แนะนำ 8 อันดับ วิตามิน อี ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

วิตามินอี-ยี่ห้อไหนดีการรับประทานอาหารเสริม อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าเป็นการเสริมสำหรับการรับประทานอาหารหลักในกรณีที่ร่างกายไม่สามารถรับประทานอาหารหลักได้ตามที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ที่เราเร่งรีบอย่างมากเวลาในการรับประทานอาหารน้อยมาก อาหารเสริม มีหลายชนิดแต่ในบทความนี้ เราอยากแนะนำ อาหารเสริม วิตามิน อี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายทั้งในด้านของการบำรุงผิวพรรณ และ การบำรุงสุขภาพร่างกาย จึงเป็นอาหารเสริมที่เราไม่อยากให้ทุกท่านมองข้าม

วิตามิน อี กิน ตอนไหนดี

วิตามิน อี สามารถละลายได้ดีในไขมัน จึงควรรับประทานหลังมื้ออาหารทันที หรือรับประทานร่วมกับอาหารที่มีน้ำมันหรือไขมันอยู่ด้วย ปริมาณที่เหมาะสมใน1วัน โดยทั่วไปไม่เกินวันละ 800IU แต่ไม่ต้องกังวลมากหากรับประทานเกินเพราะร่างกายจะสามารถขับออกมาได้ แต่การรับประทานที่มากเกินบางคนอทจมีอาการท้องผูก หรืท้องอืดได้บ้าง และยังทำให้ร่างกายทำงานหนัก จึงแนะนำให้รับประทานให้พอดีจะดีที่สุด

วิตามิน อี ( Vitamin E ) มีกี่ประเภท

วิตามิน อี เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ สามารถละลายได้ดีในไขมัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะต้องได้จากการรับประทานเข้าไป วิตามินอีในธรรมชาติแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

  • โทโคฟีรอล(Tocopherol)
    วิตามินอีที่สามารถพบได้มากที่สุด มีทั้งวิตามินอีจากธรรมชาติ และวิตามินอีสังเคระาห์ ซึ่งสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยแต่วิตามินอีจากธรรมชาติจะเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าแบบสังเคราะห์
  • โทโคไตรอีนอล(Tocotrienols)
    เป็นวิตามินอีที่อยู่ในสภาพไม่อิ่มตัว สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ออกฤทธิ์ได้ดี มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง60เท่า มีความโดดเด่นในเรื่องช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้
    วิตามินอีทั้งสองประเภทจะมีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระที่แตกต่างกัน และช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้แก่กันได้ดี

แนะนำ 8 วิตามิน อี ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023

  1. VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene 
  2. กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์และวิตามิน อี
  3. SWISSE Omega – 3 With Vitamin E 30 Capsules
  4. Amsel Co Q10 Plus Vitamin E 60’s
  5. Fish Oil Omega 3 Vitamin E
  6. Vitafit Vitamin E 400iu
  7. Bewel Evening Primrose Oil 1000mg Plus vitamin E
  8. DHC Vitamin E

1. VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene

สารสกัดจากมะเขือเทศ ผสม เบต้า-แคโรทีน และ วิตามิน อี ปกป้องผิวจากแสงแดด ชะลอความเสื่อมของผิว

ยี่ห้อVISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene
ปริมาณบรรจุ30 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ– สารสกัดจากมะเขือเทศ (LYC-O-MATO) 60 มก.
– เบต้า-แคโรทีน(30%) 15 มก.
– วิตามินอี 7.66 mg.
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene อาหารเสริม สารสกัดจากมะเขือเทศ ที่อุดมไปด้วยไลโคปีน และ สารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติ ที่โดดเด่นที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ได้ล้ำลึก เช่น อาการแสบร้อนแดงที่ผิว ผิวไหม้น้อยลง

2. กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์และวิตามิน อี

เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์และวิตามินอี แคปซูลนิ่ม รับประทานง่าย ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี

ยี่ห้อกิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์และวิตามิน อี
ปริมาณบรรจุ60 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ– เลซิติน 1,200 มก.
– มีเดียมเชนไตรกลีเซอร์ไรด์ 266.4 มก.
– มิกซ์แคโรทีนอยด์ 20.0 มก.
– ดีแอลฟาโทโคฟีริลอะซีเตต 13.6 มก. (ให้วิตามิน อี 14.96 IU)
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร

อาหารเสริมแบรนด์คนไทย ที่ได้มาตรฐานระดับสากล กิฟฟารีน เลซิติน ผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปแบบแคปซูลนิ่ม ที่ทำจากเจลาติน สกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย กิฟฟารีน เลซิติน ผสมวิตามินอี และ แคโรทีนอยด์ ที่สกัดจากสารสกัดจากผลปาล์มแดง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของเลซิตินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. SWISSE Omega – 3 With Vitamin E

โอเมก้า 3 ผสม วิตามิน E ผลิตจากประเทศออสเตรเลีย บำรุงสมอง บำรุงหัวใจและหลอดเลือด

ยี่ห้อSWISSE Omega – 3 With Vitamin E
ปริมาณบรรจุ30 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญน้ำมันปลา 450 มิลลิกรัม ซึ่งมี อีพีเอ 162 มิลลิกรัม และดีเอชเอ 108 มิลลิกรัม
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารและดื่มน้ำตามมากๆ

ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมสวิสเซ โอเมก้า 3 ผสม วิตามิน อี ผลิตจากประเทศออสเตรเลียซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานและ การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด ใน 1 แคปซูล มีส่วนประกอบของน้ำมันผลา ที่ได้จากแหล่งหาปลาทะเลในธรรมชาติ ที่ผ่านการตรวจสอบปริมาณความปลอดภัยสากลของโละหนัก ตะกั่ว และปรอท มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย น้ำมันปลามี มีกรดไขมันโอเมก้า3 อีพีเอ ดีเอชเอและวิตามินอีสูง ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้จะต้องได้รับจากรับประทานอาหาร สวิสเซ โอเมก้า 3 ผสมวิตามินอี ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์บรรจุในแคปซูลแบบนิ่มซึ่งสะดวกต่อการกลืน

4. Amsel Co Q10 Plus Vitamin E 60’s

Coenzyme Q10 Plus Vitamin E สารต้านอนุมูลอิสระ คงความอ่อนเยาว์ เพิ่มพลังงานให้กล้ามเนื้อหัวใจ

ยี่ห้อAmsel Co Q10 Plus Vitamin E 60’s
ปริมาณบรรจุ60  แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ– Co enzyme Q10 10%  300.00 mg./มก
– Vitamin E 50% 20.00 mg./มก.
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร

Amsel Co Q10 Plus Vitamin E ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่คัดเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม น้ำมันปลานำเข้าจากประเทศแคนาดา ใช้สารสกัดจากปลาตัวเล็กที่อาศัยใต้ทะเลลึก ซึ่งไม่มีสารพิษเจือปน มีEPA และ DHA ส่วนผสมหลักของ Amsel คือ Coenzyme Q10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอบ ควบคุมระดับคอเรสเตอรอล ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ไขมันและหลอดเลือด และส่วนผสมจาก Vitamin E ที่ทำงานร่วมกับ Coenzyme Q10

5. Fish Oil Omega 3 Vitamin E

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 พลัส วิตามินอี บำรุงระบบประสาทและสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ยี่ห้อFish Oil Omega 3 Vitamin E
ปริมาณบรรจุ30 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญ– กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 90 มิลลิกรัม
– กรดโดโคซาเอกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 60 มิลลิกรัม
– กรดไขมันอิ่มตัว 135 มิลลิกรัม
– วิตามินอี 1.8 มิลลิกรัม
วิธีรับประทานรับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 พลัส วิตามินอี จากแบรนด์ Morikami Laboratories ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศ ICE LAND ซึ่งคัดเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากปลาทะเลน้ำลึกที่มีความปลอดภัยจากสารเคมีปนเปื้อน สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย 1 ในแคปซูลประกอบด้วย กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) กรดโดโคซาเอกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) กรดไขมันอิ่มตัว และวิตามินอี ในสัดส่วนที่เหมาะสม

6. Vitafit Vitamin E 400iu

วิตามินอี บริสุทธิ์จากสารสกัดจากธรรมชาติ บำรุงผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย ต่อต้านอนุมูลอิสระ

ยี่ห้อVitafit Vitamin E 400iu
ปริมาณบรรจุ30 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญวิตามินอี (as D-Alpha Tocopheryl Acetate) 400 IU
วิธีรับประทานรับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร

Vitafit Vitamin E 400iu ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินอี ซึ่งใช้วิตามินอีบริสุทธิ์จากสารสกัดจากธรรมชาติ as D-Alpha Tocopheryl Acetate ปริมาณ 400 IU ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่ร่างกายต้องการ รับประทานเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ บำรุงเส้นผม ให้นุ่มลื่นสุขภาพดี

7. Bewel Evening Primrose Oil 1000mg Plus vitamin E

อีฟนิ่งพริมโรส เสริมวิตามินอี วัตถุดิบนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ บำรุงผิว ลดอาการก่อนมีประจำเดือน

ยี่ห้อBewel Evening Primrose Oil 1000mg Plus vitamin E
ปริมาณบรรจุ30 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญEvening Primrose Oil 1000 มก.
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร

Bewel Evening Primrose Oil 1000mg Plus vitamin E ที่ใช้ส่วนประกอบจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 1000 มก. ซึ่งเป็นวิตามินอีตามธรรมชาติที่ให้ กรดแกมมาไลโนเลนิก และวิตามินอี ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ กรดแกมมาไลโนเลนิก เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายในกลุ่มของโอเมก้า-6 ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้โดยธรรมชาติ จำเป็นต้องได้จากอาหารและ Evening Primrose Oil ของ Bewel ปลูกแบบออร์แกนิค เพื่อความปลอดภัยไร้สารตกค้าง ผ่านกรรมวิธีการสกัดแบบเย็น เพื่อคงปริมาณสารอาหาร

8. DHC Vitamin E

วิตามินอีธรรมชาติ บำรุงผิวพรรณ ลดเลือนแผลเป็นบำรุงสุขภาพ เพื่อสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

ยี่ห้อDHC Vitamin E
ปริมาณบรรจุ60 แคปซูล
ส่วนประกอบสำคัญวิตามิน E สกัดจากถั่วเหลือง (active high d-α-tocopherol)
วิธีรับประทานรับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร

DHC Vitamin E อาหารเสริม ยี่ห้อดัง จากประเทศญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นวิตามิน E ที่สกัดจากถั่วเหลือง (active high d-α-tocopherol ) ด้วยเทคนิคเฉพาะของ DHC ซึ่งเป็นวิตามินอีที่สามารถดูดซึมง่ายกว่าการดูดซึมของวิตามิน E ทั่วไป คำแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ได้ผลดีที่สุดเมื่อทานพร้อมกับมื้ออาหารแล้วตามด้วยน้ำอุ่น และควรรับประทานวิตามินอีร่วมกับ Vitamin C เพื่อช่วยให้ Vitamin E ละลายได้ดีขึ้น

Vitamin E ช่วยอะไร และ มีประโยชน์อย่างไร ?

  • บำรุงผิวพรรณ
    ประโยชน์ในข้อนี้นับว่าถูกใจสาวๆ สารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินอี จะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอยตามวัย
  • บำรุงหัวใจ
    วิตามินอี ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี เพิ่มออกซิเจนในร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
  • บำรุงสมอง
    เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่สมองได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคสมองเสื่อม ลดความเครียด และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกได้อีกด้วย

ถาม – ตอบ เรื่อง อาหารเสริมวิตามินอี

  1. เราสามารถได้รับวิตามินอี จากอาหารตามธรรมชาติแบบใดได้บ้าง
    ตอบ
    แหล่งอาหารของวิตามินอี จะได้จากการรับประทานผัก ผลไม้ ไข่ ธัญพืช น้ำมันจากพืช
  2. ผู้หญิงและผู้ชาย รับประทานวิตามินอีในปริมาณเท่ากันหรือไม่
    ตอบ
    ปริมาณวิตามินอี ใน 1 วัน จะ แตกต่างกันไปตามเพศและอายุ ผู้ชายต้องการวิตามินอี 7.5 มิลลิกรัม ไม่เกิน 800 มิลลิกรัม และผู้หญิงต้องการวิตามินอี 6.5 มิลลิกรัม ไม่เกิน 600 มิลลิกรัม

วิธีการเลือกซื้อ อาหารเสริมวิตามินอี

3 วิธีการเลือกซื้อ

1. เลือกจากแหล่งที่มาของวิตามินอี

  • วิตามินอี สารสกัดจากธรรมชาติ
    อาหารเสริมวิตามินอี ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ฉลากจะระบุ ตัวอักษร d วิตามินอีจากสารสกัดจากธรรมชาติจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีซึ่งจะดูดซึมหลังจากการรับประทานใน 6 ชั่วโมง
  • วิตามินอีจากสกัดจากการสังเคราะห์
    อาหารเสริมวิตามินอี ที่เป็นสารสกัดสังเคราะห์ที่ฉลากจะระบุ ตัวอักษร dl เมื่อรับประทานเข้าไปร่างกายจะดูดซึมใน 12 ชั่วโมง ซึ่งจะดูดซึมช้ากว่าแบบวิตามินอีที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ

2. เลือกรูปแบบเม็ดที่สะดวกต่อการรับประทาน

อาหารเสริม วิตามินอี ก็เหมือนอาหารเสริมทั่วไป ซึ่งมีทั้งที่อยู่ใน รูปแบบเม็ด แบแคปซูล และใน รูปแบบซอฟเจล ซึ่งทุกท่านสามารถเลือกรับประทานได้ ตามความสะดวก แต่ส่วนมากจะนิยมทำในรูปแบบซอฟเจล ซึ่งจะสะดวกต่อการรับประทานมากที่สุด กลืนง่าย ดูดซึมง่าย

3. ส่วนผสมบำรุงอื่นๆ

หากต้องการับประทาน อาหารเสริม วิตามินอี เราแนะนำให้เลือกที่มีส่วนผสมของซิลิเนียม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินอี นอกจากซิลิเนียม วิตามินซี ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซีได้ นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแล้ว เราอาจเลือก วิตามินอี ที่ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆเพื่อการบำรุงหลายๆด้าน เช่น น้ำมันปลา อีฟนิ่งพริมโรส เลซิติน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน

บทสรุป

อาหารเสริมวิตามินอี ที่ขายในปัจจุบันมีขนาดตั้งแต่ 100-1500IU อาหารเสริมวิตามินอี ที่ได้จากสารสกัดจากธรรมชาติอาจมีราคาที่สูงกว่าแบบสังเคราะห์ แต่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี และเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตามคุณสามารถได้รับวิตามินอี จากการรับประทานอาหารตามปกติ เช่น ผัก ผลไม้ ไข่ ธัญพืช เน้นเป็นการรับประทานอาหารตามธรรมชาติผ่านการปรุงแต่งน้อย เพราะความร้อนจะทำให้สารอาหารลดน้อยลง

บทความล่าสุด