10 น้ำมันงา สำหรับทำอาหาร ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023

1. เลือกตามประเภทของน้ำมันงา

• น้ำมันงาแท้ 100%
  น้ำมันงา100% ได้จากงาล้วน ไม่มีน้ำมันชนิดอื่นผสม อย่างไรก็ตามเรายังอาจพบ น้ำมันงาที่ผสมกับน้ำมันประเภทอื่น เพื่อให้สามารถนำไปปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูงได้แต่ยังให้ความหอมของน้ำมันงาได้เหมือนเดิม เช่น น้ำมันงาผสมน้ำมันปาล์ม น้ำมันงาผสมน้ำมันรำข้าว เป็นต้น น้ำมันงาที่ผสมน้ำมันอื่นจะมีราคาที่ถูกกว่า แต่รสชาติและความหอมจะน้อยกว่าแบบงาแท้100%
• น้ำมันงาคั่ว
  น้ำมันงาคั่ว เป็นน้ำมันงาที่ผ่านกรรมวิธีการคั่วด้วยความร้อน และนำไปบดให้ละเอียด เพื่อสกัดน้ำมันออกมา อุณหภูมิที่ใช้ในการคั่วไม่สูงมาก แต่จะใช้เวลาในการคั่วนาน เพื่อดึงความหอมของงาออกมาอย่างเต็มที่ วิธีการดูน้ำมันงาคั่วสังเกตว่า สีของน้ำมันจะมีสีน้ำตาลเข้ม หรือที่ฉลากจะมีระบุไว้ น้ำมันงาคั่ว เหมาะกับการปรุงที่เน้นให้ความหอมเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร เช่น อาหารจีน อาหารเกาหลี
• น้ำมันงาสกัดเย็น
  น้ำมันงาสกัดเย็น คือการนำงาดิบเข้าสู่กระบวนการสกัดเย็น กรรมวิธีนี้จะช่วยทำให้ได้คุณค่าทางสารอาหารของน้ำมันงายังอยู่มากที่สุด น้ำมันงาสกัดเย็นจะมีสีใส กลิ่นหอมน้อยกว่าน้ำมันงาแบบคั่ว สัมผัสลื่น ไม่เหนียวมือ น้ำมันงาสกัดเย็นจะมีความเบา คล้ายน้ำมันมะกอก เหมาะกับการประกอบอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนสูงและไม่เน้นกลิ่นของน้ำมันงา เช่น อาหารตะวันตก อย่างเช่น การทำน้ำสลัด

2. การนำไปปรุงอาหาร

หากคุณต้องการใช้น้ำมันงาเพื่อการปรุงอาหาร ควรดูจากจุดเกิดควันของน้ำมันงาแต่ละแบบน้ำมันงาคั่วแล้วจะมีจุดเกิดควันสูงจึงปลอดภัยในการปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูงน้ำมันงาดิบหรือน้ำมันงาธรรมดามีจุดเกิดควันต่ำ ดังนั้นควรปรุงด้วยไฟอ่อน เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นไหม้

3. บรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม มากที่สุดควรบรรจุในขวดแก้ว เพื่อความปลอดภัย จัดเก็บได้ง่ายเมื่อเปิดแล้วควรเก็บใส่ตู้เย็นเพื่อคงประสิทธิภาพ หากใช้ประจำให้ซื้อขวดใหญ่ หากนานๆใช้ให้ซื้อขวดเล็ก

4. ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน

น้ำมันงา จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง ที่เราจะต้องรับประทานเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพราะฉะนั้น กระบวนการผลิตจึงต้องมีความปลอดภัย ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เช่น อย.ของกระทรวงสาธารณสุข ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง GMP, HACCP สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามควรมองหาสัญลักษณ์ฮาลาล