10 สแกนเนอร์ ( Scanner ) ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
ในอาคารสำนักงานทั่วไปก็มักจะต้องทำงานด้านเอกสารอยู่เป็นประจำ หนึ่งในอุปกรณ์ตัวสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับการใช้งานนั้น คือ เครื่องสแกนเนอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการสแกนเอกสาร เพื่อการส่งออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ หรือจัดเก็บ แบบดิจิทัลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และ แล็ปท็อป นั่นเอง แต่ถึงแม้ว่าการ สแกนเอกสาร ในยุคปัจจุบันนี้ จะสามารถทำได้ผ่านการใช้งาน เครื่องสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต อย่างไรก็ตามเครื่องสแกนเนอร์ก็ยังถือเป็นสิ่ง ที่มีความจำเป็นในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสะดวกสบายที่มากกว่า และการสแกนเอกสาร ที่รองรับได้ในปริมาณมากกว่าต่อหนึ่งรอบการใช้งาน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ส่งผลให้ระยะเวลาในการจัดการเอกสาร จะทำได้รวดเร็วมากกว่าตามไปด้วยเช่นกัน โดยที่ตัวเลือกของสินค้าที่มีให้เราเลือกซื้อกันได้ในปัจจุบันนั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีความหลากหลายมากเท่าไหร่นัก จากความเฉพาะทางของตัวสินค้า ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้เพียงการนำเข้าข้อมูลของเอกสาร แต่ก็ยังถือว่ามีแบรนด์สินค้ามากมาย ที่มีรุ่นสุดคุ้มค่าออกมาให้เราเลือกใช้งานกันได้อยู่พอสมควร และหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหา เครื่องสแกนเนอร์ สุดคุ้มค่ามาไว้ สำหรับ การใช้งานทั่วไปในอาคารสำนักงานภาย ในปี 2023 นี้ และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหน จากแบรนด์ไหนดี ทางเราก็เชื่อว่าจากทั้งหมด 10 รุ่นที่เราได้รวบรวมมาให้คุณในวันนี้ จะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งรุ่นที่ถูกใจคุณมากที่สุดแน่นอนครับ
แนะนำ 10 สแกนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
- Fujitsu fi-7240
- BROTHER ADS-3600W
- Fuji Xerox 6440
- Fujitsu Fi-7160
- BROTHER ADS-2200
- Epson WorkForce DS-410
- PS286Plus
- BROTHER DS-640
- Canon Lide400
- EPSON Perfection V39/B11B232501
1. Fujitsu fi-7240
★★★★★
สแกนเนอร์ ประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ Fujitsu ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกอาคารสำนักงาน
ยี่ห้อ / รุ่น | Fujitsu fi-7240 |
ขนาดตัวเครื่อง | 300 x 577 x 234 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 8.8 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 50 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 80 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
รุ่นแรกเป็นเครื่องสแกนเอกสารประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ Fujitsu ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในทุกสถานการณ์ จากความสามารถในการใช้งานที่ถูกจัดมาให้ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการสแกนเอกสารต่อเนื่องสูงสุด ที่ทำได้ในช่วงประมาณ 50 แผ่นต่อนาที, ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษที่รองรับได้สูงสุด 80 แผ่น และความละเอียดในการสแกนเอกสารระดับมาตรฐาน ที่ให้มาในระดับ 600 dpi นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ทางแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าจึงยังมีการแถมการรับประกันในระหว่างการใช้งานมาให้สูงสุดถึง 1 ปีเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ความคมชัดในการสแกนเอกสารระดับสูง
✓ การรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 1 ปี
✓ จำนวนการแสกนเอกสารจัดอยู่ในระดับมาตรฐาน
ข้อสังเกต
✘ ขนาดตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่และใช้พื้นที่การจัดวางมาก
2. BROTHER ADS-3600W
★★★★★
เครื่องสแกนเอกสารและนามบัตรจากแบรนด์ Brother ที่ใช้งานได้อย่างมั่นใจด้วยระยะเวลาการรับประกันสูงสุดตลอด 1 ปี
ยี่ห้อ / รุ่น | BROTHER ADS-3600W |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 50 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 50 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
BROTHER ADS-3600W เป็นหหนึ่งในรุ่นระดับสูง ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนเอกสาร ด้วยความละเอียดระดับ 300 dpi, 600 dpi และ 1,200 dpi ไปจนถึงการสแกนนามบัตรที่มีขนาดเล็กลงมา ด้วยความละเอียดที่จัดอยู่ในระดับสูง โดยการเชื่อมต่อแบบใช้สายผ่านทางไดรเวอร์คุณภาพสูงแบบ USB 3.0 ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อมีความต่อเนื่อง และส่งออกสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างคมชัดและสมจริง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการถูกออกแบบให้ตั้งค่าปุ่มลัดได้สูงสุดถึง 48 ปุ่ม ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การใช้งานเรียกได้ว่ามีความสะดวกสบาย และรวดเร็วมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เป็นอย่างมากด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ สแกนเอกสารต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 50 แผ่นต่อนาที
✓ ใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 3.0
✓ ตั้งค่าปุ่มลัดในการใช้งานได้มากสุดถึง 48 ปุ่ม
ข้อสังเกต
✘ ขาดความจุของถาดบรรจุกระดาษค่อนข้างต่ำ
3. Fuji Xerox 6440
★★★★★
สแกนเนอร์จากแบรนด์ Fuji ที่มาพร้อมระบบสแกนเอกสารหลากหลายรูปแบบ และเชื่อมต่อได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกระบบปฏิบัติการ
ยี่ห้อ / รุ่น | Fuji Xerox 6440 |
ขนาดตัวเครื่อง | 316 x 239 x 680 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 4.2 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | – |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 80 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
Fuji Xerox 6440 จัดเป็นเครื่องสแกนเอกสารความละเอียดสูง ที่เลือกปรับระดับความคมชัดในการสแกนเอกสารออกมาได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ความละเอียด 75 dpi, 100 dpi, 150 dpi, 400 dpi, 500 dpi ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 1,200 dpi ทั้งในรูปแบบของการสแกนเอกสารประเภทสีและขาวดำ โดยที่ในส่วนของการรับประกันสินค้า รุ่นนี้ก็เรียกว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันกับรุ่นอื่น ๆ ด้วยระยะเวลาการรับประกันสินค้าสูงสุด ที่ให้มายาวนานสูงสุดตลอด 1 ปี ส่วนในด้านของขนาดตัวเครื่องและน้ำหนัก ที่มีผลโดยตรงต่อการเคลื่อนย้ายและพื้นที่ที่ใช้ในการจัดวางตัวเครื่อง ก็จัดว่าเคลื่อนย้ายได้สะดวกและใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มากหากเทียบกับรุ่น ที่มีประสิทธิภาพการทำงานใกล้เคียงกันครับ
ข้อดี
✓ ใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มากนัก
✓ ระยะเวลาการรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 1 ปี
✓ เชื่อมต่อได้ทั้ง USB เวอร์ชัน 2.0 และ 3.0
ข้อสังเกต
✘ วัสดุที่ใช้ในการผลิตอาจดูไม่แข็งแรงทนทานเท่ากันกับรุ่นอื่น ๆ
4. Fujitsu Fi-7160
★★★★★
เครื่องสแกนเอกสารรุ่นระดับกลางจากแบรนด์ Fujitsu ที่รองรับการสแกนเอกสารต่อเนื่องพร้อมกันได้สูงสุด 50 แผ่นต่อนาที
ยี่ห้อ / รุ่น | Fujitsu Fi-7160 |
ขนาดตัวเครื่อง | 300 x 170 x 163 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 4.2 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 50 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 80 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
Fujitsu Fi-7160 เป็นอีกหนึ่งรุ่นน่าสนใจที่มีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก ในปี 2023 นี้ จากการถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ การใช้งานระดับพื้นฐานได้อย่างเพียงพอ ในหลากหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะการสแกนเอกสารซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับการทำงานด้านเอกสารในอาคารสำนักงาน โดยที่รายละเอียดหลัก ๆ ที่ได้ถูกมาให้ในอุปกรณ์ตัวนี้ จะประกออบด้วย จำนวนการสแกนเอกสารต่อเนื่องสูงสุด ที่ทำได้ประมาณ 50 แผ่นต่อนาที, ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษที่บรรจุได้มากสุด 80 แผ่น, การเชื่อมต่อเพื่อนำเข้าข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผ่านการใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB เวอร์ชัน 3.0 และความละเอียดการสแกนเอกสารระดับมาตรฐาน ที่ให้มาในระดับ 600 dpi เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
✓ ใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB เวอร์ชัน 3.0
✓ ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษค่อนข้างสูง
ข้อสังเกต
✘ ดีไซน์การออกแบบค่อนข้างเรียบง่าย
5. BROTHER ADS-2200
★★★★★
เครื่องสแกนเนอร์รุ่นระดับมาตรฐาน ที่ใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ทั้งการสแกนออกมาเป็นรูปภาพ, ไฟล์เอกสาร หรือแม้แต่การสแกนเพื่อส่ง Email
ยี่ห้อ / รุ่น | BROTHER ADS-2200 |
ขนาดตัวเครื่อง | 299 x 145 x 141 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2.9 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 35 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 50 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
สำหรับรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นระดับมาตรฐาน ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถสแกนเอกสารออกมาได้เป็นไฟล์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของไฟล์ PDF, ไฟล์เอกสารทั่วไป, รูปภาพ หรือแม้แต่การสแกนเป็นไฟล์เพื่อส่งออกไปยังช่องทาง Email โดยที่ในด้านของการสแกนเอกสารนั้น ตัวเครื่องจะถูกออกแบบมาพร้อมถาดบรรจุกระดาษ ซึ่งรองรับการจัดเก็บได้สูงสุดถึง 50 แผ่น และประสิทธิภาพการสแกนเอกสารต่อเนื่อง ที่ทำได้ในช่วงประมาณ 35 แผ่นต่อนาที ส่วนในเรื่องระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อปที่รองรับการใช้งานได้กับอุปกรณ์ตัวนี้ ก็จะมีอยู่ตั้งแต่รุ่นที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Windows ไปจนถึง MacOS เลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อปทุกระบบปฏิบัติการ
✓ รองรับการสแกนเอกสารได้หลากหลายประเภท
✓ ส่งออกเอกสารออกมาได้หลากหลายรูปแบบ
ข้อสังเกต
✘ ใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB เวอร์ชัน 2.0
6. Epson WorkForce DS-410
★★★★★
อุปกรณ์สแกนเอกสารดีไซร์การออกแบบสุดทันสมัย ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการสแกนเอกสารรูปแบบสีและขาวดำ
ยี่ห้อ / รุ่น | Epson WorkForce DS-410 |
ขนาดตัวเครื่อง | 297 x 152 x 154 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 2.5 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | – |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | – |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
ต่อมาเป็นอีกหนึ่งรุ่นน่าซื้อที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานภายในปี 2023 นี้ จากสเปกภายในระดับมาตรฐาน ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในระดับทั่วไปได้อย่างเพียงพอ ทั้งจากความเร็วในการแสกนระดับพื้นฐาน ที่อยู่ในช่วงประมาณ 26 ppm และความสามารถในการสแกนเอกสารต่อเนื่องสูงสุด ที่ทำได้มากถึง 3,000 หน้าต่อวัน โดยที่จะรองรับการใช้งานโปรแกรม Document Capture Pro และใช้งานได้กับกระดาษที่มีความหนาได้ตั้งแต่ 50 แกรม ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 209 แกรม ยิ่งไปกว่านั้นด้วยระยะเวลาการรับประกันที่ให้มายาวนานตลอด 1 ปี ก็เป็นส่วนที่ทำให้ใช้งานในระยะยาวได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ สแกนเอกสารต่อเนื่องได้สูงสุด 3,000 หน้าใน 1 วัน
✓ รองรับการใช้งานโปรแกรม Document Capture Pro
✓ รองรับกระดาษที่มีความหนาเริ่มต้นตั้งแต่ 50 แกรมไปจนถึง 209 แกรม
7. PS286Plus
★★★★★
เครื่องสแกนเอกสารสองหน้าแบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการเอกสารแบบหน้า-หลังพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว
ยี่ห้อ / รุ่น | PS286Plus |
ขนาดตัวเครื่อง | 263 x 128 x 148 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 1.66 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | – |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | 50 แผ่น |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB |
PS286Plus นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหลากหลายสถานที่และสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สแกนเอกสารในอาคารสำนักงานทั่วไป, การใช้งานด้านเอกสารและการ์ดของหน่วยงานรราชการและโรงเรียน, การสแกนบัตรเครดิตและบัตรประเภทอื่น ๆ ของธนาคารและโรงแรม หรือแม้แต่การใช้งานในสถานที่อื่น ๆ ที่มีความจำเป็นในด้านเหล่านี้ เป็นต้น ส่วนในเรื่องของรายละเอียดทั่วไปในการใช้งานของสินค้าตัวนี้ จะมีอยู่ตั้งแต่การสแกนเอกสารด้วยความเร็วระดับ 25 ppm ภายใต้ความละเอียดระดับ 600 dpi และความจุของถาดบรรจุกระดาษที่ทำให้ใช้งานสแกนเอกสารได้ต่อเนื่อง 50 แผ่น และสแกนการ์ตได้ต่อเนื่อง 20 ชิ้นนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสถานที่
✓ ใช้งานได้ทั้งการสแกนเอกสารและการ์ด
✓ ขนาดเล็กกะทัดนัดเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
ข้อสังเกต
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก
8. BROTHER DS-640
★★★★★
เครื่องสแกนเนอร์รุ่นขนาดกะทัดรัด ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทั้งการแสกนเอกสารและนามบัตรภายในเครื่องเดียวกัน
ยี่ห้อ / รุ่น | BROTHER DS-640 |
ขนาดตัวเครื่อง | 301 x 36.8 x 50.6 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 0.466 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 15 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | – |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
รุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นขนาดเล็กและมีน้ำหนักเยาจากแบรนด์ Brother ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปมากกว่าการใช้งานหนัก จากการถูกออกแบบมาให้สามารถสแกนเอกสารได้ 15 แผ่นต่อนาที ทั้งในรูปแบบของเอกสารประเภทสีและขาวดำ ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่ถูกใส่มาให้ในอุปกรณ์ตัวนี้ จะเป็นในเรื่องของขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 466 กรัม ที่ทำให้ทั้งการเคลื่อนย้ายการจัดวางทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ในขณะที่การจัดวางก็จะใช้พื้นที่ลดลงมาจากรุ่นอื่น ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ด้วยการถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้ ทั้งกับอุปกรณ์ภายใต้ทุกระบบปฏิบัติการ ก็เป็นผลให้รุ่นนี้เรียกได้ว่ามีความหลากหลายและยืดหยุ่นเป็นอย่างมากด้วยครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อปทุกระบบปฏิบัติการ
✓ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายการจัดวางได้สะดวก
✓ ใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB เวอร์ชัน 3.0
ข้อสังเกต
✘ สแกนเอกสารต่อเนื่องได้สูงสุดเพียง 15 แผ่นต่อนาที
9. Canon Lide400
★★★★★
เครื่องสแกนเอกสารจากแบรนด์ Canon ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานมากมาย ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานได้ดีในหลากหลายสถานการณ์
ยี่ห้อ / รุ่น | Canon Lide400 |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | – |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | – |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type C |
Canon Lide400 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นสมัยใหม่ ที่ถูกออกแบบมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้สามารถใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการสแกนเอกสารแบบ PDF เพื่อนำเข้ามาเป็นเอกสารแบบดิจิทัล, การแสกนเอกสารแบบออโต้ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียงการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว, การกดคัดลอกเพื่อทำสำเนาเอกสาร และการกดส่งเพื่อส่งออกเอกสารไปยังที่ต่าง ๆ โดยที่ในส่วนของรูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ ก็นับว่ามีความสวยงามทันสมัยจากการถูกออกแบบและตกแต่งด้วยโทนสีเป็นแบบสีดำ ที่สำคัญด้วยรูปลักษณ์ตัวเครื่องสุดเล็กกะทัดรัด ก็ยังทำให้ใช้พื้นที่ในการจัดวางตัวอุปกรณ์ไม่มากจนเกินไปอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ดีไซน์การออกแบบมีความสวยงามทันสมัย
✓ ฟังก์ชันการสแกนเอกสารแบบสำเร็จรูปหลากหลายรูปแบบ
✓ ใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C เวอร์ชันล่าสุด
ข้อสังเกต
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องหนัก ๆ
10. EPSON Perfection V39/B11B232501
★★★★★
สแกนเนอร์สำหรับการสแกนเอกสารและภาพถ่ายจากแบรนด์ EPSON ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในทุกสถานที่
ยี่ห้อ / รุ่น | EPSON Perfection V39/B11B232501 |
ขนาดตัวเครื่อง | 364 x 249 x 39 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 1.5 กิโลกรัม |
จำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุด | 50 แผ่นต่อนาที |
ขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ | – |
พอร์ตเชื่อมต่อ | – |
สุดท้ายจัดเป็นรุ่นดีไซน์การออกแบบสุดทันสมัย ที่ยังคงความเล็กกะทัดรัดสวยงามได้อย่างยอดเยี่ยม จากตัวเครื่องที่มีความบางเพียง 39 มิลลิเมตร และน้ำหนักโดยรวมที่มีอยู่เพียงแค่ 1.5 กิโลกรัม ส่งผลให้ตัวเครื่องทั้งใช้พื้นที่ในการจัดวางน้อย รวมไปถึงยังเคลื่อนย้ายการจัดวางได้อย่างง่ายดายไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการสแกนเอกสารในหนึ่งรอบการใช้งานนั้น จะทำได้สูงสุดที่ประมาณ 50 แผ่นต่อนาที ที่ค่าความละเอียดเริ่มต้น 300 dpi ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 1,200 dpi ที่สำคัญด้วยการประหยัดพลังงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งานได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ สแกนเอกสารได้หลากหลายความละเอียดเริ่มตั้งแต่ 300 dpi ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 1,200 dpi
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบาใช้พื้นที่การจัดวางไม่มากนัก
✓ ใช้กำลังไฟฟ้าในการเปิดใช้งานไม่สูงมากนัก
ข้อสังเกต
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
เลือกซื้อ สแกนเนอร์ อย่างไรดี ?
4 วิธีการเลือกซื้อสแกนเนอร์
1. เลือกจากจำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุดต่อหนึ่งรอบการใช้งาน
สิ่งแรกที่จะต้องถูกนำมาพิจารณาในการตัดสินใจเลือกซื้อ จะเป็นในเรื่องของความสามารถในการสแกนต่อเนื่องสูงสุด ที่อุปกรณ์ตัวนั้น ๆ จะทำได้ในหนึ่งรอบการใช้งาน เนื่องจากในแต่ละอาคารสำนักงานก็ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นในการสแกนเอกสาร ที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะงาน และจำนวนเอกสารที่จะต้องทำในแต่ละวัน ซึ่งหากคุณเลือกซื้อรุ่นที่ไม่สามารถจัดการกับเอกสารได้เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งรอบของอาคารสำนักงาน ก็อาจทำให้งานที่จะทำในแต่ละวันล่าช้าลงไปได้มากยิ่งขึ้น โดยที่สิ่งนี้ก็อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่องานที่ทำได้ด้วยเช่นกัน แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเลือกซื้อรุ่นที่มีความสามารถในการสแกนสูงมากจนเกินไป นอกจากจะต้องเสียต้นทุนในการซื้อที่มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังอาจจะส่งผลให้รุ่นที่คุณเลือกซื้อมากนั้น ไม่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเท่าที่ควรจะเป็นด้วยนั่นเองครับ
2. พิจารณาขนาดความจุของถาดป้อนกระดาษ
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องสแกนเนอร์ คือ ขนาดความจุสูงสุดของถาดป้อนกระดาษ ที่ตัวสินค้ารองรับได้ในการใช้งาน โดยแน่นอนว่ารุ่นที่รองรับขนาดความจุของการเก็บกระดาษได้มากกว่า ก็จะต้องสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากกว่าตามไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญการมีขนาดความจุของถาดบรรจุกระดาษมากกว่ารุ่นอื่น ๆ จะเป็นส่วนที่ทำให้คุณไม่จำเป็นจะต้องเติมกระดาษบ่อยครั้งมากนัก ซึ่งจะช่วยให้ความต่อเนื่องในการทำงานมีมากกว่ารุ่นอื่น ๆ จากการที่ไม่จำเป็นจะต้องเติมกระดาษในระหว่างการทำงานนั่นเองครับ
3. ให้ความสำคัญกับขนาดพื้นที่ที่ใช้ในการจัดวางตัวเครื่อง
แน่นอนว่าเครื่องสแกนเนอร์แต่ละรุ่น จะต้องมีขนาดตัวเครื่องที่แตกต่างกันออกไปตามประสิทธิภาพการทำงาน และขนาดของถาดบรรจุกระดาษ ที่ถูกใส่มาให้ภายในตัวอุปกรณ์ ซึ่งหากคุณเลือกรุ่นที่มีขนาดตัวเครื่องใหญ่มากจนเกินไป ก็อาจทำให้ใช้พื้นที่ในการจัดวางมาก และส่งผลให้พื้นที่ใช้สอยในการจัดวางสิ่งจำเป็นในอาคารสำนักงานอื่น ๆ ลดลงมาได้อีกพอสมควร แต่หากคุณเลือกรุ่นที่มีขนาดเล็กจนเกินไปสำหรับการใช้งานในอาคารสำนักงานของคุณ ก็อาจทำให้ตัวอุปกรณ์มีประสิทธิภาพการทำงาน ที่ไม่สอดคล้องกันกับความจำเป็นในการใชช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้คุณได้ใช้งานรุ่นที่มีความคุ้มค่า และเหมาะสมมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็ควรพิจารณาจากขนาดที่มีความเหมาะสม และเพียงพอต่อการใช้งานของคุณมากที่สุดด้วยเช่นกันครับ
4. ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันสินค้า
เนื่องจากสินค้าประเภทนี้โดยปกติแล้ว มักจะเป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานเป็นระยะเวลายาวนานตลอดหลายปี ส่งผลให้ในเรื่องของการรับประกันสินค้า ที่มีผลโดยตรงต่อการครอบคลุมความเสียหาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์ทั้งในรูปแบบของระบบภายใน และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับภายนอก ก็นับเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่ไม่ควรถูกลืมไปในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องสแกนเนอร์ซักหนึ่งรุ่นด้วยเช่นกัน เพราะหากคุณต้องการใช้งานอุปกรณ์ตัวนั้นในระยะยาว แต่ไม่ได้ตรวจสอบถึงการรับประกันสินค้า ว่าครอบคลุมส่วนใดบ้างในสถานการณ์ต่าง ๆ ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับตัวเครื่อง ก็อาจทำให้ภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นส่วน ที่ทำให้คุณจำเป็นจะต้องจ่ายไปด้วยตัวเองด้วยนั่นเองครับ
บทสรุป
หากคุณต้องการอุปกรณ์ สำหรับการแปลงเอกสารต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันให้อยู่ในรูปแบบของดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, เอกสารทั่วไป หรือแม้แต่เอกสารรูปแบบอื่น ๆ หนึ่งในสิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานในด้านนี้ได้เป็นอย่างดีมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น สแกนเนอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในด้านนี้ได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ทั้งในรูปแบบของการแปลงเอกสารทั่วไปออกมาในรูปแบบของ PDF และเอกสารอื่น ๆ ที่คุณต้องการนำไปใช้งานต่อในชีวิตประจำวัน โดยจากตัวเลือกมากมายที่มีอยู่ตามท้องตลาดนั้น การตัดสินใจเลือกซื้อให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ก็ควรเริ่มต้นพิจารณาจากรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการสแกนต่อเนื่องสูงสุดในหนึ่งรอบการใช้งาน, ขนาดความจุสูงสุดของถาดบรรจุกระดาษ, ขนาดพื้นที่ที่ใช้ในการจัดวางตัวเครื่อง และระยะเวลาการรับประกันของสินค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นต่อการใช้งานทั่วไปในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น และหากคุณได้ลองพิจารณาถึงรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีสำหรับการใช้งานทั่วไป ในปี 2023 นี้ เราก็อยากจะลองแนะนำให้ลองเลือกดูอีกหนึ่งครั้งจากทั้งหมด 10 รุ่น ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณได้เลยครับ