แนะนำ 10 เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี ในปี 2023
เครื่องฟอกอากาศ เป็นหนึ่งใน เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ จากความสามารถในการควบคุมมลภาวะบนอากาศภายในห้อง ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมจากระบบกรองอากาศที่ถูกติดตั้งมาภายในตัวเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่แก้ไข ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานี้ได้แบบตรงจุดมากที่สุด ส่งผลให้ในช่วงเวลาปัจจุบันมีแบรนด์สินค้ามากมาย ที่กำลังออกวางจำหน่ายและมีการพัฒนาสินค้าออกมาให้เราเลือกซื้อกันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือ แบรนด์สินค้านวัตกรรมที่กำลังมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากใน ขณะนี้อย่าง Xiaomi นั่นเอง
โดยหากพูดถึง เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ในช่วงเวลานี้ ก็จะมีความหลากหลายอยู่พอสมควรตั้งแต่ในเรื่องของระดับราคา, ไส้กรอง Xiaomi , ขนาดตัวเครื่อง , ฟังก์ชันการใช้งาน ไปจนถึง ความสามารถในการผลิตอากาศที่ไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่น เป็นผลให้คุณเลือกซื้อตามความเหมาะสมได้ค่อนข้างหลากหลาย และยังพิจารณาเลือกใช้งานรุ่นที่คุ้มค่าในงบประมาณที่คุณต้องการได้อีกด้วย
ดังนั้น หากคุณอยากรู้ว่า Xiaomi มีการออกวางจำหน่าย เครื่องฟอกอากาศ รุ่นไหนบ้าง มาให้เราเลือกซื้อกัน ได้ในขณะนี้ ก็ลองตรวจสอบดูจาก 10 อันดับสินค้า ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปในบทความ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี ในปี 2023 นี้พร้อมกันกับเราได้เลยครับ
10 เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นไหนดี ในปี 2023
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Compact
- Xiaomi Mi Air Purifier Pro H
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro
- Xiaomi Mi Air Purifier 3H
- Xiaomi Mi Air Purifier 2S
- Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 3
- Xiaomi Mi Air Purifier 2H
- Xiaomi-Mi-Air-Purifier-3C
- Xiaomi-Mi-Air-Purifier-2C
1. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Compact
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ ขนาดเล็กกะทัดรัด ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับแขก และห้องทำงาน
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Compact |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | – |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 48 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | ต่ำสุด 20 เดซิเบล |
รุ่นแรกเป็น เครื่องฟอกอากาศ ขนาดเล็กกะทัดรัด จากแบรนด์ Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถจัดวางในทุกมุมบ้านได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องนั่งเล่น ด้วยดีไซน์การออกแบบสุดหรูหราทันสมัย และขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป รวมไปถึงยังรองรับ Google Assistant ควบคุมผ่านแอป ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ในระบบฟอกอากาศรบกวนการใช้ชีวิตของคุณน้อยมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่งผลให้ในด้านของเสียงที่ส่งออกมาก็จะจัดอยู่ในระดับที่ต่ำเอามาก ๆ อีกด้วย
ข้อดี
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัด
✓ ระดับเสียงในการทำงานต่ำสุด 20 เดซิเบล
✓ รองรับการดักจับฝุ่น PM2.5
ข้อควรพิจารณา
✘ –
2. Xiaomi Mi Air Purifier Pro H
★★★★★
เครื่องกรองอากาศ ในห้องขนาด 72 ตารางเมตร ที่ทำงานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ ด้วยค่า CADR 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier Pro H |
ขนาดตัวเครื่อง | 310 x 310 x 738 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 9.6 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 72 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | 34.1 ถึง 65 เดซิเบล |
ถัดมาเป็นรุ่นระดับโปรของ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่มาพร้อมความสามารถในการฟอกอากาศภายในพื้นที่สูงสุดขนาด 72 ตารางเมตร ด้วยอัตราเร็วในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนบนอากาศ ที่ทำได้สูงสุดในระดับ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ภายในระดับเสียงของการเปิดใช้งานที่ทำได้อยู่ในช่วงประมาณ 34.1 ถึง 65 เดซิเบล โดยหากกล่าวถึงฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่ถูกใส่มาให้ภายในตัวเครื่องนั้น ก็จะมีอยู่ตั้งแต่ฟังก์ชันการกัดจัดไรฝุ่น, ฟังก์ชันการจัดการกับแบคทีเรีย, ฟังก์ชันการป้องกันการเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงฟังก์ชันการลดสารที่อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ในอากาศเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่
✓ กำลังไฟฟ้าในการทำงานอยู่ในระดับสูง
✓ อัตราการผลิตบริสุทธิ์ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ข้อควรพิจารณา
✘ ระดับเสียงในการเปิดใช้งานสูงสุด 65 เดซิเบล
3. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ อัจฉริยะจากแบรนด์ Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษโดยเฉพาะ
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier Pro |
ขนาดตัวเครื่อง | 260 x 260 x 735 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 9.7 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 60 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | 31 เดซิเบล |
Xiaomi Mi Air Purifier Pro เป็นอีกหนึ่งรุ่นระดับสูงที่เราได้นำมาให้คุณลองเลือกซื้อกันในบทความนี้ ซึ่งเป็นรุ่นที่มาพร้อมคุณสมบัติพื้นฐานมากมาย ที่จะช่วยให้ภายในบ้านของคุณมีอากาศที่บริสุทธิ์ได้มากยิ่งขึ้น เช่น ความสามารถในการกำจัดสิ่งเจือปนหรือมวลภาวะในอากาศ ที่ทำได้แบบเต็มประสิทธิภาพในห้องที่มีขนาดความจุ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, แผ่นกรองที่ดักจับฝุ่นขนาดเล็กสุดได้มากถึง 0.3 ไมครอน, การรองรับพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในช่วงประมาณ 60 ตารางเมตร และหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ที่จะช่วยให้คุณสั่งการฟังก์ชันและตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ หน้าจอแสดงผลแบบ OLED สำหรับการสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ
✓ ผลิตอากาศในห้องขนาด 23 ตารางเมตรได้ภายใน 10 นาที
✓ แผ่นกรองรองรับการดักจับฝุ่น PM 2.5
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้พื้นที่การจัดวางค่อนข้างมาก
4. Xiaomi Mi Air Purifier 3H
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier ที่สั่งการการใช้งานได้ง่ายดายผ่านทางแอปพลิเคชัน Mi Home บนเครื่องสมาร์ทโฟน
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 3H |
ขนาดตัวเครื่อง | 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 6.1 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 45 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | 33 ถึง 64 เดซิเบล |
Xiaomi Mi Air Purifier 3H จัดอยู่ในรุ่นระดับกลางจากแบรนด์ Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์เรียบหรูทันสมัย และสามารถสั่งการตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายผ่านทางระบบเสียงด้วย Google Assistant และ Alexa ที่รองรับการทำงานได้บนแอปพลิเคชัน Mi Home App ซึ่งเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดายผ่านเครื่องสมาร์ทโฟนของคุณ โดยหากกล่าวถึงในเรื่องของพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ก็ควรจะเป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่อยู่ไม่เกิน 45 ตารางเมตร ด้วยการทำงานของระบบฟอกอากาศ ที่มีประสิทธิภาพการสร้างอากาศสูงสุดอยู่ในช่วงประมาณ 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ รองรับการสั่งการตัวเครื่องผ่านทางแอปพลิเคชัน
✓ ฟังก์ชันการสั่งการด้วยเสียง
✓ ไส้กรองแบบ HEPA Filter
ข้อควรพิจารณา
✘ ระดับเสียงสูงสุดที่ทำได้ 64 เดซิเบล
5. Xiaomi Mi Air Purifier 2S
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ Mi ที่จัดการกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 2S |
ขนาดตัวเครื่อง | 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 4.5 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 21 ถึง 37 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | – |
สำหรับรุ่นนี้เป็นเครื่องฟอกอากาศ Mi คุณภาพยอดเยี่ยม ที่ถูกผลิตออกมาให้รองรับการใช้งานได้กับห้องที่มีขนาด 21 ตารางเมตร ไปจนถึง 37 ตารางเมตรโดยเฉพาะ จากอัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ที่ทำได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง โดยในด้านของโหมดการใช้งานที่เลือกปรับได้ในการฟอกอากาศ ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 3 รูปแบบเพื่อให้คุณปรับแต่งตามรูปแบบการใช้ชีวิตได้อย่างหลากหลาย และในส่วนของเสียงที่ส่งออกมาในระหว่างการเปิดใช้งานตัวเครื่อง ก็จะอยู่ในระดับมาตรฐานที่ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณในช่วงประมาณ 31 เดซิเบลเพียงเท่านั้นครับ
ข้อดี
✓ เหมาะสำหรับห้องขนาดกลาง
✓ ใช้งานไส้กรองอากาศแบบ 3 ชั้น
✓ ปรับโหมดการทำงานได้ 3 รูปแบบ
ข้อควรพิจารณา
✘ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพในพื้นที่ขนาดใหญ่
6. Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศแบบตั้งโต๊ะสำหรับห้องทำงาน ที่สามารถจัดการกับมลภาวะต่าง ๆ บนอากาศได้แบบดีเยี่ยม
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier |
ขนาดตัวเครื่อง | 300 x 101 x 332 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2.1 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | – |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | – |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | – |
Xiaomi Mijia Desktop Air Purifier เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบตั้งโต๊ะ ซึ่งถูกออกแบบมาให้จัดการกับสิ่งสกปรกบนอากาศและกลิ่นอันไม่ถึงประสงค์ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการใช้งานไส้กรองที่ถูกผลิตขึ้นจากคาร์บอนคุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติป้องกันการสะสมตัวของแบคทีเรียได้แบบมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการดูดกลิ่นที่ทำได้แบบดีเยี่ยม โดยที่ในด้านของการสั่งการตัวเครื่องและปรับแต่งรูปแบบการทำงานของตัวอุปกรณ์ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็วผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน Mi Home App บนเครื่องสมาร์ทโฟน รวมไปถึงยังมีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้แบบมีประสิทธิภาพอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้สะดวก
✓ เหมาะสำหรับการตั้งบนโต๊ะทำงาน
✓ จัดการมลภาวะบนอากาศได้แบบดีเยี่ยม
ข้อควรพิจารณา
✘ ประสิทธิภาพการฟอกอากาศอาจไม่สูงมากนัก
7. Xiaomi Mi Air Purifier 3
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับพื้นที่ขนาด 48 ตารางเมตร ด้วนอัตราการผลิตอากาศสูงสุด 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 3 |
ขนาดตัวเครื่อง | 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 4.8 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 48 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | – |
หากคุณกำลังมองหารุ่นขนาดกำลังดีที่จัดวางในทุกมุมห้องได้แบบไม่กินพื้นที่ และถูกออกแบบมาให้ใช้งานในห้องขนาดมาตรฐานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ Xiaomi Mi Air Purifier 3 น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณควรให้ความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ทั้งจากขนาดพื้นที่ในการฟอกอากาศที่ทำได้สูงสุดในขนาด 48 ตารางเมตร และประสิทธิภาพของระบบฟอกอากาศที่ให้มาในช่วง 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ส่วนในด้านของการควบคุมการทำงานและสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ บนตัวเครื่อง ก็จะทำได้อย่างง่ายดายทั้งหมด 2 รูปแบบเริ่มตั้งแต่การสั่งการด้วยหน้าจอระบบสัมผัสแบบ OLED และการใช้งานแอปพลิเคชัน Mi Home App บนเครื่องสมาร์ทโฟนของคุณครับ
ข้อดี
✓ อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ 380 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
✓ รองรับการใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
✓ มีฟังก์ชันสั่งการการทำงานด้วยเสียง
ข้อควรพิจารณา
✘ อาจมีเสียงในการทำงานของตัวเครื่องเล็กน้อย
8. Xiaomi Mi Air Purifier 2H
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์สวยงามทันสมัย และมีสเปกโดยรวมที่จัดอยู่ในระดับพื้นฐาน
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 2H |
ขนาดตัวเครื่อง | 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 5.2 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 260 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 18 ถึง 31 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | – |
ต่อมาเป็นหนึ่งในรุ่นขนาดเล็กที่รองรับการใช้งานในห้องขนาด 18 ถึง 31 ตารางเมตรได้แบบลงตัว ด้วยความสามารถในระบบฟอกอากาศ ที่ผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงประมาณ 260 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และการกรองอากาศแบบ 3 ขั้นตอนที่จะทำให้ห้องของคุณมีอากาศที่สะอาดได้มากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ Pre-Filter, HEPA-Filter ไปจนถึง Carbon-Filter ซึ่งช่วยให้ตัวอุปกรณ์สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กสุดได้มากถึง 0.3 ไมครอน และหมายความว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่รองรับการกรองอากาศ ที่มีการเจือปนของฝุ่น PM2.5 ได้ด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ โหมดการทำงานที่ปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ
✓ ใช้พลังงานไม่สูงมากนัก
✓ เซ็นเซอร์การตรวจจับอากาศแบบอัตโนมัติ
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้งานได้กับพื้นที่ที่มีขนาดเล็กเพียงเท่านั้น
9. Xiaomi Mi Air Purifier 3C
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศ ขนาดมาตรฐานที่ฟอกอากาศภายในทุกห้องของบ้านได้แบบมีคุณภาพ ด้วยค่า CADR สูงสุด 320 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 3C |
ขนาดตัวเครื่อง | 240 x 240 x 520 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 4.6 กิโลกรัม |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 320 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | – |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | ต่ำกว่า 61 เดซิเบล |
Xiaomi Mi Air Purifier 3C เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรุ่นราคาประหยัดของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่ถูกออกแบบมาให้มีสเปกการทำงานจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมไม่แพ้กันกับรุ่นอื่น ๆ ด้วยการใช้งานแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA Filter ที่ทำให้รองรับการจัดการกับฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน และควบคุมการสะสมตัวของฝุ่น PM2.5 บนอากาศได้แบบมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของค่า CADR ที่ทำได้สูงสุดในเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ จะอยู่ในช่วงระดับ 320 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และในด้านของการเคลื่อนย้ายการจัดวางก็ยังทำได้ง่ายดาย จากน้ำหนักโดยรวมที่มีอยู่เพียง 4.6 กิโลกรัมด้วยนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ ดีไซน์การออกแบบสวยงามหรูหรา
✓ ใช้งานแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA Filter
✓ อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ระดับสูง
ข้อควรพิจารณา
✘ ระดับเสียงในการเปิดใช้งานค่อนข้างสูง
10. Xiaomi Mi Air Purifier 2C
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กจากแบรนด์ Xiaomi ที่สร้างอากาศบริสุทธิ์ได้แบบรอบทิศทางภายในพื้นที่ขนาด 42 ตารางเมตร
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mi Air Purifier 2C |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
อัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ | 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง |
ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดใช้งาน | 42 ตารางเมตร |
ระดับเสียงในระหว่างการเปิดใช้งาน | – |
สุดท้ายเป็นรุ่นขนาดเล็ก จากแบรนด์ Xiaomi ที่มาพร้อมความสามารถในการดูดอากาศแบบรอบด้าน 360 องศา ด้วยอัตราการผลิตอากาศบริสุทธิ์ที่ให้มาในช่วงประมาณ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในการใช้งานได้สูงสุดในห้องที่มีขนาดประมาณ 42 ตารางเมตร และเพื่อการควบคุมฝุ่นบนอากาศให้ง่ายดายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ยังเป็นสิ่งที่ทำให้รุ่นนี้มีการติดตั้งเซ็นเซอร์การตรวจจับฝุ่นแบบอัตโนมัติ ที่จะทำงานได้แบบต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งการทำงาน หรือการควบคุมระบบฟอกอากาศของตัวอุปกรณ์เลยแม้แต่น้อยครับ
ข้อดี
✓ ฟอกอากาศได้แบบรอบด้าน 360 องศา
✓ อัตราการผลิตอากาศที่เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน
✓ รองรับการใช้งานได้ดีในห้องพักและคอนโดขนาดทั่วไป
ข้อควรพิจารณา
✘ ไม่มีหน้าจอแสดงผล OLED สำหรับการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi เลือกซื้ออย่างไรดี ?
1. เลือกจากความสามารถในการผลิตอากาศที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ
เป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ในแต่ละบ้านจะต้องมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้การเลือก ซื้อเครื่องฟอกอากาศ ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดนั้น ก็จำเป็นจะต้องเลือกดูจากความสามารถในการผลิตอากาศ ที่รองรับการใช้งานได้เพียงพอต่อห้อง ๆ นั้น ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้อากาศภายในห้องของคุณมีความสะอาดและปลอดภัยตามไปด้วยในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณแยกประสิทธิภาพการใช้งานของแต่ละรุ่นออกมาได้อย่างชัดเจนอีกด้วยครับ
2. พิจารณาขนาดตัวเครื่องที่จัดวางได้แบบไม่กินพื้นที่และเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
เรื่องของขนาดและน้ำหนักที่มีผลโดยตรงต่อความง่ายในการจัดวาง และความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็นับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยต่อการเลือกซื้อของคุณด้วยเช่นกัน เพราะหากสถานที่ที่คุณกำลังอาศัยอยู่เป็นห้องคอนโดหรือหอพักขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มีพื้นที่ใช้สอยในการจัดวางสิ่งต่าง ๆ มากเท่าไหร่นัก การเลือกซื้อรุ่นที่มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป ก็อาจทำให้พื้นที่ภายในบ้านของคุณลดลงไปได้อีกพอสมควร และอาจทำให้คุณใช้ชีวิตได้ลำบากมากยิ่งขึ้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
3. ให้ความสำคัญกับ ระดับเสียง ที่มีผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
จากความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์ ที่ค่อนข้างจะใช้พลังงานมากในระบบการฟอกอากาศ เป็นผลให้ในระหว่างที่เปิดใช้งานตัวเครื่อง ก็แน่นอนว่าจะต้องมีเสียงที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากคุณต้องการให้รุ่นที่เลือกใช้งานไม่รบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณมากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในด้านของเสียงที่ค่อนข้างจะมีผลต่อการทำงานและการเรียนของคุณ ก็ไม่ควรลืมที่จะตรวจสอบถึงในเรื่องของระดับเสียง ที่ส่งออกมาในระหว่างการเปิดใช้งานระบบฟอกอากาศของตัวเครื่อง ซึ่งมักจะถูกใส่ลงมาให้ในรายละเอียดของสินค้าแต่ละรุ่นด้วยนั่นเองครับ
4. พิจารณารุ่นที่มีฟังก์ชันการขจัด ฝุ่น PM 2.5
ในยุคปัจจุบันที่ปัญหามลภาวะทางอากาศอย่าง ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นสิ่งที่มีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพของทั้งวัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ทำให้การเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ Mi ที่มีการติดตั้งฟังก์ชันการทำงานในด้านนี้มาให้ ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน เพราะอุปกรณ์ประเภทนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในด้านนี้ได้แบบตรงจุดมากที่สุดอยู่แล้ว ส่งผลให้การเลือกซื้อรุ่นที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด ก็ไม่ควรลืมให้ความสนใจไปในด้านนี้ด้วยเช่นกันครับ
บทสรุป
ในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ ที่ปัญหามลภาวะทางอากาศ มากมายกลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากสำหรับการใช้ชีวิตในทุกวัน ส่งผลให้การลองเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันของคุณเป็นไปได้อย่างปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่าง เครื่องฟอกอากาศ นั้น ก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ สำหรับผู้ใช้งานหลายคนที่ให้ความสำคัญในด้านนี้มากเป็นพิเศษอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว จากความสามารถเฉพาะทางของตัวอุปกรณ์ ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ในด้านนี้ได้อย่างตรงจุด
และระดับราคาที่ย่อมเยา และเข้าถึงได้อย่างไม่ลำบากมากจนเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้การมองหาอุปกรณ์ประเภทนี้มาไว้ในการใช้งานซักหนึ่งรุ่น ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งหากต้องการเลือกซื้อให้ง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น คุณก็อาจลองพิจารณาดูจากรายละเอียดที่เราได้กล่าวไป เช่น ความสามารถในการผลิตอากาศของตัวเครื่อง, ขนาดของตัวอุปกรณ์ ที่มีผลโดยตรงต่อการเคลื่อนย้ายและพื้นที่การจัดวาง, ระดับเสียงที่ส่งผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ ฟังก์ชัน การขจัด ฝุ่น PM2.5 ที่ถูกใส่มาให้ใน ระบบกรองอากาศ ก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยหากคุณได้ลองพิจารณาถึงรายละเอียดเหล่านี้อย่างถี่ถ้วนมากที่สุดแล้ว เราก็เชื่อว่าคุณจะต้องได้รุ่นที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดแน่นอนครับ