10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
เครื่องบดกาแฟ เป็นหนึ่งในไอเทมตัวสำคัญ ที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ ดื่มกาแฟสดเป็นชีวิตจิตใจ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถทำกาแฟ ที่ชื่นชอบได้ด้วยตัวเองจากที่บ้านในทุกช่วงเวลาที่คุณต้องการ ซึ่ง เครื่องบดกาแฟ ที่มีให้เลือกใช้งานได้ในช่วงเวลานี้ ก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดหลากหลายประเภท ที่จะมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันออกไป และยังมีระดับราคาที่แตกต่างกันออกมาอีกพอสมควรด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณ นับว่าทำได้ค่อนข้างลำบากอยู่พอสมควร เพราะเป็นหนึ่งในสินค้าที่ไม่ได้มีผู้ใช้งานโดยทั่วไปเลือกซื้อติดบ้านไว้มากเท่าไหร่นัก สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จากความสะดวกสบายในการรับประทานกาแฟจากร้านต่าง ๆ ที่ทำได้ง่ายดายมากกว่าเมื่อซื้อดื่มตามร้านกาแฟและคาเฟ่ทั่วไป แต่หากคุณต้องการจะทดลองทำกาแฟสดด้วยตนเอง หรือเป็นคนที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟมาไว้ สำหรับการชงกาแฟดื่มเองในชีวิตประจำวันของคุณในทุกช่วงเวลา ก็สามารถมองหาสินค้ารุ่นที่น่าสนใจจากช่วงต่อไปของบทความนี้ ที่เราได้รวบรวมและคัดสรรมาให้คุณมากถึง 10 รุ่น โดยที่คุณจะสามารถอ่านรายละเอียดแยกย่อยต่าง ๆ ที่เราได้ใส่มาให้ ควบคู่กับคำอธิบายสินค้าในเบื้องต้นของแต่ละอันดับ เพื่อให้การตัดสินใจซื้อสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย รวมไปถึงยังเป็นการช่วยประหยัดเวลาในการค้นหารุ่นสุดคุ้มค่าในราคาที่คุณสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายได้เลยครับ
10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022 แบบไฟฟ้า และ มือหมุน
- Timemore Chestnut X
- BUONO BUO-12CG03
- Timemore Slim Plus
- KENEIYA Coffee grinder
- Timemore C2
- Soulhand USB Electric Travel Coffee Burr Coffee Grin
- HUANGCHENG 600N
- เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า
- Worldtech WT-CG-M150C
- เครื่องบดกาแฟมือหมุน
1. Timemore Chestnut X
★★★★★
เครื่องบดกาแฟ แบบมือหมุน ขนาดเล็กกะทัดรัดดีไซน์การออกแบบสุดหรูหรา ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานจากวัสดุในการผลิต ซึ่งมีคุณภาพจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
ยี่ห้อ / รุ่น | Timemore Chestnut X |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Aluminum Alloy |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 160 x 55 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 760 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | – |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 35 กรัม |
รุ่นแรกเป็นเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนขนาดเล็กกะทัดรัด ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้จากทุกที่ที่คุณต้องการ โดยที่จุดเด่นของอุปกรณ์ตัวนี้ จะอยู่ในเรื่องของความละเอียดในการบดเมล็ดกาแฟ ที่สามารถทำได้ถึง 23 ระดับ ด้วยการปรับระดับบริเวณด้านล่างของตัวอุปกรณ์ ส่วนในเรื่องของดีไซน์การออกแบบและคุณภาพของตัวสินค้านั้น ก็นับว่าจัดอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม จากการใช้งานวัสดุแบบ Aluminum Alloy ความแข็งแรงทนทานสูง ที่นอกจากจะป้องกันความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ตัวสินค้าดูมีความหรูหราเพิ่มขึ้นอย่างมากในเวลาเดียวกันด้วยครับ
ข้อดี
✓ การรับประกันสินค้าที่ให้มายาวนานตลอด 1 ปี
✓ วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความหรูหราและความแข็งแรงทนทานสูง
✓ ปรับระดับความละเอียดในการบดกาแฟได้มากถึง 23 ระดับ
ข้อจำกัด
✘ จำเป็นต้องใช้แรงในการบดกาแฟ
2. BUONO BUO-12CG03
★★★★★
เครื่องบดกาแฟแบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง ที่สามารถเลือกปรับระดับความละเอียดในการบดกาแฟได้สูงสุดถึง 31 ระดับ
ยี่ห้อ / รุ่น | BUONO BUO-12CG03 |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | พลาสติก |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 110 x 180 x 300 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 180 วัตต์ |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 275 กรัม |
BUONO BUO-12CG03 เป็นรุ่นแบบอัตโนมัติที่สามารถเลือกปรับระดับความหยาบ-ละเอียดในการบดเมล็ดกาแฟได้มากถึง 31 ระดับตามความชื่นชอบของแต่ละคน โดยที่ในส่วนของการสั่งใช้งานตัวเครื่องนั้น ก็นับว่าทำได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อนผ่านทางปุ่มกดและปุ่มปรับหมุน ที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวอุปกรณ์ และบดกาแฟได้พร้อมกันสูงสุดได้มากถึง 275 กรัมตามปริมาตรความจุของโถเก็บเมล็ดกาแฟ ที่สำคัญด้วยขนาดของตัวเครื่องที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทั้งการจัดวางและการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องทำได้อย่างไม่ลำบากมากนัก รวมไปถึงยังช่วยให้การจัดเก็บทำได้ค่อนข้างง่ายดายอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ เหมาะสำหรับการใช้บดเมล็ดกาแฟเป็นจำนวนมาก
✓ ใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน
✓ ปรับระดับความหยาบ-ละเอียดในการบดเมล็ดกาแฟได้มากถึง 31 ระดับ
ข้อจำกัด
✘ ใช้งานวัสดุในการผลิตตัวเครื่องเป็นแบบสเตนเลส
3. Timemore Slim Plus
★★★★★
เครื่องบดกาแฟรุ่นระดับสูงจากแบรนด์ Timemore ที่ใช้งานได้อย่างแข็งแรงทนทาน และบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 20 กรัมต่อหนึ่งรอบการใช้งาน
ยี่ห้อ / รุ่น | Timemore Slim Plus |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Aluminum Alloy |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 160 x 42 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 440 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | – |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 20 กรัม |
Timemore Slim Plus จัดเป็นหนึ่งในรุ่นระดับมาตรฐาน ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 20 กรัมในช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยการทำงานของระบบมือหมุนที่ทำให้ไม่จำเป็นจะต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงานของตัวอุปกรณ์ โดยที่ในส่วนของวัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้า ก็เรียกได้ว่ามีความสวยงามทันสมัยและดูแข็งแรงทนทานในระดับยอดเยี่ยมไปด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ด้วยขนาดของตัวสินค้าที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป ก็ยังเป็นส่วนที่ทำให้ใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มากเท่าไหร่นัก และยังพกพาออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างไม่ลำบากเลยแม้แต่น้อยอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ เหมาะสำหรับการพกพาออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ
✓ น้ำหนักโดยรวมไม่มากนัก
✓ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งานระบบไฟฟ้าในการทำงานของตัวอุปกรณ์
ข้อจำกัด
✘ –
4. KENEIYA Coffee grinder
★★★★★
เครื่องบด และเ ตรียมเมล็ดกาแฟ ขนาดใหญ่แบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 1,200 มิลลิตรในช่วงเวลาเดียวกัน
ยี่ห้อ / รุ่น | KENEIYA Coffee grinder |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Stainless |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 270 x 190 x 300 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 3,000 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 1,000 วัตต์ |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 1,200 กรัม |
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นระบบไฟฟ้าที่บดเมล็ดกาแฟได้พร้อมกันสูงสุดในปริมาตรกว่า 1,200 กรัม ด้วยกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงาน 1,000 วัตต์ ซึ่งในส่วนของการทำงานก็เรียกว่าไม่มีความซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก จากการสั่งการผ่านทางหน้าหน้าจอที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง โดยในส่วนของจุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากนั้น จะเป็นในเรื่องของจำนวนการบดเมล็ดกาแฟต่อหนึ่งรอบการใช้งาน ที่ถุกออกแบบมาให้เพียงพอต่อการดื่มกาแฟของคน 10 คนได้อย่างเพียงพอในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นครอบครัวใหญ่ ที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟประสิทธิภาพสูงสำหรับใช้งานภายในบ้าน รุ่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน
✓ ขนาดโถบดเมล็ดกาแฟมีขนาดใหญ่
✓ รองรับการทำกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 10 แก้ว
ข้อจำกัด
✘ จำเป็นต้องบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันในปริมาณมาก
5. Timemore C2
★★★★★
เครื่องบดกาแฟมือหมุนจากแบรนด์ Timemore ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน จากวัสดุคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิตตัวสินค้า
ยี่ห้อ / รุ่น | Timemore C2 |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Aluminum Alloy |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 147 x 52 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 430 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | – |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 25 กรัม |
Timemore C2 นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นของเครื่องบดกาแฟประเภทมือหมุน ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานภายในปี 2022 นี้ ด้วยความแข็งแรงทนทานและหรูหราของตัวอุปกรณ์ ที่เป็นผลมาจากวัสดุ Aluminum Alloy คุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิต โดยที่ในหนึ่งรอบการใช้งานนั้นจะสามารถบดเมล็ดกาแฟได้ที่ประมาณ 25 กรัม และสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวและลื่นไหล จากขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป และน้ำหนักของตัวอุปกรณ์ที่มีอยู่เพียงแค่ 430 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการออกแบบที่มีประสิทธิภาพจากทางแบรนด์ Timemore ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้การปรับระดับความหยาบและความละเอียดในการบดกาแฟมีความเป็นอย่างมากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ วัดสุที่ใช้ในการผลิตมีคุณภาพและความทนทานในระดับดีเยี่ยม
✓ สามารถบดเมล็ดกาแฟได้อย่างแม่นยำ
✓ น้ำหนักโดยรวมไม่มากเท่าไหร่นัก
ข้อจำกัด
✘ จำเป็นต้องใช้แรงในการบดเมล็ดกาแฟด้วยตนเอง
6. Soulhand USB Electric Travel Coffee Burr Coffee Grin
★★★★★
เครื่องบดกาแฟแบบพกพาที่ถูกออกแบบมา สำหรับการนำติดตัวออกไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ อย่างการเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
ยี่ห้อ / รุ่น | Soulhand USB Electric Travel Coffee Burr Coffee Grin |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Stainless |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 215.9 x 93.98 x 93.98 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | – |
ต่อมาเป็นรุ่นขนาดเล็กกะทัดรัดที่ถูกออกแบบมาสำหรับการพกพาออกเดินทางไปใช้งานยังสถานที่อื่น ๆ ในการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ใช้การทำงานของระบบไฟฟ้า และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดาย ทั้งจากไฟบ้านและไฟของรถยนต์ผ่านการใช้งานพอร์ตชาร์จแบบ USB ที่จะทำให้ใช้งานได้ที่ประมาณ 7 ถึง 8 ครั้ง จากแบตเตอรี่ภายในที่ให้ขนาดความจุมาในช่วงประมาณ 1,200mAh เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่เป็นสายดื่มกาแฟและสายท่องเที่ยว สินค้าตัวนี้นับเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรมีติดตัวเป็นอย่างมาก สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้อย่างง่ายดายในทุกสถานที่
✓ ใช้งานระบบไฟฟ้าในการทำงานของตัวอุปกรณ์
✓ เหมาะสำหรับการพกพาออกไปใช้งานในการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
ข้อจำกัด
✘ จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ในการใช้งาน
7. HUANGCHENG 600N
★★★★★
เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าขนาดความจุ 250 กรัม ที่ทำงานต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกำลังไฟฟ้าที่ให้มาในระดับ 350 วัตต์
ยี่ห้อ / รุ่น | HUANGCHENG 600N |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | – |
น้ำหนัก | – |
กำลังไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 250 กรัม |
รุ่นนี้เป็นรุ่นระดับมาตรฐานที่รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างเพียงพอ ทั้งจากขนาดความจุของโถบรรจุเมล็ดกาแฟ ที่ให้มาในระดับพื้นฐาน 250 กรัม, กำลังไฟฟ้าในการเปิดทำงานที่ให้มาสูงสุดในระดับ 350 วัตต์, ความหยาบละเอียดในการบดกาแฟที่ทำได้มากถึง 8 ระดับตามความชื่นชอบของแต่ละคน และขนาดโดยรวมที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป สำหรับการเคลื่อนย้ายการจัดวางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่สำคัญด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ถูกแถมมาให้กับตัวอุปกรณ์ ก็ยังเป็นส่วนที่จะช่วยให้การบดเมล็ดกาแฟทำได้ง่ายดายและสะดวกขึ้นเป็นอย่างมากอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มากนัก
✓ อุปกรณ์เสริมที่ถูกแถมมาให้สำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ
✓ ใช้พลังงานในการเปิดใช้งานไม่สูงมากนัก
ข้อจำกัด
✘ ปรับระดับความหยาบละเอียดในการบดกาแฟได้เพียง 8 ระดับ
8. เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า
★★★★★
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า ที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน และตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้หลากหลายรูปแบบ
ยี่ห้อ / รุ่น | เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Stainless |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 200 x 110 x 110 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 630 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 150 วัตต์ |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 50 กรัม |
เครื่องบดเมล็ดกาแฟเครื่องนี้เป็นหนึ่งในรุ่นที่มีความหลากหลายในการใช้งานเป็นอย่างมาก จากการถูกผลิตออมาให้สามารถใช้บดได้ทั้งเมล็ดกาแฟ, ธัญพืช ไปจนถึงสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีนประเภทต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของการบดสิ่งเหล่านี้จะบดได้พร้อมกันสูงสุดที่ปริมาตรกว่า 50 กรัม และเลือกปรับระดับความเร็วในการทำงานได้อย่างหลากหลาย ตามความชื่นชอบในการดื่มเครื่องดื่มร้อนของแต่ละคน โดยที่จะใช้ระยะเวลาในการบดต่ำสุดเพียงแค่ 6 วินาที และสูงสุดที่ระยะเวลากว่า 60 วินาที ดังนั้นหากรุ่นที่คุณกำลังมองหาเป็นรุ่นที่มีความหลากหลาย และไม่ใช่เพียงอุปกรณ์สำหรับการบดกาแฟ รุ่นนี้จะเป็นหนึ่งในรุ่นที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอนครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานบดเมล็ดต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
✓ ปริมาตรของโถบรรจุอยู่ในระดับมาตรฐาน
✓ ใช้ระยะเวลาในการบดต่ำสุดเพียง 6 วินาที
ข้อจำกัด
✘ กำลังไฟฟ้าในการทำงานไม่สูงมากเท่าไหร่นัก
9. Worldtech WT-CG-M150C
★★★★★
เครื่องบดเมล็กกาแฟจากแบรนด์จากแบรนด์ Worldtech ที่สามารถใช้งานได้ทั้งการบดกาแฟ, ถั่ว และธัญพืชประเภทต่าง ๆ
ยี่ห้อ / รุ่น | Worldtech WT-CG-M150C |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Stainless |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 100 x 100 x 180 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 700 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | 150 วัตต์ |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 50 กรัม |
Worldtech WT-CG-M150C เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความหลากหลายในการใช้งานไม่แพ้กันกับในรุ่นที่ผ่านมา จากการถูกออกแบบให้ใช้บดได้ทั้งเมล็ดกาแฟ, เมล็ดถั่ว และธัญพืชแทบทุกประเภท ส่งผลให้รุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเครื่องบดกาแฟแบบทั่วไป โดยที่ขนาดความจุของโถปั่นนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 50 กรัม และทำงานได้ด้วยกำลังมอเตอร์กว่า 150 วัตต์ ที่สามารถทำความเร็วในการปั่นได้ที่ประมาณ 30,000 รอบต่อนาที ส่วนในเรื่องของระยะเวลาการเปิดใช้งานต่อหนึ่งรอบนั้น จะทำได้ตั้งแต่เริ่มต้นที่ประมาณ 15 วินาที ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 45 วินาที นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ทางแบรนด์จึงยังมีการแถมการรับประกันสินค้ามาให้ยาวนานถึง 1 ปีเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ การรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 1 ปี
✓ ทำความเร็วในการบดเมล็ดกาแฟได้ในระดับมาตรฐาน
✓ ใช้งานได้กับเมล็ดภัณฑ์หลากหลายประเภท
ข้อจำกัด
✘ จำเป็นต้องพักเครื่อง 60 วินาทีก่อนการใช้งานในรอบถัดไป
10. เครื่องบดกาแฟมือหมุน
★★★★★
เครื่องบดกาแฟมือหมุน ที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายและเหมาะสำหรับการใช้งานของคนทุกประเภท
ยี่ห้อ / รุ่น | เครื่องบดกาแฟมือหมุน |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | Stainless Steel |
ขนาดตัวอุปกรณ์ | 180 x 52 x 52 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 291 กรัม |
กำลังไฟฟ้า | – |
ปริมาตรโถบรรจุเมล็ดกาแฟ | 100 กรัม |
สุดท้ายเป็นเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน ที่ยังคงถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้สำหรับการบดเมล็ดภัณฑ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟ, เมล็ดถั่ว, พริกไทย หรือแม้แต่ธัญพืชทุกชนิด ซึ่งความโดดเด่นสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้มีความแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ นั้น จะเป็นในเรื่องของปริมาตรความจุในการบดเมล็ดกาแฟ ที่ทำได้มากกว่าเครื่องบดแบบมือหมุนทั่วไปตั้งแต่ 2 ไปจนถึง 4 เท่า ส่งผลให้ประหยัดเวลาในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงเพิ่มจำนวนกาแฟที่ทำได้ต่อหนึ่งรอบไปด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ในส่วนของน้ำหนักที่มีผลต่อการใช้งานโดยรวม รุ่นนี้ก็ยังคงจัดว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักโดยรวมไม่มากเท่าไหร่นัก
✓ ขนาดความจุในการบดเมล็ดกาแฟต่อหนึ่งรอบสูงถึง 100 กรัม
✓ ใช้งานได้กับเมล็ดพันธุ์ทุกชนิด
เลือก เครื่องบดกาแฟ อย่างไรดี?
5 วิธีการเลือก มีดังนี้
1. เลือกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้า
ในการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟให้มีความคุ้มค่าในระดับสูงสุด สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและการใช้งานเชิงพาณิชย์ สิ่งแรกที่ควรตัดสินใจเลือกก่อนการกดสั่งซื้อ จะเป็นในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงความแข็งแรงทนทาน และอายุการใช้งานของตัวสินค้าอย่างแท้จริง โดยแน่นอนว่ารุ่นที่ถูกผลิตออกมาด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูงมากกว่า ก็จะต้องมีความเป็นไปได้ที่จะรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ ด้วยระยะเวลาที่มากยิ่งกว่าตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานอุปกรณ์ตัวใหม่ของคุณให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การเลือกพิจารณาจากเรื่องนี้เป็นลำดับแรก ๆ ก็นับเป็นสิ่งที่สมควรจะทำเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ
2. พิจารณาประเภทของเครื่องบดกาแฟ
เนื่องจากในช่วงเวลาปัจจุบันเครื่องบดกาแฟถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้ในช่วงเวลาปัจจุบันมีรูปแบบของสินค้ามากมาย ที่มีออกมาให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสม ทำให้การเลือกซื้อรุ่นที่มีความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุดนั้น คุณควรเลือกดูจากประเภทของเครื่องบด ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีมากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถใช้งานรุ่นนั้น ๆ ได้อย่างตรงวัตถุประสงค์มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการใช้งาน ก็ควรเลือกซื้อรุ่นที่ทำงานได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการบดกาแฟได้มากยิ่งขึ้น หรือหากคุณต้องการเลือกปรับระดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟที่บดให้ได้มากที่สุด ก็จำเป็นจะต้องเลือกใช้งานรุ่นที่ใช้ระบบแบบมือหมุน ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า แต่ก็อาจจำเป็นจะต้องใช้แรงที่มากกว่าด้วยนั่นเองครับ
3. ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานของตัวเครื่อง
สำหรับในเรื่องนี้เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่มีผลต่อความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งกำลังไฟฟ้าในการทำงานของเครื่องรุ่นนั้น ๆ ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์สูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวก็ยังคงเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งานตัวเครื่องไปด้วยในขณะเดียวกัน ดังนั้นหากต้องการให้ใช้งานรุ่นที่เลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด ก็ไม่ควรเลือกรุ่นที่ใช้กำลังไฟฟ้าสูงมากจนเกินไป เพื่อให้ประหยัดค่าไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นได้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยเช่นกันครับ
4. ตัดสินใจจากมาตรฐานความปลอดภัยของตัวอุปกรณ์
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจ เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า แทบทุกประเภท จะต้องเป็นเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยของตัวอุปกรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการใช้งานของผู้คนอย่างแน่นอน เนื่องจากอุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยระบบไฟฟ้า ก็มักจะมาพร้อมความเสี่ยงเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ได้ทั้งกับชีวิตและทรัพย์ภายในบ้าน เพราะฉะนั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ก็ควรตรวจสอบถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกแถมมาให้ เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นเมื่อจำเป็นจะต้องใช้งานอุปกรณ์ตัวดังกล่าวในทุกสถานการณ์ รวมไปถึงยังจะเป็นส่วนที่ทำให้อายุการใช้งานของตัวอุปกรณ์ยาวนานได้มากยิ่งขึ้นไปในขณะเดียวกันด้วยครับ
5. พิจารณาพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บตัวอุปกรณ์
เครื่องบดกาแฟ แต่ละประเภทก็ล้วนแล้วแต่มีขนาด ที่แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบการใช้งานของเครื่องแต่ละรุ่น ซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดพื้นที่ ที่จะต้องใช้ในการจัดเก็บตัวอุปกรณ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าต้องการให้คุณสามารถเลือกซื้อรุ่นที่ต้องการ เพื่อการใช้งานได้แบบไม่กินพื้นที่ในการจัดวางมากนัก ก็ไม่ควรลืมให้ความสำคัญไปในเรื่องนี้ เพื่อให้สามารถควบคุมพื้นที่ในการจัดวางที่เหมาะสมภายในบ้านของคุณด้วยนั่นเองครับ
บทสรุป
เครื่องบดกาแฟ นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตัวสำคัญ ที่คนรักกาแฟจำเป็นจะต้องมีติดบ้านไว้เป็นอย่างมาก สำหรับการชงกาแฟดื่มเองภายในบ้านของคุณให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งการเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุดนั้น ก็มีข้อพิจารณาอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ที่คุณควรให้ความสนใจก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสมมาไว้สำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประเภทสินค้า ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ, วัสดุที่ใช้ในการผลิตซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของสินค้าและอายุการใช้งานของตัวอุปกรณ์, กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการเปิดทำงานของตัวสินค้า, มาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกใส่มาให้ ไปจนถึงพื้นที่ที่ใช้ในการจัดวางและการจัดเก็บของตัวอุปกรณ์ ซึ่งหากมีความจำเป็นในด้านอื่น ๆ ก็สามารถนำหัวข้อเหล่านั้นมาพิจารณาร่วม เพื่อให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยหากคุณได้ลองตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปอย่างละเอียดและถี่ถ้วนมากที่สุดแล้ว ทางเราก็เชื่อว่าคุณจะต้องได้ใช้งานรุ่นที่มีความคุ้มค่า และเหมาะสมกับการใช้งานในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุดอย่างแน่นอนครับ