเมตร ด้วยการใช้งานกำลังไฟฟ้าโดยรวม ในระดับที่ต่ำเพียง 650 วัตต์เท่านั้น
ข้อดี
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ
✓ ขนาดความจุถังเก็บน้ำ 4 ลิตร
✓ รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
ข้อเสีย
✘ ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง
6. HAFELE Dehumidifier
★★★★★
เครื่องดูดความชื้นขนาดเล็กกะทัดรัดขนาด 5 ถึง 10 ตารางเมตร ที่เลือกซื้อตามความชื่นชอบได้มากถึง 4 สี
ยี่ห้อ / รุ่น | HAFELE Dehumidifier |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 10 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 200 x 147 x 282 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 1,500 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 25 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 45 เดซิเบล |
HAFELE Dehumidifier นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นของเครื่องดูดความชื้นแบบพกพา ที่ถูกผลิตขึ้นจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ HEFELE ด้วยดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิกและกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยน้ำหนักโดยรวมที่มีอยู่เพียงแค่ 1.5 กิโลกรัม และสามารถประหยัดพลังงานได้ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับเสียงในการทำงานที่ดังเพียง 45 เดซิเบลเท่านั้น ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมีจำนวนสีให้คุณเลือกซื้อตามความชื่นชอบได้มากสุดถึง 4 สี ซึ่งประกอบด้วย สีชมพู สีเขียว สีฟ้า และสีม่วงนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ จำนวนสีที่มีให้เลือกซื้อได้มากถึง 4 สี
✓ น้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม
✓ การประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย
✘ ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ขนาดเล็ก
7. SHANBEN Dehumidifier 12L
★★★★★
เครื่องสำหรับดูดความชื้นแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถควบคุมการทำงานได้สะดวกสบายผ่านทางแอปพลิเคชัน
ยี่ห้อ / รุ่น | SHANBEN Dehumidifier 12L |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 60 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 288 x 198 x 509 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 185 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 40 เดซิเบล |
SHANBEN Dehumidifier 12L นับเป็นตัวเลือกของสินค้า ที่ถูกออกแบบให้สามารถทำการจัดวาง และใช้งานได้อย่างเหมาะสมในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องน้ำ จากขนาดความจุในการทำความชื้น 12 ลิตรต่อวัน โดยในส่วนของรายละเอียดการใช้งานในด้านต่าง ๆ รุ่นนี้ก็ถือว่ามีการติดตั้งมาให้สามารถใช้งานได้อย่างน่าสนใจ ในขณะที่การจัดวางก็ยังสามารถทำได้ ด้วยการใช้พื้นที่ที่ไม่มากจนเกินไปอีกด้วย
ข้อดี
✓ การจัดวางที่ทำได้อย่างประหยัดพื้นที่
✓ สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าที่ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสีย
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องขนาดใหญ่
8. HAFELE Dehumidifier
★★★★★
เครื่องลดความชื้นรุ่นขนาดเล็ก ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
ยี่ห้อ / รุ่น | HAFELE Dehumidifier |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 20 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 228 x 150 x 373 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2,200 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 45 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 42 เดซิเบล |
หากสิ่งที่คุณกำลังมองหาเป็นสินค้ารุ่นขนาดเล็ก สำหรับการใช้งานภายในพื้นที่ที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร รุ่นนี้จะถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอย่างมาก จากการถูกออกแบบมาให้มีขนาด ที่สามารถจัดวางได้อย่างไม่กินพื้นที่มากจนเกินไป และการมีน้ำหนักเบาที่ทำให้การเคลื่อนย้ายการจัดวางสามารถทำได้ง่าย ในขณะที่ในการทำงานโดยรวมของตัวสินค้า จะใช้กำลังไฟฟ้าโดยรวมที่ต่ำเพียง 45 วัตต์เท่านั้น ส่งผลให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการเปิดทำงานต่อเนื่องได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้อดี
✓ ขนาดความจุของถังเก็บน้ำค่อนข้างสูง
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าในระดับต่ำเพียง 45 วัตต์
✓ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก
ข้อเสีย
✘ ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกันกับประสิทธิภาพการทำงาน
9. Simplus Dehumidifiers
★★★★★
เครื่องดูดความชื้น Simplus ที่สามารถใช้งานได้ทั้งภายในพื้้นที่พักอาศัยและออฟฟิต
ยี่ห้อ / รุ่น | Simplus Dehumidifiers |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 5 ถึง 15 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 146 x 146 x 227 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 23 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | 30 เดซิเบล |
Simplus Dehumidifiers เป็นสินค้ารุ่นขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน และการจัดวางเพื่อให้บนโต๊ะทำงาน จากประสิทธิภาพการทำงานของตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการลดความชื้นที่ระดับ 300 มิลลิลิตรต่อวัน ซึ่งครอบคลุมการใช้งานได้อย่างเพียงพอภายในห้อง, การใช้กำลังไฟฟ้าในระดับที่ต่ำเพียง 23 วัตต์, ขนาดความจุของถังเก็บน้ำในระดับ 600 มิลลิลิตร หรือแม้แต่การเปิดทำงานที่ง่ายดาย ด้วยการกดสั่งการบริเวณด้านบนของตัวสินค้า ที่ล้วนแล้วแต่ถูกติดตั้งมาให้เกินระดับราคาออกวางจำหน่ายด้วยกันทั้งสิ้น
ข้อดี
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
✓ ระบเสียงในการทำงานค่อนข้างต่ำ
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าที่ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสีย
✘ ประสิทธิภาพการดูดความชื้นไม่สูงมากนัก
10. Lecon Dehumidifier 15L
★★★★★
อุปกรณ์ลดความชื้นรุ่นขนาด 15 ลิตร ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตภายในบ้านได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | Lecon Dehumidifier 15L |
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน | 50 ตารางเมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 253 x 155 x 360 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 60 วัตต์ |
ระดับของเสียงรบกวน | – |
สุดท้ายเป็นสินค้ารุ่นระดับมาตรฐานของเครื่องดูดความชื้น ที่ถูกออกแบบมาให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างเพียง จากรายละเอียดและฟังก์ชันระดับมาตรฐาน ด้วยการทำงานของกำลังไฟฟ้าในระดับ 60 วัตต์ ซึ่งตัวสินค้าจะมีความสามารถในการลดความชื้นที่ระดับ 15 ลิตรต่อวัน และครอบคลุมการทำงานได้ในพื้นที่ขนาดสูงสุดถึง 50 ตารางเมตร ดังนั้น หากสิ่งที่คุณต้องการคือสินค้าราคาย่อมเยา ที่มีประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง รุ่นนี้ก็ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้อดี
✓ ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ
✓ รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่
✓ การจัดวางที่ใช้พื้นที่ไม่มากจนเกินไป
ข้อเสีย
✘ ฟังก์ชันการใช้งานโดยรวมอาจไม่หลากหลายมากนัก
วิธีการเลือก ซื้อเครื่องดูดความชื้น
- เลือกจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน
สิ่งแรกที่คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบก่อนการเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นเครื่องใหม่มาไว้สำหรับใช้งานภายในบ้านของคุณ จะเป็นในเรื่องของขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งเครื่องรุ่นนั้น ๆ รองรับการใช้ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่คุณเลือกซื้อมาอย่างเหมาะสมที่สุดกับขนาดของห้อง หรือพื้นที่ภายในบ้านของคุณที่ต้องการใช้งาน โดยที่หากคุณเลือกซื้อรุ่นที่รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่ใหญ่เกินกว่าห้องคุณมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ตัวเครื่องใช้พลังงานไฟฟ้ามากจนเกินความจำเป็น และอาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าภายในบ้านของคุณเพิ่มขึ้นไปได้ในเวลาเดียวกัน แต่หากเลือกรุ่นที่รองรับการใช้งานได้ไม่เพียงพอต่อขนาดห้องของคุณ ก็อาจมีผลให้ตัวอุปกรณ์ทำงานได้แบบไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้ใช้งานเครื่องรุ่นนั้น ๆ ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรจะเป็นด้วยเช่นกันครับ - พิจารณาระดับเสียงที่ไม่รบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
อีกหนึ่งสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากในการเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้น ที่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน คือ ระดับเสียงรบกวนที่เครื่องรุ่นนั้น ๆ จะส่งออกมาในระหว่างการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วรุ่นที่มีเสียงในการทำงานเบามากที่สุด ก็มักจะถูกเลือกซื้อเป็นลำดับแรก ๆ อยู่เสมอ เนื่องจากในระหว่างที่เปิดใช้งานตัวอุปกรณ์จะมีเสียงการทำงานของกลไกต่าง ๆ ที่เบามากกว่า ส่งผลให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณน้อยลงกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อให้ได้รุ่นที่ดีมากที่สุด การลองตรวจสอบในเบื้องต้นจากระดับเสียงที่รุ่นนั้น ๆ ส่งออกมาก่อนเรื่องอื่น ๆ ก็ฟังดูจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ - ตรวจสอบระดับของเสียงรบกวนที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
เนื่องจากเครื่องดูดความชื้นเป็นอุปกรณ์ที่มักจะถูกเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีผู้ใช้งานอยู่ภายบ้าน ทำให้การเลือกรุ่นที่มีเสียงดังมากจนเกินไปอาจจะไม่เหมาะสมมากเท่าไหร่นัก สำหรับการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานและผลที่อาจเกิดต่อสุขภาพร่างกายของคุณ ส่งผลให้การมองหารุ่นที่มีระดับเสียงในการทำงานต่ำมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควบคู่ไปกับการทำงานและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปในการเลือกซื้อเลยแม้แต่น้อยครับ - ให้ความสำคัญกับขนาดและน้ำหนัก
เครื่องใช้ไฟฟ้าแทบทุกประเภทในบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนตำแหน่งในการจัดวางได้ เพื่อจุดประสงค์ในด้านของการทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้าน ซึ่งอุปกรณ์ที่เราได้กล่าวไปอย่างเครื่องลดความชื้นก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อรุ่นที่มีขนาดกำลังดีและมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับขนาดของตัวเครื่อง ก็จะช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ตัวนี้ได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองครับ
บทสรุป
ในยุคปัจจุบันที่ปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศถูกจัดอยู่ในระดับวิกฤต และเป็นสิ่งที่มีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณในทุกช่วงเวลา จึงเป็นสิ่งที่ทำให้การมองหาอุปกรณ์เสริมสำหรับช่วยเพิ่มคุณภาพในการใช้ชีวิตของคุณอย่างเครื่องดูดความชื้น ก็กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตต่อเนื่องไปในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นมากที่สุด
และเพิ่มความรู้สึกสบายตัวในระหว่างการใช้ชีวิตในทุกช่วงเวลาไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยที่ในการเลือกซื้อให้เหมาะสม และ คุ้มค่ามากที่สุด นั้น ก็ควรเลือกพิจารณาจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการใช้งาน, ระดับเสียงที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน, และน้ำหนักโดยรวมที่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องเป็นหลัก ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมานั้นควรจะมีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับระดับราคามากที่สุด และหากคุณต้องการเลือกซื้อรุ่นที่มีความคุ้มค่าและน่าสนใจ ทั้งในด้านของระดับราคา, สเปกของตัวอุปกรณ์ และฟังก์ชันการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ในบทความ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 นี้ เราเชื่อว่าน่าจะมีคำตอบที่ดีที่สุดเอาไว้ให้คุณได้ลองเลือกซื้อแล้วอย่างแน่นอน