10 แอร์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

1. ขนาดห้อง
   ก่อนการเลือกซื้อแอร์เคลื่อนที่ต้องดูว่าห้องมีขนาดเท่าไหร่ เพราะขนาดห้องนั้นเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะเลือกแอร์เคลื่อนที่ BTU จำนวนเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอต่อการทำความเย็นภายในห้อง แอร์เคลื่อนที่ นั้นมีจำนวนBTUตั้งแต่ 6000 – 20000 BTUเลยทีเดียว และตัวBTUนี้เป็นตัวกำหนดราคาของแอร์เคลื่อนที่อีกด้วย
2. เลือก แอร์เคลื่อนที่ ราคา ยี่ห้อ
   แน่นอนว่าราคาก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อแอร์เคลื่อนที่ เพราะหากมีราคาถูกแต่คุณภาพไม่ดี พังง่าย ทำความเย็นได้ไม่ดีก็จะเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นคุณควรศึกษาจากรีวิวผู้ที่เคยใช้งานสินค้า ร่วมกับประเมินราคาและเลือกแอร์เคลื่อนที่ที่ดีในราคาที่เอื้อมถึงก็จะดีที่สุดค่ะ
3. ความดังของเสียงรบกวน
   แอร์เคลื่อนที่นั้นจะมีคอมเพรสเซอร์ในตัวจึงทำให้เวลาที่เครื่องทำงานจะมีเสียงค่อนข้างดังอยู่พอสมควร ดังนั้นคุณควรสอบถามเกี่ยวกับความดังของเครื่องว่ามีระดับกี่เดซิเบลเป็นความดังที่รบกวนการนอนหลับของคุณหรือไม่ บางคนนั้นหลับยาก แค่เสียงดังนิดหน่อยก็ไม่หลับแล้ว หรืออาจดูว่าเครื่องนั้นมีโหมดสำหรับการนอนหรือไม่ เพราะหากดังจนไม่ได้หลับได้นอน ถึงจะเย็นแต่ก็ไม่คุ้มกับการเสียสุขภาพจิตรนะคะ
4. ความยาวของท่อระบายความร้อน
   ท่อระบายความร้อนควรมีความยาว ยืดหยุ่นได้ เพื่อเวลาติดตั้งท่อระบายจะได้ทำได้อย่างสะดวกเพราะหากท่อสั้นก็จะทำให้ลำบากในการติดตั้งอย่างแน่นอน การติดตั้งท่อระบายนั้นต้องติดตั้งทางหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนออกทางด้านนอกของห้องดังนั้นห้องที่จะติดตั้งแอร์เคลื่อนที่จะต้องมีช่องสำหรับการวางท่อระบายลมร้อนด้วย สายจึงต้องมีความยาวอย่างเหมาะสมแต่ไม่ยาวมากจนเกินไป
5. ระบบน้ำทิ้ง
   แอร์เคลื่อนที่บางรุ่นต้องมีท่อระบายน้ำจึงต้องต่อท่อน้ำทิ้งอออกทางด้านนอก หรือต้องหมั่นทิ้งน้ำบ่อยๆ หรือบางรุ่นอาจมีระบบระเหยน้ำอัตโนมัติ มีระบบหมุนเวียนน้ำในเครื่อง ดังนั้นคุณต้องสอบถามพนักงานให้ละเอียด
6. ฟังก์ชั่นการใช้งาน
   ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ควรมีทั่วไป นอกจากฟังก์ชั่นพื้นฐานแล้วยังต้องมีฟังก์ชั่นเสริม เช่น ระบบออโต้สวิง การปรับโหมดความเย็นหลายระดับ ความเย็น/เป่าลมแห้งไล่ความชื้น/ พัดลมธรรมดา ระบบตัดการทำงานคอมเพรสเซอร์อัตโนมัติ สัญญาณไฟจะ เตือนคำว่า WATER FULL มีระบบเปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าดับ เป็นต้น
7. การควบคุมการทำงาน
   การควบคุมการทำงานของแอร์เคลื่อนที่นั้น ควรมีการควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล เพื่อสะดวกในการใช้งานไม่ต้องไปกดที่เครื่อง และจะต้องมีการควบคุมที่ตัวเครื่องด้วยเพราะรีโมทอาจเสียหรือถ่านหมด ควรมีไฟแสดงสถานะชัดเจน เมื่อเวลาเปิดตอนกลางคืนจะได้เห็นชัดเจน
8. การตั้งเวลา
   การตั้งเวลาเหมือนจะไม่สำคัญแต่ที่จริงแล้วก็มีความสำคัญอยู่นะคะ เพราะหากเราตั้งเวลาในการเปิด-ปิดไว้ พอได้ความเย็นพอแล้วเครื่องก็จะตัดการทำงานเอง ทำให้เราไม่ต้องตื่นมาปิดกลางดึก นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้งานเครื่องไม่เป็น เราเพียงตั้งเวลาเปิด-ปิดไว้ ก็จะเป็นการสะดวกต่อการใช้งานและยังเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย
9. การทำความสะอาด
   แอร์เคลื่อนที่นั้น มีการทำงานสะอาดที่ง่ายกว่าแอร์ธรรมดามาก ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินในการจ้างช่างล้างแอร์ เพียงแค่คุณเลือกแอร์เคลื่อนที่ที่มีแผ่นกรองอากาศที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดง่าย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และหมั่นเช็ดบริเวณบานสวิงสม่ำเสมอไม่ให้มีฝุ่นเกาะเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
10. การรับประกัน
    แน่นอนที่สุดว่าการรับประกันเป็นเรื่องที่คุณจะต้องดูก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแอร์เคลื่อนที่ เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าในอนาคตเครื่องจะมีการชำรุดหรือไม่ และนอกจากการรับประกันแล้วควรเลือกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีศูนย์ซ่อมที่สามารถติดต่อได้ไม่รออะไหล่นาน

ข้อดี

1. ไม่ต้องเจาะผนังหรือทำการติดตั้งให้ยุ่งยาก แค่วางกับพื้นเสียบปลั๊ก ก็สามารถใช้งานกันได้เลย
2. แอร์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่จะมีล้อเลื่อนทำให้เคลื่อนย้ายง่าย น้ำหนักเบา
3. การทำความสะอาดทำได้ง่ายเพียงแค่ถอดแผ่นกรองอากาศ และทำความสะอาดฟิลเตอร์ประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ก์เพียงพอ ไม่ต้องจ้างช่างล้างแอร์ให้เสียเงิน
4. นอกจากใช้ในห้องแล้วยังสามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆได้ด้วย
5. หมดปัญหาเรื่องน้ำยาแอร์รั่ว
6. แอร์เคลื่อนที่บางรุ่น นอกจากทำความเย็นยังสามารถเป็นฮีตเตอร์ทำความร้อนได้ด้วย
7. นอกจากใช้ในห้องแล้วยังสามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆได้ด้วย

ข้อเสียของแอร์เคลื่อนที่

1. แอร์เคลื่อนที่เหมาะสมกับห้องพักที่มีขนาดเล็ก ไม่กว้าง เพราะการกระจายความเย็นของแอร์เคลื่อนที่ยังทำได้ไม่ดี เท่าเครื่องปรับอากาศปกติ การกระจายไม่ทั่วถึง ส่วนใหญ่จะเย็นเฉพาะจุดหรือบริเวณไม่กว้างมากนัก
2. หากคุณคาดหวังความเย็นฉ่ำแบบแอร์บ้านจากแอร์เคลื่อนที่ขอบอกว่าคุณอาจผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากแอร์เคลื่อนที่ทำความเย็นได้น้อยกว่าแอร์บ้านอย่างแน่นอนแต่ก็ยังดีกว่าพัดลม
3. ต้องติดตั้งท่อระบายความร้อนด้านหลังของเครื่อง เพื่อเป็นการระบายลมร้อนออกจากตัวเครื่องและออกห้อง การติดตั้งจะต้องปล่อยท่อออกทางหน้าต่างเพื่อให้ลมร้อนออกนอกห้อง
4. แอร์เคลื่อนที่นั้นไม่มีระบบประหยัดไฟ จึงทำให้ค่อนข้าที่จะกินไฟมากกว่าแอร์บ้านอยู่พอสมควร
5. แอร์เคลื่อนที่ที่มีระบบระบายน้ำอัตโนมัติ ก็อาจต้องมีการทิ้งน้ำออกบ้างในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด เพราะเครื่องจะระบายน้ำไม่ทัน

1. ก่อนการเลือกซื้อแอร์เคลื่อนที่ต้องดูว่าห้องมีขนาดเท่าไหร่ เพราะขนาดห้องนั้นเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะเลือกแอร์เคลื่อนที่ BTU จำนวนเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอต่อการทำความเย็นภายในห้อง แอร์เคลื่อนที่นั้นมีจำนวน BTUตั้งแต่ 6000 – 20000 BTUเลยทีเดียว
2. ต้องต่อท่อลมร้อน มีสิ่งที่ควรระวัง คือ พยายามอย่าให้มี สิ่งของหรือสิ่งอื่นมาทับท่อเพื่อให้ลมร้อนระบายอากาศได้สะดวก
3. ไม่ควรเปิดใช้แอร์เคลื่อนที่ตลอดเวลา ทางที่ดีควรตั้งเวลาการเปิด-ปิด เมื่อได้อุณหภูมิที่คงที่แล้วจะได้ตัดการทำงาน
4. ห้ามต่อเติมท่อลมร้อนของแอร์เคลื่อนที่ให้ยาวขึ้นเพราะความยาวที่ไม่พอดีจะทำให้พัดลมไม่มีแรงดันมากพอที่จะระบายความร้อนได้และควรต่อท่อลมร้อนออกภายนอกและปิดรูอย่างมิดชิดเพื่อไม่ให้ลมร้อนและลมเย็นมากระทบกัน

การดูแลรักษา เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ นั้นทำง่ายกว่าการรักษาแอร์บ้านมาก เพียงแค่หมั่นเอาที่ กรองอากาศ และช่องใส่น้ำทิ้ง ออกมาทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ สัปดาห์ละครั้ง หรืออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค และห้ามต่อเติมท่อลมร้อนของ แอร์เคลื่อนที่ ให้ยาวขึ้น เพราะความยาวมากเกินไปจะทำให้พัดลมมีแรงดันไม่มากพอที่จะระบายความร้อนได้ เมื่อเครื่องมีปัญหาควรสอบถามจากช่างหรือผู้ผลิตเนื่องจากแอร์เคลื่อนที่แต่ละยี่ห้อจะมีการทำงานไม่เหมือนกัน น้ำยาของแอร์เคลื่อน เป็นระบบปปิด หากไม่มีการรั่วซึม จึงไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยา ไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น เพื่อไม่ให้เกิดกระแสไฟฟ้ารัดวงจร แอร์เคลื่อนที่ บางรุ่นไม่สามารถระเหยน้ำได้ หรือปั๊มน้ำทิ้งออกได้เอง จึงต้องหมั่นนำน้ำทิ้งในถาดน้ำทิ้งออกมาเทอย่างสม่ำเสมอ ดูแลรักษาเพียงแอร์เคลื่อนที่ก็จะอยู่คู่กับคุณไปอีกนาน