10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

Dehumidifier ยี่ห้อไหนดี เครื่องดูดความชื้น dehumidifier คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ ที่กำลังเริ่มได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นจากผู้ใช้งานทั่วทั้งโลกในขณะนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการเลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยที่หลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้นั้น จะเป็นการลดความชื้นสัมพัทธ์ที่มีอยู่บนอากาศบริเวณโดยรอบของพื้นที่ที่คุณเปิดใช้งาน เพื่อให้คุณมีสามารถหายใจในสถานที่นั้น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ควบคู่ไปกับการให้ความรู้สึกที่สบายและผ่อนคลายในการทำกิจกรรมอื่น ๆ มากที่สุดภายในบ้านไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญจากระดับราคาที่เปิดตัวมาไม่สูงมากจนเกินไป และเทรนด์การรักษาสุขภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ ทั้งในกลุ่มของผู้คนในวัยทำงานและผู้สูงอายุ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ที่เริ่มมองหาอุปกรณ์ตัวนี้มาไว้ในครอบครองสำหรับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากคุณเริ่มมีความรู้สึกกว่าอยากจะทดลองซื้อ และกำลังมองหารุ่นที่น่าสนใจทั้งในด้านของสเปก ฟังก์ชันการใช้งาน และระดับราคา ก็ลองเลือกซื้อไปพร้อมกันกับเราในบทความ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 นี้ ที่เราได้ คัดสรร 10 รุ่น น่าซื้อมาให้คุณได้ลองเลือกชมได้เลย

10 เครื่องดูดความชื้น ( dehumidifier ) ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

  1. HOMEMATE HOM-16H458
  2. Xiaomi Youpin NEW WIDETECH Internet Dehumidifier
  3. LG MD16GQSA1.ATH
  4. HOMEMATE HOM-1625Z2
  5. Bwell BDH-30
  6. HAFELE DEHUMIDIFIER
  7. SHANBEN Dehumidifier 12L
  8. HAFELE Dehumidifier
  9. Simplus Dehumidifiers
  10. Lecon Dehumidifier 15L

1. HOMEMATE HOM-16H458

เครื่องดูดความชื้นดีไซน์การออกแบบสุดล้ำสมัย รองรับการใช้งานในพื้นที่ 45 ตารางเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยี่ห้อ / รุ่นHOMEMATE HOM-16H458
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน45 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง410 x 265 x 665 มิลลิเมตร
น้ำหนัก18,000 กรัม
กำลังไฟฟ้า640 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน48 เดซิเบล

รุ่นแรกเป็นเครื่องดูดความชื้นที่มีดีไซน์การออกแบบสวยงามล้ำสมัย และรองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่สูงสุด 45 ตารางเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบป้องกันการสะสมตัวของเชื้อราที่บริเวณฝาผนังและเพดานบ้าน ที่จะช่วยให้บ้านของคุณปราศจากสิ่งสกปรกไปได้มากที่สุด ในขณะที่สามารถลดความชื้นภายในห้องได้มากถึง 40 ลิตรไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังมีการติดตั้งแผ่นกรองแบบ HEPA Filter ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักฝุ่นได้แบบมีคุณภาพ และยังทำความสะอาดได้ง่ายเพียงแค่เคาะฝุ่นออก โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเลยแม้แต่นิดเดียวอีกด้วยครับ

ข้อดี
แผ่นกรองแบบ HEPA Filter คุณภาพสูง
การลดความชื้นที่ปริมาตร 40 ลิตรต่อวัน
รองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ 45 ตารางเมตร

ข้อเสีย
น้ำหนักมากเคลื่อนย้ายได้ลำบาก

2. Xiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier

เครื่องลดความชื้นภายบ้านขนาด 18 ลิตรที่มีโหมดการทำงานทั้งหมด 5 รูปแบบ และเลือกปรับแรงลมตามความต้องการได้ทั้งหมด 3 ระดับ

ยี่ห้อ / รุ่นXiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน40 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง334 x 220 x 470 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
กำลังไฟฟ้า240 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน38 เดซิเบล

Xiaomi Youpin NEW Widetech Internet Dehumidifier เป็นเครื่องลดความชื้นที่มีขนาด 18 ลิตร และถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในห้องที่มีพื้นที่ขนาด 5 ถึง 40 ตารางเมตร ที่สามารถปรับระดับแรงลมในการใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระดับ และมีโหมดการใช้งานที่รองรับทั้งหมดถึง 5 รูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านตลอดวันไปได้อย่างยาวนานโดยรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากที่สุด อีกทั้งเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานยังสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อสั่งการการทำงานของตัวเครื่องในรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วยเช่นกัน

ข้อดี
สั่งการตัวเครื่องผ่านแอปพลิเคชันได้
โหมดการใช้งาน 5 รูปแบบ
เสียงรบกวนที่มีเพียง 38 เดซิเบล

ข้อเสีย
ลดความชื้นได้เพียงแค่ 18 ลิตร

3. LG MD16GQSA1.ATH

เครื่องดูดความชื้นรุ่นขนาด 16 ลิตรจากแบรนด์ LG ที่มาพร้อมความสามารถในการทำงานระดับยอดเยี่ยม

ยี่ห้อ / รุ่นLG MD16GQSA1.ATH
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน
ขนาดตัวเครื่อง
น้ำหนัก
กำลังไฟฟ้า
ระดับของเสียงรบกวน33 เดซิเบล

LG MD16GQSA1.ATH เป็นสินค้ารุ่นระดับสูงที่ถูกออกแบบมา ให้คุณสามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากรายละเอียดการทำงานโดยรวม ที่ได้ถูกติดตั้งมาให้ของตัวสินค้า และการที่สามารถรองรับการดูดความชื้นได้ที่ระดับ 16 ลิตร โดยสิ่งที่ถือเป็นความน่าสนใจหลัก ๆ ในรุ่นนี้ จะเป็นเรื่องของการทำงาน ที่จะส่งออกระดับเสียงมาเพียง 33 เดซิเบล ซึ่งจะเป็นช่วงของระดับเสียง ที่จะไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเลยแม้แต่น้อย

ข้อดี
ระดับเสียงรบกวนค่อนข้างต่ำ
ขนาดความจุการดูดความชื้นสูงถึง 16 ลิตร
ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง

ข้อเสีย
ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างมาก

4. HOMEMATE HOM-1625Z2

เครื่องดูดความชื้นขนาดกำลังดีที่รองรับการใช้งานในพื้นที่ขนาด 25 ตารางเมตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ยี่ห้อ / รุ่นHOMEMATE HOM-1625Z2
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน25 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง343 x 240 x 512 มิลลิเมตร
น้ำหนัก13,000 กรัม
กำลังไฟฟ้า460 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน46 เดซิเบล

สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นขนาดกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หอพัก หรือแม้แต่คอนโด ที่มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดอยู่ไม่เกิน 25 ตารางเมตร สำหรับการลดความชื้นภายในห้องและป้องกันกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตของคุณดำเนินไปได้อย่างสบายและปลอดภัยมากที่สุด ด้วยความชื้นที่สามารถลดได้มากถึง 25 ต่อหนึ่งวัน นอกจากนี้ด้วยการติดตั้งล้อและหูจับบริเวณด้านบนและด้านล่างของเครื่อง และน้ำหนักโดยรวมเพียง 13 กิโลกรัม ยังทำให้การเคลื่อนย้ายทำตำแหน่งได้ง่ายอยู่มากเลยทีเดียวครับ

ข้อดี
หน้าจะ LCD สำหรับสั่งใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ
การเคลื่อนย้ายที่ทำได้ง่าย
เหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็ก

ข้อเสีย
เสียงในการทำงานของตัวเครื่องค่อนข้างดัง

5. Bwell BDH-30

อุปกรณ์สำหรับการดูดความชื้นที่สามารถลดความชื้นในห้องได้มากถึง 30 ลิตรต่อวัน

ยี่ห้อ / รุ่นBwell BDH-30
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน30 ถึง 50 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง280 x 370 x 580 มิลลิเมตร
น้ำหนัก1,800 กรัม
กำลังไฟฟ้า650 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน51 เดซิเบล

รุ่นนี้จัดเป็นสินค้าหนึ่งในรุ่น ที่ถูกออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาอย่างสวยงามทันสมัย และสามารถจัดวางได้อย่างไม่เปลืองพื้นที่มากจนเกินไป สำหรับในด้านของประสิทธิภาพการทำงานนั้น ตัวสินค้าจะสามารถรองรับการดูดความชื้นได้ในระดับ 30 ลิตรต่อวัน จากการทำงานที่มีประสิทธิภาพของตัวสินค้า และการครอบคลุมพื้นที่ในการใช้งานได้สูงสุดถึง 50 ตารางเมตร ด้วยการใช้งานกำลังไฟฟ้าโดยรวม ในระดับที่ต่ำเพียง 650 วัตต์เท่านั้น

ข้อดี
การใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ
ขนาดความจุถังเก็บน้ำ 4 ลิตร
รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่

ข้อเสีย
ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง

6. HAFELE Dehumidifier

เครื่องดูดความชื้นขนาดเล็กกะทัดรัดขนาด 5 ถึง 10 ตารางเมตร ที่เลือกซื้อตามความชื่นชอบได้มากถึง 4 สี

ยี่ห้อ / รุ่นHAFELE Dehumidifier
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน10 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง200 x 147 x 282 มิลลิเมตร
น้ำหนัก1,500 กรัม
กำลังไฟฟ้า25 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน45 เดซิเบล

HAFELE Dehumidifier นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นของเครื่องดูดความชื้นแบบพกพา ที่ถูกผลิตขึ้นจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ HEFELE ด้วยดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิกและกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยน้ำหนักโดยรวมที่มีอยู่เพียงแค่ 1.5 กิโลกรัม และสามารถประหยัดพลังงานได้ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับเสียงในการทำงานที่ดังเพียง 45 เดซิเบลเท่านั้น ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมีจำนวนสีให้คุณเลือกซื้อตามความชื่นชอบได้มากสุดถึง 4 สี ซึ่งประกอบด้วย สีชมพู สีเขียว สีฟ้า และสีม่วงนั่นเองครับ

ข้อดี
จำนวนสีที่มีให้เลือกซื้อได้มากถึง 4 สี
น้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม
การประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย
ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ขนาดเล็ก

7. SHANBEN Dehumidifier 12L

เครื่องสำหรับดูดความชื้นแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถควบคุมการทำงานได้สะดวกสบายผ่านทางแอปพลิเคชัน

ยี่ห้อ / รุ่นSHANBEN Dehumidifier 12L
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน60 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง288 x 198 x 509 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
กำลังไฟฟ้า185 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน40 เดซิเบล

SHANBEN Dehumidifier 12L นับเป็นตัวเลือกของสินค้า ที่ถูกออกแบบให้สามารถทำการจัดวาง และใช้งานได้อย่างเหมาะสมในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องน้ำ จากขนาดความจุในการทำความชื้น 12 ลิตรต่อวัน โดยในส่วนของรายละเอียดการใช้งานในด้านต่าง ๆ รุ่นนี้ก็ถือว่ามีการติดตั้งมาให้สามารถใช้งานได้อย่างน่าสนใจ ในขณะที่การจัดวางก็ยังสามารถทำได้ ด้วยการใช้พื้นที่ที่ไม่มากจนเกินไปอีกด้วย

ข้อดี
การจัดวางที่ทำได้อย่างประหยัดพื้นที่
สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่
การใช้กำลังไฟฟ้าที่ค่อนข้างต่ำ

ข้อเสีย
ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องขนาดใหญ่

8. HAFELE Dehumidifier

เครื่องลดความชื้นรุ่นขนาดเล็ก ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่

ยี่ห้อ / รุ่นHAFELE Dehumidifier
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน20 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง228 x 150 x 373 มิลลิเมตร
น้ำหนัก2,200 กรัม
กำลังไฟฟ้า45 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน42 เดซิเบล

หากสิ่งที่คุณกำลังมองหาเป็นสินค้ารุ่นขนาดเล็ก สำหรับการใช้งานภายในพื้นที่ที่มีขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร รุ่นนี้จะถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอย่างมาก จากการถูกออกแบบมาให้มีขนาด ที่สามารถจัดวางได้อย่างไม่กินพื้นที่มากจนเกินไป และการมีน้ำหนักเบาที่ทำให้การเคลื่อนย้ายการจัดวางสามารถทำได้ง่าย ในขณะที่ในการทำงานโดยรวมของตัวสินค้า จะใช้กำลังไฟฟ้าโดยรวมที่ต่ำเพียง 45 วัตต์เท่านั้น ส่งผลให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการเปิดทำงานต่อเนื่องได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้อดี
ขนาดความจุของถังเก็บน้ำค่อนข้างสูง
การใช้กำลังไฟฟ้าในระดับต่ำเพียง 45 วัตต์
เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก

ข้อเสีย
ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกันกับประสิทธิภาพการทำงาน

9. Simplus Dehumidifiers

เครื่องดูดความชื้น Simplus ที่สามารถใช้งานได้ทั้งภายในพื้้นที่พักอาศัยและออฟฟิต

ยี่ห้อ / รุ่นSimplus Dehumidifiers
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน5 ถึง 15 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง146 x 146 x 227 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
กำลังไฟฟ้า23 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน30 เดซิเบล

Simplus Dehumidifiers เป็นสินค้ารุ่นขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน และการจัดวางเพื่อให้บนโต๊ะทำงาน จากประสิทธิภาพการทำงานของตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการลดความชื้นที่ระดับ 300 มิลลิลิตรต่อวัน ซึ่งครอบคลุมการใช้งานได้อย่างเพียงพอภายในห้อง, การใช้กำลังไฟฟ้าในระดับที่ต่ำเพียง 23 วัตต์, ขนาดความจุของถังเก็บน้ำในระดับ 600 มิลลิลิตร หรือแม้แต่การเปิดทำงานที่ง่ายดาย ด้วยการกดสั่งการบริเวณด้านบนของตัวสินค้า ที่ล้วนแล้วแต่ถูกติดตั้งมาให้เกินระดับราคาออกวางจำหน่ายด้วยกันทั้งสิ้น

ข้อดี
ขนาดเล็กกะทัดรัดจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
ระบเสียงในการทำงานค่อนข้างต่ำ
การใช้กำลังไฟฟ้าที่ค่อนข้างต่ำ

ข้อเสีย
ประสิทธิภาพการดูดความชื้นไม่สูงมากนัก

10. Lecon Dehumidifier 15L

อุปกรณ์ลดความชื้นรุ่นขนาด 15 ลิตร ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตภายในบ้านได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น

ยี่ห้อ / รุ่นLecon Dehumidifier 15L
ขนาดพื้นที่ที่รองรับการใช้งาน50 ตารางเมตร
ขนาดตัวเครื่อง253 x 155 x 360 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
กำลังไฟฟ้า60 วัตต์
ระดับของเสียงรบกวน

สุดท้ายเป็นสินค้ารุ่นระดับมาตรฐานของเครื่องดูดความชื้น ที่ถูกออกแบบมาให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างเพียง จากรายละเอียดและฟังก์ชันระดับมาตรฐาน ด้วยการทำงานของกำลังไฟฟ้าในระดับ 60 วัตต์ ซึ่งตัวสินค้าจะมีความสามารถในการลดความชื้นที่ระดับ 15 ลิตรต่อวัน และครอบคลุมการทำงานได้ในพื้นที่ขนาดสูงสุดถึง 50 ตารางเมตร ดังนั้น หากสิ่งที่คุณต้องการคือสินค้าราคาย่อมเยา ที่มีประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง รุ่นนี้ก็ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้อดี
ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ
รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่
การจัดวางที่ใช้พื้นที่ไม่มากจนเกินไป

ข้อเสีย
ฟังก์ชันการใช้งานโดยรวมอาจไม่หลากหลายมากนัก

วิธีการเลือก ซื้อเครื่องดูดความชื้น

  1. เลือกจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน
    สิ่งแรกที่คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบก่อนการเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้นเครื่องใหม่มาไว้สำหรับใช้งานภายในบ้านของคุณ จะเป็นในเรื่องของขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งเครื่องรุ่นนั้น ๆ รองรับการใช้ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ที่คุณเลือกซื้อมาอย่างเหมาะสมที่สุดกับขนาดของห้อง หรือพื้นที่ภายในบ้านของคุณที่ต้องการใช้งาน โดยที่หากคุณเลือกซื้อรุ่นที่รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่ใหญ่เกินกว่าห้องคุณมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ตัวเครื่องใช้พลังงานไฟฟ้ามากจนเกินความจำเป็น และอาจส่งผลให้ค่าไฟฟ้าภายในบ้านของคุณเพิ่มขึ้นไปได้ในเวลาเดียวกัน แต่หากเลือกรุ่นที่รองรับการใช้งานได้ไม่เพียงพอต่อขนาดห้องของคุณ ก็อาจมีผลให้ตัวอุปกรณ์ทำงานได้แบบไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้ใช้งานเครื่องรุ่นนั้น ๆ ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรจะเป็นด้วยเช่นกันครับ
  2. พิจารณาระดับเสียงที่ไม่รบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
    อีกหนึ่งสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากในการเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้น ที่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน คือ ระดับเสียงรบกวนที่เครื่องรุ่นนั้น ๆ จะส่งออกมาในระหว่างการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วรุ่นที่มีเสียงในการทำงานเบามากที่สุด ก็มักจะถูกเลือกซื้อเป็นลำดับแรก ๆ อยู่เสมอ เนื่องจากในระหว่างที่เปิดใช้งานตัวอุปกรณ์จะมีเสียงการทำงานของกลไกต่าง ๆ ที่เบามากกว่า ส่งผลให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณน้อยลงกว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อให้ได้รุ่นที่ดีมากที่สุด การลองตรวจสอบในเบื้องต้นจากระดับเสียงที่รุ่นนั้น ๆ ส่งออกมาก่อนเรื่องอื่น ๆ ก็ฟังดูจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
  3. ตรวจสอบระดับของเสียงรบกวนที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
    เนื่องจากเครื่องดูดความชื้นเป็นอุปกรณ์ที่มักจะถูกเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีผู้ใช้งานอยู่ภายบ้าน ทำให้การเลือกรุ่นที่มีเสียงดังมากจนเกินไปอาจจะไม่เหมาะสมมากเท่าไหร่นัก สำหรับการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานและผลที่อาจเกิดต่อสุขภาพร่างกายของคุณ ส่งผลให้การมองหารุ่นที่มีระดับเสียงในการทำงานต่ำมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควบคู่ไปกับการทำงานและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปในการเลือกซื้อเลยแม้แต่น้อยครับ
  4. ให้ความสำคัญกับขนาดและน้ำหนัก
    เครื่องใช้ไฟฟ้าแทบทุกประเภทในบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนตำแหน่งในการจัดวางได้ เพื่อจุดประสงค์ในด้านของการทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้าน ซึ่งอุปกรณ์ที่เราได้กล่าวไปอย่างเครื่องลดความชื้นก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อรุ่นที่มีขนาดกำลังดีและมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับขนาดของตัวเครื่อง ก็จะช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ตัวนี้ได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองครับ

บทสรุป

ในยุคปัจจุบันที่ปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศถูกจัดอยู่ในระดับวิกฤต และเป็นสิ่งที่มีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณในทุกช่วงเวลา จึงเป็นสิ่งที่ทำให้การมองหาอุปกรณ์เสริมสำหรับช่วยเพิ่มคุณภาพในการใช้ชีวิตของคุณอย่างเครื่องดูดความชื้น ก็กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตต่อเนื่องไปในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นมากที่สุด

และเพิ่มความรู้สึกสบายตัวในระหว่างการใช้ชีวิตในทุกช่วงเวลาไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยที่ในการเลือกซื้อให้เหมาะสม และ คุ้มค่ามากที่สุด นั้น ก็ควรเลือกพิจารณาจากขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการใช้งาน, ระดับเสียงที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน, และน้ำหนักโดยรวมที่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องเป็นหลัก ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมานั้นควรจะมีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับระดับราคามากที่สุด และหากคุณต้องการเลือกซื้อรุ่นที่มีความคุ้มค่าและน่าสนใจ ทั้งในด้านของระดับราคา, สเปกของตัวอุปกรณ์ และฟังก์ชันการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ในบทความ เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 นี้ เราเชื่อว่าน่าจะมีคำตอบที่ดีที่สุดเอาไว้ให้คุณได้ลองเลือกซื้อแล้วอย่างแน่นอน

บทความล่าสุด