แนะนำ 10 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่จะช่วยให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในละแวกบ้านของคุณทำได้ง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากเทียบกับการเดินหรือการปั่นจักรยาน ที่ยังคงจะต้องใช้แรงในการเดินอยู่พอสมควร ซึ่งสินค้าประเภทนี้เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร สำหรับการใช้งานของเด็กและผู้สูงอายุในบางกลุ่ม ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การเดินทางทำได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ประเภทนี้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน และสามารถ ชาร์จแบตเตอรี่ เพิ่มเติมได้จากที่บ้านของคุณ จึงทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะทางไม่ไกลมากนัก และส่งผลให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนกลุ่มนี้ได้ตรงจุดมากที่สุดนั่นเอง ส่วนในเรื่องของตัวเลือกสินค้าที่มีออกมาให้เราเลือกใช้งานกันได้ในขณะนี้ จะค่อนข้างไม่มีความหลากหลายมากนักในเรื่องของรูปแบบสินค้า แต่จะมีความหลากหลายอยู่ในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานและฟีเจอร์เสริม ที่ถูกใส่มาให้สำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ เสียมากกว่า และหากคุณกำลังมองหา สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซักหนึ่งรุ่นมาไว้ สำหรับการใช้งานของตนเองในชีวิตประจำวัน หรือกำลังมองหามาไว้เพื่อเป็นของขวัญสำหรับลูกหลานหรือผู้สูงอายุ เพื่อให้การเดินทางของคนเหล่านั้นทำได้ง่ายดายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เราก็อยากจะลองแนะนำให้ลองเลือกชมจาก 10 น่าสนใจ ที่เราได้รวบรวมและคัดสรรมาให้ในช่วงต่อไปของบทความนี้ โดยที่สามารถอ่านรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวสินค้า และคำแนะนำที่เราได้ใส่ไว้ให้ในแต่ละรุ่น ควบคู่ไปกับการตัดสินใจเลือกซื้อของคุณได้เลยครับ
10 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Hyper 10X 2400watt
- Segway – Ninebot Ninebot Max
- SEALUP XLP- Q7
- Segway – Ninebot Ninebot ES2
- INMOTION L8
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า EM1
- Xiaomi Mijia Electric Scooter 1S
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า M2G 8912
- LULAE L16
- E-SCOOTER LNC
1. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Hyper 10X 2400watt
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ ที่ขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกำลังไฟฟ้าโดยรวมที่ให้มามากถึง 2,400 วัตต์
| ยี่ห้อ / รุ่น | สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Hyper |
| น้ำหนัก | 33 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 60 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | – |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 150 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 2,400 วัตต์ |
รุ่นแรกเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามล้ำสมัย ที่สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย และจัดวางได้ในทุกสถานที่โดยไม่กินพื้นที่การจัดเก็บ ซึ่งในส่วนของการขับเคลื่อนของสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ จะใช้งานเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อหน้าและหลัง ที่ทำงานด้วยกำลังไฟฟ้าของมอเตอร์ทั้งหมด 2 ตัวขนาด 2,400 วัตต์ และขับเคลื่อนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 60 กิโลเมตร ในขณะที่ยังคงรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 150 กิโลกรัม จากโครงสร้างการออกแบบพื้นฐาน ที่มีความแข็งแรงทนทานและมาตรฐานการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของสินค้าได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีโช๊คอัพน้ำมันที่เลือกปรับระดับได้อย่างเหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์ในเวลาเดียวกันด้วยครับ
ข้อดี
✓ ระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อประสิทธิภาพสูง ที่ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 65 กิโลเมตร
✓ กำลังไฟฟ้าในการทำงานที่ให้มาในระดับสูง
✓ รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 150 กิโลกรัม
ข้อควรพิจารณา
✘ น้ำหนักโดยรวมค่อนข้างมาก
2. Segway – Ninebot Ninebot Max
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ระบบไฟฟ้าระยะการขับเคลื่อน 65 กิโลเมตร ที่มาพร้อมความเร็วสูงสุดในการเดินทาง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
| ยี่ห้อ / รุ่น | Segway – Ninebot Ninebot Max |
| น้ำหนัก | 18 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 65 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 7 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 100 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 800 วัตต์ |
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นระดับมาตรฐานที่มาพร้อมรายละเอียดสเปกภายในต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่าสามารถใช้งานทั่วไปในระดับพื้นฐานได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักโดยรวมที่มีอยู่เพียงแค่ 18 กิโลกรัม ซึ่งทำให้การเคลื่อนย้ายการจัดวางและการจัดเก็บ สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายและไม่ลำบากมากนัก, ระยะการขับเคลื่อนสูงสุด 65 กิโลเมตร ด้วยความเร็วในการเดินทางสูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงประมาณ 6 ไปจนถึง 7 ชั่วโมง, ความสามารถในการรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งาน ที่ทำได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัม และกำลังไฟฟ้า 800 วัตต์ที่ช่วยให้การขับเคลื่อนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
✓ การรับประกันสินค้าที่ให้มายาวนานตลอด 1 ปี
✓ ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง
3. SEALUP XLP- Q7
★★★★★
สกู๊ตเตอร์จากแบรนด์ SEALUP ที่ใช้งานดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามทันสมัย และขับเคลื่อนต่อเนื่องได้ด้วยความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
| ยี่ห้อ / รุ่น | SEALUP XLP- Q7 |
| น้ำหนัก | 33 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 150 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 6 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 200 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | – |
SEALUP XLP- Q7 จัดเป็นหนึ่งในรุ่นระดับค่อนข้างสูง ที่มาพร้อมสเปกโดยรวมเพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นระยะการวิ่งสูงสุดที่สามารถทำได้มากถึง 150 กิโลเมตร เมื่อเปิดใช้งานโหมดขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำสุด, ความเร็วในการขับเคลื่อนสูงสุด 55 กิโลเมตร เมื่อใช้เกียร์ระดับสูงสุด, จำนวนเกียร์ที่เลือกปรับได้มากถึง 3 ระดับ, ความสามารถในการรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร และระยะเวลาการชาร์จต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สูงกว่ารุ่นระดับมาตรฐาน สำหรับรุ่นที่อยู่ในระดับราคาเดียวกันทั้งสิ้นครับ
ข้อดี
✓ ปรับระดับความเร็วในการขับเคลื่อนได้มากถึง 3 ระดับ
✓ รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ
✓ ระยะการวิ่งสูงสุดที่ 150 กิโลเมตร
ข้อควรพิจารณา
✘ น้ำหนักโดยรวมจัดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
4. Segway – Ninebot Ninebot ES2
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เพื่อให้สามารถเดินทางได้ด้วยระยะทางและความเร็วที่มากยิ่งขึ้น
| ยี่ห้อ / รุ่น | Segway – Ninebot Ninebot ES2 |
| น้ำหนัก | 12.5 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | – |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 4 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 100 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 700 วัตต์ |
ถัดมาเป็นรุ่นขนาดเล็กกะทัดรัดที่มาพร้อมความสามารถในการรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานที่ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยที่ตามปกติจะมีความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนอยู่ที่ประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จะสามารถเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่จะเพิ่มระยะการวิ่งสูงสุดได้เป็น 45 กิโลเมตร เมื่อติดตั้งแบตเตอรี่เสริมสำหรับใช้งานร่วมกันกับตัวอุปกรณ์ นอกจากนี้ด้วยการใช้งานแอปพิลเคชันบนเครื่องสมาร์ทโฟน ก็ยังทำให้สั่งการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งความเร็วสูงสุด, การล็อคเครื่อง, การสั่งอัพเดตเฟิร์มแวร์ ไปจนถึงการตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการใช้งานอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ มีแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมการทำงานและสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ
✓ ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดเพียงแค่ 4 ชั่วโมง
✓ สามารถติดตั้งแบตเตอรี่เสริมเพื่อเพิ่มระยะทางและความเร็วในการวิ่งได้
ข้อควรพิจารณา
✘ รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุดเพียง 100 กิโลกรัม
5. INMOTION L8
★★★★★
จักรยานไฟฟ้ารูปลักษณ์การออกแบบสุดหรูหราล้ำสมัย ที่เชื่อมต่การใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันบนเครื่องสมาร์ทโฟน
| ยี่ห้อ / รุ่น | INMOTION L8 |
| น้ำหนัก | – |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 17 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 2.5 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 120 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 500 วัตต์ |
INMOTION L8 เป็นหนึ่งในรุ่นระดับมาตรฐาน ที่ถูกจัดเต็มสเปกมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานของคนในทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยผู้ใหญ่ หรือแม้แต่ในวัยของผู้สูงอายุ จากสเปกโดยรวมและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม รวมไปถึงในส่วนของระดับราคาก็ยังมีความเข้ากันกับสิ่งที่ถูกจัดมาให้ในรุ่นนี้อีกด้วย ส่วนในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ถูกผลิตออกมาของสกู๊ตเตอร์ตัวนี้ ก็เรียกได้ว่ามีความสวยงามทันสมัย ในขณะที่ยังคงดูมีความหรูหราเป็นอย่างมากไปด้วยในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังจัดเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตรวจสอบรายละเอียดในการทำงานต่าง ๆ และสั่งการได้อย่างง่ายดายผ่านทางแอปพลิเคชันบนเครื่องสมาร์ทโฟนด้วยครับ
ข้อดี
✓ สามารถติดตั้งล้อเสริมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้
✓ สเปกที่ถูกใส่มาให้นับว่าจัดอยู่ในระดับมาตรฐาน
✓ สั่งการฟังก์ชันการทำงานและตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ได้ง่ายดายผ่านทางแอปพลิเคชัน
ข้อควรพิจารณา
✘ ระยะการวิ่งต่อเนื่องสูงสุดไม่มากเท่าไหร่นัก
6. สกูตเตอร์ไฟฟ้า รุ่น EM1
★★★★★
สกู๊ตเตอร์พับได้ระบบไฟฟ้ าดีไซน์การออกแบบสุดหรูหราคลาสสิก ที่มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และลดปัญหามลภาวะที่เกิดขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม
| ยี่ห้อ / รุ่น | EM1 |
| น้ำหนัก | 12.5 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 25 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 3 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 100 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
EM1 นับเป็นหนึ่งในรุ่นประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ EM ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งจากกำลังมอเตอร์ที่ให้มาในระดับ 350 วัตต์, วงล้อขนาด 8.5 นิ้วซึ่งเป็นระดับที่จัดอยู่ในช่วงมาตรฐาน, ความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ที่ใช้สำหรับการแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ ของตัวอุปกรณ์ และระยะทางการขับเคลื่อนต่อเนื่องที่ทำได้สูงสุดถึง 25 กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการชาร์จได้มากถึง 1,000 รอบ ก็ยังเป็นส่วนที่ทำให้ตัวอุปกรณ์สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดหลายปีอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้มากสุดถึง 1,000 รอบ
✓ น้ำหนักโดยรวมที่เบาเพียง 12.5 กิโลกรัม
✓ ระยะเวลาการชาร์จสูงสุดเพียงแค่ 3 ชั่วโมง
ข้อควรพิจารณา
✘ กำลังไฟฟ้าในการทำงานค่อนข้างต่ำ
7. Xiaomi Mijia Electric Scooter 1S
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากแบรนด์ Xiaomi ที่มีดีไซน์การออกแบบสุดคลาสสิก และพับเก็บได้อย่างง่ายดายโดยไม่กินพื้นที่ในการจัดเก็บ
| ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mijia Electric Scooter 1S |
| น้ำหนัก | 12.5 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 30 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 5 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 100 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 500 วัตต์ |
Xiaomi Mijia Electric Scooter 1S เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในทุกช่วงวัย ตั้งแต่ผู้ที่มีอยู่เริ่มต้นระหว่าง 16 ไปไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 50 ปี โดยที่ในด้านของอายุการใช้งานนั้นจะทำได้สูงสุดถึง 3,000 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็นอย่างมาก สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการเดินทางอย่างสินค้าประเภทนี้ ส่วนในเรื่องของระยะการวิ่งสูงสุดต่อหนึ่งรอบการชาร์จจะทำได้ที่ประมาณ 30 กิโลเมตร จากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 280 Wh ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายในของตัวอุปกรณ์ และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ภายในของตัวสกู๊ตเตอร์ยังมีการติดตั้งระบบเบรคแบบ E-ABS มาให้อีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายการจัดวางได้ง่ายและสามารถจัดเก็บได้อย่างสะดวก
✓ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุดถึง 3,000 ชั่วโมง
✓ เหมาะสำหรับการใช้งานของคนในทุกช่วงอายุ
ข้อควรพิจารณา
✘ ระดับความเร็วสูงสุดในการขับเคลื่อนไม่สูงมากเท่าไหร่นัก
8. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า M2G 8912
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ระบบไฟฟ้า ที่มาพร้อมสีสันและลวดลายสุดสดใส และมีการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ให้มีความคล้ายคลึงกันกับจักรยานยนต์อย่างสวยงาม
| ยี่ห้อ / รุ่น | M2G 8912 |
| น้ำหนัก | – |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 17 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 6 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 100 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ต่อมาเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีความโดดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ซึ่งมีความใกล้เคียงกันกับรถจักนยานยนต์ในช่วงปัจจุบันหลาย ๆ รุ่นเป็นอย่างมาก โดยที่ในส่วนของการตกแต่งทั้งในเรื่องของสีและลวดลายของตัวอุปกรณ์ ก็เรียกได้ว่ามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก จากรูปแบบการตกแต่งที่มีให้เลือกใช้งานได้มากถึง 4 รูปแบบ ตั้งแต่สีฟ้า, สีแดง, สีเหลือง ไปจนถึงสีม่วง ส่วนในเรื่องของสเปกภายในที่ถูกติดตั้งมาให้ของอุปกรณ์รุ่นนี้ ก็จะค่อนข้างมีความมาตรฐาน และตอบโจทย์การใช้งานนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วไปได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งต่าง ๆ ก็จะมีมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เป็นอย่างมาก จากดีไซน์ออกแบบที่เราได้กล่าวไปด้วยนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ พื้นที่จัดเก็บสิ่งต่าง ๆ มากกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่พอสมควร
✓ สีสันและลวดลายที่มีให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย
✓ วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความแข็งแรงทนทานสูง
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้ระยะเวลาในการชาร์จต่อหนึ่งรอบค่อนข้างสูง
9. LULAE L16
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารูปทรงคลาสสิกที่จะช่วยให้คุณเดินทางระยะสั้นไปในทุกสถานที่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
| ยี่ห้อ / รุ่น | LULAE L16 |
| น้ำหนัก | 12.5 กิโลกรัม |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 35 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 6 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | – |
| กำลังไฟฟ้า | 300 วัตต์ |
LULAE L16 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรุ่นระดับมาตรฐาน ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ทั้งจากสเปกภายในที่ถูกใส่มาให้เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในทุกสถานการณ์ และน้ำเบากับขนาดเล็กกะทัดรัดที่ช่วยให้ทั้งการพกพาออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ และการจัดเก็บสามารถทำได้อย่างไม่ลำบากมากเท่าไหร่นัก ที่สำคัญด้วยแบตเตอรี่ภายในความหนาแน่นสูง ก็ยังเป็นส่วนที่ทำให้รุ่นนี้มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก และยังป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาไฟลัดวงจร, ปัญหากระแสไฟเกิน, ปัญหาแรงดันไฟฟ้าตก และปัญหาการคายประจุไฟฟ้าเกิน เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ สเปกภายในถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้เพียงพอในระดับพื้นฐาน
✓ ป้องกันปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นได้แบบดีเยี่ยม
✓ หน้าจอแสดงผลข้อมูลขนาดเล็กสำหรับใช้ตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้ระยะเวลาต่อหนึ่งรอบการชาร์จยาวนานถึง 6 ชั่วโมง
10. E-SCOOTER LNC
★★★★★
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สีนสันและลวดลายสุดหลากหลาย ที่ให้คุณสามารถเลือกใช้งานตามความชื่นชอบได้มากถึง 20 รูปแบบ
| ยี่ห้อ / รุ่น | E-SCOOTER LNC |
| น้ำหนัก | – |
| ระยะทางการวิ่งสูงสุด | 15 กิโลเมตร |
| ระยะเวลาการชาร์จสูงสุด | 6 ชั่วโมง |
| รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงสุด | 90 กิโลกรัม |
| กำลังไฟฟ้า | 300 วัตต์ |
สุดท้ายเป็นรุ่นราคาประหยัดของ สกู๊ตเตอร์ระบบไฟฟ้า ที่เราได้นำมาให้คุณลองเลือกซื้อกันในวันนี้ ซึ่งเป็นรุ่นที่มีจุดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของลวดลายและสีสันที่มีให้เลือกใช้งาน ที่จะมีอยู่มากถึง 20 รูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ลายพราง, ลายธง และลายดอกไม้ เป็นต้น โดยที่ในส่วนของสเปกภายในและรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้ารุ่นนี้ ก็เรียกได้ว่ามีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรองรับน้ำหนักของตัวอุปกรณ์ที่ทำได้สูงสุดถึง 90 กิโลกรัม หรือระยะการวิ่งสูงสุดที่จะทำได้ในช่วงตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 15 กิโลเมตร เป็นต้น และในเรื่องของความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่ ก็ยังนับว่าทำได้ดีจากการติดตั้งระบบไฟเลี้ยว, ระบบไฟหน้า และระบบแตรมาให้ภายในอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ การติดตั้งระบบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถขับขี่ได้ใกล้เคียงกันกับรถจักรยานยนต์
✓ ลวดลายที่มีให้เลือกใช้งานได้มากถึง 20 รูปแบบ
✓ มีตะกร้าสำหรับใช้ในการจัดเก็บสิ่งต่าง ๆ
ข้อควรพิจารณา
✘ ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สูงถึง 6 ชั่วโมง
เลือกซื้อ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อย่างไรดี ?
4 วิธีการเลือกซื้อ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
1. เลือกจากความเร็วสูงสุดที่สามารถขับเคลื่อนได้
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นมักจะถูกออกแบบมาให้มีความเร็วสูงสุด ที่สามารถขับเคลื่อนได้แตกต่างกันออกไปตามระดับกำลังไฟฟ้า และคุณภาพของมอเตอร์ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายใน ซึ่งหากรุ่นที่คุณเลือกซื้อยิ่งมีความเร็วในการขับเคลื่อนมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าต้องการเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางระยะใกล้ให้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้อยู่ในระดับมาตรฐานไปด้วยในเวลาเดียวกัน การเลือกซื้อเพียงรุ่นที่มีความเร็วในการขับเคลื่อนประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ถือว่ามีความเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันแล้วครับ
2. ตรวจสอบขนาดความจุของแบตเตอรี่
หนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะต้องถูกนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าซักหนึ่งรุ่น จะเป็นในเรื่องของขนาดความจุภายในของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อระยะทางในการใช้งาน และระยะเวลาที่สามารถเปิดทำงานได้ของตัวอุปกรณ์ โดยหากรุ่นที่คุณเลือกซื้อยิ่งมีขนาดความจุของแบตเตอรี่อยู่ในระดับสูง ก็จะช่วยให้รองรับการใช้งานได้ยาวนานมากกว่าตามไปด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อรุ่นที่มีขนาดความจุแบตเตอรี่สูงมากจนเกินไป ก็อาจเป็นสิ่งที่ทำให้จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น และอาจเป็นผลให้ค่าใช้จ่ายที่ตามมาเพื่มขึ้นได้อีกพอสมควร รวมไปถึงยังเป็นส่วนที่จะทำให้น้ำหนักของตัวเครื่องเพิ่มขึ้นมาได้เล็กน้อยอีกด้วยครับ
3. พิจารณาน้ำหนักของผู้ใช้งานที่รองรับได้
จากการที่โครงสร้างของตัวสินค้าและวัสดุที่ใช้ในการผลิตของแต่ละรุ่น ล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบการผลิตในแต่ละแบรนด์ ส่งผลให้แน่นอนว่าน้ำหนักที่รองรับได้และความแข็งแรงทนทานของตัวสินค้า ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามสื่งที่ใช้ในการผลิตด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อให้รุ่นที่คุณกำลังจะเลือกซื้อ สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดกับสรีระและขนาดร่างกายของคุณ การพิจารณาจากน้ำหนักที่รองรับได้ของตัวอุปกรณ์ ก็จะช่วยให้สก๊ตเตอร์ที่คุณกำลังเลือกซื้อมีความแข็งแรงทนทาน และมีอายุใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกันครับ
4. ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกใส่มาให้
สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในระยะยาวอย่างสกูตเตอร์ระบบไฟฟ้านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จะเป็นในเรื่องของความปลอดภัยและมาตรฐานต่าง ๆ ที่ถูกใส่มาให้ในอุปกรณ์รุ่นนั้น ๆ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น เมื่อจะต้องใช้งานอุปกรณ์ตัวดังกล่าวเป็นระยะเวลายาวนานมากที่สุด ที่สำคัญสิ่งนี้ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของตัวสินค้าให้มากยิ่งขึ้น และยังไม่ควรลืมตรวจสอบถึงเงื่อนไขการรับประกันในส่วนต่าง ๆ ประกอบกับการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดเมื่อจะต้องเลือกซื้อสินค้าตัวใหม่ซักหนึ่งชิ้นด้วยครับ
บทสรุป
หากคุณกำลังมองหา พาหนะขนาดเล็กกะทัดรัด ที่เหมาะสำหรับการใช้เดินทางในระแวกบ้านใกล้ เพื่อให้สามารถประหยัดทั้งแรงและเวลาในการเดินทางให้มากขึ้นได้ที่สุด สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าน่าจะนับเป็นหนึ่งในสิ่ง ที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีมากที่สุดอย่างแน่นอน จากการถูกออกแบบมาให้สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยระบบไฟฟ้า ที่คุณชาร์จเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดายผ่านการใช้ไฟบ้านของคุณ และความง่ายในการขับขี่ที่จะทำได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน ซึ่งก็ช่วยให้เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานของเด็ก และผู้สูงอายุในบางกลุ่มไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยหากคุณกำลังมองหารุ่นที่มีความคุ้มค่า และเหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตมากที่สุดในปี 2023 นี้ ทางเราเชื่อว่าจากทั้งหมด 10 รุ่น ที่เราได้ คัดสรรมาให้ อย่างมีประสิทธิภาพในบทความนี้ จะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์ และรองรับการใช้งานของคุณได้อย่างดีเยี่ยมมากที่สุดในทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแน่นอน
