10 อันดับ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
คีย์บอร์ด จัดเป็นหนึ่งในส่วนควบคุมสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ใช้สำหรับการจัดการสิ่งต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง โดยเฉพาะการพิมพ์ที่ถือเป็นปัจจัยหลักในการทำงานของอุปกรณ์ประเภทนี้ เป็นผลให้ตัวอุปกรณ์นับเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันของ เครื่องคอมพิวเตอร์ PC แบบตั้งโต๊ะ นอกจากนี้ในการเล่นเกม คีย์บอร์ด ยังเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะใช้สำหรับการควบคุมองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้เกมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้นจากความจำเป็นของคีย์บอร์ด ที่มีผลอย่างมากต่อการเล่นเกมทุกประเภท จึงทำให้ในปัจจุบันมีอีกหนึ่งประเภทของคียบอร์ด ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งถูกเรียกว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่งนั่นเอง โดยที่ คีย์บอร์ด ประเภทนี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ใช้งานสายเกมมิ่งที่ต้องการอุปกรณ์คุณภาพสูงในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ อย่างผู้เล่นเกมแนว FPS, MMO RPG และ MOBA ที่จะต้องใช้งานการควบคุมผ่านทาง คีย์บอร์ด มากเป็นพิเศษ และจากความนิยมของเกมเหล่านี้ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งโลก จึงทำให้ในปัจจุบันมีสินค้ามากมายออกวางจำหน่ายให้เราเลือกซื้อกันได้อย่างหลากหลาย ทั้งในด้านของฟังก์ชันการใช้งาน, คุณภาพของสินค้า ไปจนถึงในเรื่องของระดับราคา ส่งผลให้ในส่วนของการตัดสินใจเลือกซื้อนั้น ก็เรียกได้ว่าทำได้ค่อนข้างลำบากเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เพื่อให้การเลือกซื้อของคุณทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เราจึงได้รวมรวม 10 รุ่น น่าสนใจในราคาสุดคุ้มค่า มาให้คุณลองเลือกซื้อไปพร้อมกันกับเราในบทความนี้เรียบร้อยแล้วครับ
แนะนำ 10 อันดับ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
- RAZER KEYBOARD HUNTSMAN ELITE CHROMA RGB
- Logitech G913
- SteelSeries Apex 7
- Royal Kludge RK84
- AUKEY KM-G3
- Machenike K7
- EGA Type K4
- FANTECH MK853
- Marvo KG950
- Philips SPK8601
1. RAZER KEYBOARD HUNTSMAN ELITE CHROMA RGB
★★★★★
คีย์บอร์ด เกมมิ่ง RAZER รุ่นระดับสูง ที่สามารถเล่นเกมได้อย่างเต็มอรรถรส จากปุ่มกดคุณภาพสูงที่ถูกติดตั้งมาให้
ยี่ห้อ / รุ่น | RAZER KEYBOARD HUNTSMAN ELITE CHROMA RGB |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | – |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | – |
รุ่นแรกเป็นแป้นพิมพ์ระดับสูงสำหรับสายเกมมิ่ง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ดีได้มากยิ่งขึ้น จากวัสดุในการผลิตที่มีคุณภาพจัดอยู่ในระดับสูง และคุณภาพของปุ่มกดที่จะช่วยให้คุณได้รับสัมผัสในการเล่นเกมที่มีความลื่นไหล และได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์ ที่สำคัญยังมีการออกแบบอย่างสวยงามและทันสมัย รวมไปถึงยังมีการตกแต่งเพื่อเพิ่มความหรูหราและแปลกใหม่ให้มากยิ่งขึ้น จากการตกแต่งด้วยระบบไฟแบบ RGB ที่แสดงผลสีสันรูปแบบต่าง ๆ ได้มากถึง 16.8 ล้านสีอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ระบบไฟแบบ RGB ที่แสดงผลสีได้มากถึง 16.8 ล้านสี
✓ คุณภาพปุ่มกดที่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
✓ สามารถติดตั้งบริเวณที่รองมือเพิ่มเติมได้
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดโดยรวมใช้พื้นที่ในการจัดวางพอสมควร
2. Logitech G913
★★★★★
คีย์บอร์ด สำหรับเกมเมอร์ จากแบรนด์ Logitech ที่ถูกผลิตมาพร้อมปุ่มกดมัลติฟังก์ชันมากมาย สำหรับเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | Logitech G913 |
ขนาดสินค้า | 368 x 150 x 22 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 810 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | – |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | – |
Logitech G913 เป็น คีย์บอร์ด สำหรับการเล่นเกม ที่ถูกออกแบบมาพร้อมดีไซน์ตัวอุปกรณ์สุดสวยงามทันสมัย และมีจุดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของจำนวนปุ่มกด ที่ให้มาด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว ทั้งในรูปแบบของคีย์บอร์ดแบบทั่วไป และคีย์บอร์ดสำหรับการเล่นเกม นอกจากนี้ด้วยปุ่มกดแบบมัลติฟังก์ชัน ที่ถูกใส่มาให้อย่างหลากหลายภายในตัวอุปกรณ์ ก็ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้สั่งการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเป็นอย่างมากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ ปุ่มกดแบบมัลติฟังก์ชันที่ถูกติดตั้งมาให้หลากหลายรูปแบบ
✓ ดีไซน์การออกแบบมีความสวยงามทันสมัย
✓ สามารถเชื่อมต่อการใช้งานได้แบบไร้สาย
ข้อพิจารณา
✘ จำเป็นต้องใช้งานแบตเตอรี่ในการทำงานของตัวอุปกรณ์
3. SteelSeries Apex 7
★★★★★
คีย์บอร์ดพร้อมระบบไฟ RGB แบบ Mechanical ที่รองรับการกดในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากสุดถึง 50 ล้านครั้ง
ยี่ห้อ / รุ่น | SteelSeries Apex 7 |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
รองรับการกดได้สูงสุด | 50 ล้านครั้ง |
จำนวนปุ่มกด | – |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | – |
SteelSeries Apex 7 นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นน่าสนใจ ที่มีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลานี้ จากรูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบที่มีความทันสมัย และการตกแต่งที่มีความสวยงาม จากระบบไฟแบบ RGB ซึ่งเลือกปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย ส่วนในเรื่องของความแข็งแรงทนทานนั้น ก็นับว่าทำได้อย่างดีเยี่ยมจากปุ่มกด ที่ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง ที่สำคัญเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรองมือ และเพิ่มความง่ายในการกดปุ่มต่าง ๆ บริเวณด้านล่างของตัวคีย์บอร์ดให้ง่ายดายได้มากยิ่งขึ้น ตัวคีย์บอร์ดจึงยังมีการออกแบบส่วนต่อเสริม สำหรับการเพิ่มระยะรองมือในการใช้งานมาให้อีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ รองรับการกดปุ่มได้มากสุดถึง 50 ล้านครั้ง
✓ สามารถต่อที่รองมือเพิ่มเติมในการใช้งานได้
✓ วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความแข็งแรงทนทานสูง
ข้อพิจารณา
✘ จำเป็นต้องต่อส่วนเสริมเพื่อให้ใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น
4. Royal Kludge RK84
★★★★★
คีย์บอร์ดเกมมิ่ง แบบไร้สาย จากแบรนด์ Royal Kludge ที่ปรับแต่งองศาในการใช้งานได้อย่างหลากหลายและลื่นไหล
ยี่ห้อ / รุ่น | Royal Kludge RK84 |
ขนาดสินค้า | 289 x 103 x 39 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 790 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | 84 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | 18 รูปแบบ |
Royal Kludge RK84 เรียกได้ว่าเป็น คีย์บอร์ดแบบไร้สาย ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับการใช้เล่นเกมทั่วไปในชีวิตประจำวันสำหรับปี 2022 นี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวยิงปืน FPS, เกมแนวเนื้อเรื่อง MMO RPG หรือแม้แต่เกมแนว MOBA จากการถูกออกแบบปุ่มกดให้สามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือ และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ที่รองรับได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และสมาร์ทโฟน อีกทั้งจากการถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในรูปแบบไร้สาย ด้วยแบตเตอรี่ภายในที่ถูกใส่มาให้ และการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 ก็ยังเป็นส่วนที่ทำให้ตัวอุปกรณ์เหมาะสำหรับการนำออกไปใช้งานยังสถานที่อื่น ๆ นอกบ้านด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ รองรับการใช้งานได้กับหลากหลายระบบปฏิบัติการ
✓ สามารถใช้งานตัวอุปกรณ์ได้แบบไร้สาย
✓ ปรับองศาในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย
ข้อพิจารณา
✘ จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ในการเปิดใช้งาน
5. AUKEY KM-G3
★★★★★
คีย์บอร์ดเกมมิ่งดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามล้ำสมัย ที่แสดงผลสีไฟ Backlight ได้มากสุดถึง 7 สี
ยี่ห้อ / รุ่น | AUKEY KM-G3 |
ขนาดสินค้า | 437 x 119 x 36 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 850 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | 104 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | – |
รุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ดสำหรับการเล่นเกมจากแบรนด์ AUKEY ที่ถูกผลิตออกมาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามล้ำสมัย และจัดวางกันได้อย่างเข้าชุดกับอุปกรณ์เกมมิ่งประเภทอื่น ๆ แบบอย่างลงตัว จากการถูกตกแต่งด้วยระบบไฟแบบ RGB ที่สามารถเลือกปรับสีในการแสดงผลได้มากถึง 7 สี ส่วนในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้น ก็เรียกได้ว่ามีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก จากวัสดุในการผลิตที่ใช้เป็นแบบ ABS คุณภาพสูง ที่สำคัญด้วยบริเวณปุ่มกดที่ถูกออกแบบให้มีความโค้ง ก็ยังช่วยให้ได้รับประสบการณ์ในการใช้งาน ที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ปรับแสงไฟได้มากถึง 7 สี
✓ ปุ่มกดแบบโค้งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่แปลกใหม่
✓ เหมาะสำหรับการเล่นเกมทุกประเภท
ข้อพิจารณา
✘ ใช้พื้นที่ในการจัดวางพอสมควร
6. Machenike K7
★★★★★
คีย์บอร์ด Machenike ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดโฉบเฉี่ยว และเชื่อมต่อการใช้งานได้ทั้งหมดถึง 2 รูปแบบ
ยี่ห้อ / รุ่น | Machenike K7 |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | 730 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | 87 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | 19 รูปแบบ |
ถัดมาเป็นหนึ่งในรุ่นคุณภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ ทั้งในรูปแบบของการเชื่อมต่อแบบใช้สายและการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โดยที่ในส่วนของรูปลักษณ์การออกแบบนั้น จัดว่ามีความแปลกใหม่ทันสมัย และดูดีความโฉบเฉี่ยวมีสไตล์เป็นอย่างมากไปด้วยในเวลาเดียวกัน ส่วนในเรื่องของการแสดงผลไฟนั้น จะทำได้ทั้งหมดถึง 19 รูปแบบ และแสดงผลการส่องไฟได้อย่างสวยงามมีสไตล์ นอกจากนี้ในด้านของคุณภาพปุ่มกด ก็ยังเรียกว่าจัดอยู่ในระดับดีเยี่ยมอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ เชื่อมต่อการใช้งานได้ 2 รูปแบบ
✓ แสดงผลไฟแบบ RGB ได้มากถึง 19 รูปแบบ
✓ ใช้งานได้กับหลากหลายระบบปฏิบัติการ
ข้อพิจารณา
✘ จำนวนปุ่มกดที่มีแค่ระดับพื้นฐาน
7. EGA Type K4
★★★★★
คีย์บอร์ดเกมมิ่งระบบไฟ RGB จากแบรนด์ EGA ที่พกพาได้อย่างสะดวกสบาย จากขนาดโดยรวมที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป
ยี่ห้อ / รุ่น | EGA Type K4 |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
รองรับการกดได้สูงสุด | 50 ล้านครั้ง |
จำนวนปุ่มกด | 61 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | – |
สำหรับคีย์บอร์ดรุ่นนี้นับเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่มีจุดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของการเชื่อมต่อ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบของการใช้สาย ผ่านการใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C และการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านการใช้งานระบบ Bluetooth โดยที่ในเรื่องของระบบการแสดงผลไฟแบบ RGB นั้น ก็นับว่าทำได้ค่อนข้างหลากหลาย จากจำนวนสีของไฟในการแสดงผล ที่ทำได้มากถึง 16.8 ล้านสี ยิ่งไปกว่านั้นในด้านของความทนทาน ก็ยังรองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้งเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ สามารถปรับตั้งค่ามาโครปุ่มกดได้
✓ เชื่อมต่อได้ทั้งแบบใช้สายและไร้สาย
✓ รองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง
ข้อพิจารณา
✘ ปุ่มกดของตัวสินค้าไม่มีความหลากหลายมากนัก
8. FANTECH MK853
★★★★★
แป้นพิมพ์สำหรับการเล่นเกมจากแบรนด์ FANTECH ที่แสดงผลไฟแบบ RGB ได้มากถึง 22 รูปแบบ
ยี่ห้อ / รุ่น | FANTECH MK853 |
ขนาดสินค้า | 436 x 220 x 42 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 1,300 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | 104 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | 22 รูปแบบ |
FANTECH MK853 คือ คีย์บอร์ดสายเกมมิ่ง ที่มาพร้อมความโดดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของการแสดงผลไฟแบบ RGB ซึ่งจะทำได้มากถึง 22 รูปแบบ และคุณภาพของปุ่มกดที่ช่วยให้รองรับการเล่นเกมทุกประเภทได้อย่างลงตัว ส่วนในเรื่องของการใช้งานนั้น ก็ทำได้เป็นอย่างดีทั้งจากปุ่มกดแบบทั่วไป และปุ่มกดแบบมัลติฟังก์ชันที่ถูกติดตั้งมาให้ รวมไปถึงจากการติดตั้งบริเวณที่วางข้อมือเพิ่มได้ ก็ยังช่วยเพิ่อความสะดวกสบายในการใช้งานได้เป็นอย่างมากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ ปุ่มกดมัลติฟังก์ชันหลากหลายรูปแบบ
✓ สามารถติดตั้งส่วนเสริมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้
✓ แสดงผลไฟแบบ RGB ได้ 22 รูปแบบ
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดตัวสินค้าค่อนข้างใหญ่
9. Marvo KG950
★★★★★
คีย์บอร์ดรุ่นระดับมาตรฐานปุ่มกดแบบ Mechanical ที่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ ด้วยระยะเวลาการรับประกันยาวนานสูงสุดตลอด 2 ปี
ยี่ห้อ / รุ่น | Marvo KG950 |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
รองรับการกดได้สูงสุด | 50 ล้านครั้ง |
จำนวนปุ่มกด | 111 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | 19 รูปแบบ |
Marvo KG950 เรียกได้ว่าเป็นรุ่นระดับมาตรฐาน ที่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยความแข็งแรงทนทานของวัสดุในการผลิต ที่ช่วยให้รองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง และรูปแบบการแสดงผลของไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับเปลี่ยนได้มากถึง 19 รูปแบบ อีกทั้งจากการแถมการรับประกันสินค้ามาให้ยาวนานสูงสุดตลอด 2 ปี ก็ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ
ข้อดี
✓ ปรับรูปแบบการแสดงผลไฟได้อย่างหลากหลาย
✓ การรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 2 ปี
✓ รองรับการกดได้มากถึง 50 ล้านครั้ง
ข้อพิจารณา
✘ ใช้งานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows เพียงเท่านั้น
10. Philips SPK8601
★★★★★
คีย์บอร์ดเกมมิ่งรูปลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิก ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
ยี่ห้อ / รุ่น | Philips SPK8601 |
ขนาดสินค้า | 446.14 x 148.32 x 39.92 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 814 กรัม |
รองรับการกดได้สูงสุด | – |
จำนวนปุ่มกด | 108 ปุ่ม |
จำนวนโหมดการแสดงผลไฟแบบ RGB ที่เลือกปรับได้ | 20 รูปแบบ |
สุดท้ายเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดน่าสนใจ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดสำหรับการเล่นเกม ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยในเวลาเดียวกัน ส่วนในเรื่องของการแสดงผลไฟนั้น จะทำได้มากถึง 20 รูปแบบ โดยที่จะมีการจัดเรียงการแสดงผลไฟภายใต้ปุ่มกดต่าง ๆ ทั่วทั้งบริเวณของตัวอุปกรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นในด้านของการรับประกันสินค้า ก็เรียกว่าให้มาอย่างยาวนานถึง 2 ปี ส่งผลให้รุ่นนี้นับเป็นตัวเลือก ที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
✓ แสดงผลไฟแบบ RGB ได้ 20 รูปแบบ
✓ การรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 2 ปี
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร
วิธีการเลือกซื้อ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง
6 วิธีการเลือก ดังนี้
1. เลือกจากขนาดที่มีความเหมาะสมของตัวอุปกรณ์
พื้นที่ในการติดตั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ ของแต่ละคน จะมีความแตกต่างกันออกไปตามขนาดของโต๊ะ ที่ถูกจัดตั้งเอาไว้ภายในบ้านสำหรับการใช้งานตัวเครื่อง ส่งผลให้แน่นอนว่าขนาดของคีย์บอร์ด ที่มีความเหมาะสมในการใช้งานนั้น ก็จะต้องมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเช่นกัน โดยหากคุณต้องการต้องการให้โต๊ะคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ดูแน่นจนเกินไป ก็ควรมองหารุ่นที่มีขนาดเหมาะสมมากที่สุด เพื่อให้สามารถใช้งานสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไม่ติดขัด และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุดไปด้วยในเวลาเดียวกัน เป็นผลให้การพิจารณาถึงในเรื่องของขนาดตัวสินค้า ที่จัดวางเข้ากันได้กับโต๊ะคอมพิวเตอร์ของคุณนั้น กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ และควรถูกคำนึงถึงเป็นลำดับแรก ๆ ในการเลือกซื้อคีย์บอร์ดเกมมิ่งชิ้นใหม่นั่นเองครับ
2. ตรวจสอบจำนวนครั้งการกดที่รองรับได้
จำนวนครั้งการกดที่ตัวอุปกรณ์รองรับได้ในการใช้งานนั้น จัดเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่คุณควรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ในการเลือก ซื้อคีย์บอร์ด สำหรับการเล่นเกมซักหนึ่งชิ้น เนื่องจากสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงทนทานของตัวสินค้า และความสามารถที่ตัวอุปกรณ์จะรองรับการใช้งานได้ในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่รองรับการกดได้ในจำนวนที่มากกว่า ก็จะต้องรองรับการใช้งานได้ในระยะเวลาที่ยาวนานมากกว่าตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการเทียบกันในเรื่องของระดับราคาเป็นหลัก การมองหารุ่นที่รองรับจำนวนครั้งในการกดได้สูงมากกว่า ก็น่าจะจัดเป็นตัวเลือกในการซื้อสินค้า ที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
3. พิจารณาวัสดุที่ใช้ในการผลิต
วัสดุที่ใช้ในการผลิตจัดเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่มีผลเป็นอย่างมากต่อความสามารถในการใช้งานระยะยาวของตัวอุปกรณื เนื่องจากเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงทนทาน และความสามารถในการทนทานต่อความเสียหาย ที่สินค้ารุ่นนั้น ๆ จะรองรับได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสม จึงควรให้ความสนใจไปในรุ่นที่ใช้งานวัสดุในการผลิตคุณภาพสูง เพื่อให้รุ่นที่คุณเลือกใช้งานมีความแข็งแรงทนทานสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะช่วยให้ตัวคีย์ตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาวได้เป็นอย่างดีไปด้วยในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญวัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวคีย์บอร์ด ยังจัดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่จะช่วยให้ตัวอุปกรณ์ดูมีความสวยงาม และหรูหราได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
4. เลือกซื้อจากคุณภาพของปุ่มกด
ในการเล่นเกมบางประเภทโดยเฉพาะเกมแนว FPS, MMO RPG และ MOBA นั้น สัมผัสของปุ่มที่จะช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลและไม่ติดขัดนั้น นับเป็นอีกหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ดของผู้เล่น เนื่องจากหากเราเลือกซื้อรุ่นที่ใช้งานได้ถนัดมือ และมีสัมผัสของวัสดุที่จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมนั้น ก็จะเป็นส่วนที่ให้เราสามารถเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน และเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้มากขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นด้วยสาเหตุที่เราได้กล่าวไปนี้ จึงทำให้ในเรื่องของการตัดสินใจซื้อจากคุณภาพของปุ่มกดในแต่ละรุ่น กลายเป็นส่วนที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับการเลือกซื้อคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวใหม่มาไว้ในการใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นการตัดสินใจซื้อดูจากคุณภาพของปุ่มกด ด้วยการไปสัมผัสตัวสินค้าจริง ๆ ยังจะทำให้คุณเลือกซื้อได้ง่ายดายขึ้นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกันครับ
5. ให้ความสำคัญกับรูปแบบในการเชื่อมต่อของตัวสินค้า
เนื่องจากในช่วงเวลาปัจจุบันนี้คีย์บอร์ดทุกประเภท มักจะถูกแบ่งแยกออกมาหลัก ๆ เป็น 2 รูปแบบ คือ คีย์บอร์ดแบบไร้สาย และแบบใช้งานสายในการเชื่อมต่อ ซึ่งจะมีความสะดวกสบายและเสถียรภาพในการใช้งานแตกต่างกันออกไป จึงทำให้การพิจารณาเลือกซื้อในส่วนนี้ ก็นับว่ามีความจำเป็นอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน โดยหากคุณต้องการเลือกซื้อรุ่นที่เน้นจุดเด่นไปในด้านของความยืดหยุ่นในการจัดวาง หรือต้องการพกพาตัวอุปกรณ์ออกไปใช้งานยังสถานที่อื่นบ่อย ๆ ก็ควรเลือกรุ่นที่เชื่อมต่อการใช้งานได้แบบไร้สาย เพื่อให้เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีสายคอยกวนใจในระหว่างการใช้งาน แต่หากคุณต้องการความเสถียรในการเชื่อมต่ และไม่ต้องการที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวคีย์บอร์ด การเลือกใช้งานรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ ก็น่าจะตอบโจทย์การเลือกซื้อของคุณได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
6. เลือกดูจากจำนวนโหมดการแสดงผลไฟ RGB ที่เลือกปรับได้
หนึ่งในสิ่งเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ คนในยุคนี้ค่อนข้างให้ความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ สำหรับอุปกรณ์สายเกมมิ่งต่าง ๆ ที่มีออกวางจำหน่ายมาให้เราเลือกซื้อกันได้ในช่วงเวลาปัจจุบัน คือ การติดตั้งระบบการแสดงผลไฟแบบ RGB ซึ่งถือเป็นการตกแต่งหลักของอุปกรณ์สายเกมมิ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเป็นรูปแบบการตกแต่ง ที่มาพร้อมสีสันหลากหลายสำหรับช่วยลดความน่าเบื่อ รวมไปถึงยังมีรูปแบบการแสดงผลแสงไฟมากมาย ที่ให้เราเลือกปรับแต่งกันได้มากมายอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการให้รุ่นที่คุณกำลังจะเลือกซื้อมีความคุ้มค่าที่มากยิ่งขึ้น คุณจึงควรมองหารุ่นที่มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งการแสดงผลแสงไฟ RGB มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถปรับรูปแบบได้อย่างหลากหลาย และเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับอุปกรณ์ของคุณไปด้วยในเวลาเดียวกันนั่นเองครับ
บทสรุป
คีย์บอร์ดเกมมิ่ง นั้นจัดเป็นหนึ่งในส่วนประกอบ ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันกับอุปกรณ์ เกมมิ่ง ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมาส์เกมมิ่ง , หูฟังเกมมิ่ง หรือแม้แต่ หน้าจอเกมมิ่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้คุณได้อย่างดีเยี่ยมด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นจึงจัดเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับผู้ใช้งานสายเกมเมอร์ในยุคนี้ ที่จะต้องมองหาคีย์บอร์ด สำหรับการเล่นเกมซักหนึ่งรุ่นมาไว้ สำหรับการใช้เล่นเกมที่คุณชื่นชอบในชีวิตประจำวัน โดยที่ในการเลือกซื้อรุ่นที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการใช้งานนั้น
ทางเราก็อยากจะแนะนำให้คุณลองพิจารณาถึงรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งหมด ที่เราได้แนะนำให้คุณในช่วงที่ผ่านมาเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเหมาะสมของพื้นที่ในการจัดวาง, จำนวนครั้งในการกดที่ตัวอุปกรณ์รองรับได้, วัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้า, คุณภาพของปุ่มกด, รูปแบบการเชื่อมต่อของตัวอุปกรณ์, หรือแม้แต่รูปแบบการแสดงผลของระบบไฟ RGB ที่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วน ที่มีความสำคัญต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งสิ้น และหากคุณได้ลองพิจารณาถึงองค์ประกอบในส่วนต่าง ๆ อย่างละเอียดและรอบคอบมากที่สุดแล้ว ทางเราก็เชื่อว่าการเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับคุณนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างไม่ลำบากแน่นอนครับ