แนะนำ 10 อันดับ หัวชาร์จ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
หัวชาร์จ จัดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของ เครื่องสมาร์ทโฟน ที่ถูกออกแบบมาไว้สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นเหมือนหัวใจหลักที่จะทำให้เครื่องสมาร์ทโฟนสามารถทำงานต่อไปได้ โดยที่ตัวเลือกของ หัวชาร์จ แบตเตอรี่ ที่มีออกวางจำหน่ายมาให้เราเลือกซื้อกันได้ในช่วงเวลานี้ จะค่อนข้างมีอยู่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในสถานการณต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของจำนวนช่อง เชื่อมต่อ USB ในการชาร์จแบตเตอรี่ ที่จะมีมากกว่า 1 ช่องเพื่อให้สามารถรองรับกับชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลาย ๆ เครื่องพร้อมกัน ไปจนถึงรูปแบบของบริเวณ หัวชาร์จ ที่จะถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การพกพา สำหรับเดินทางไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมักมีการ ติดตั้งมาตรฐาน ความเร็วสูงในการชาร์จ เพื่อเพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ และลดระยะเวลาในการชาร์จต่อหนึ่งรอบไปด้วยในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงในส่วนของการรับประกัน ก็ยังมีมากยิ่งขึ้นจากมาตรฐาน ที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้อีกด้วย
โดยจากการมีอยู่ในตัวเลือกมากมายของสินค้า ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลานี้ ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในด้านของคุณภาพสินค้า, วัสดุที่ใช้ในการผลิต หรือแม้แต่ระดับราคา ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อทำได้ลำบากมากยิ่งขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายดายมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจึงได้รวบรวม 10 รุ่นน่าสนใจมาให้คุณเลือกซื้อกันในบทความนี้
10 อันดับ หัวชาร์จ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022
- AUKEY PA-B4
- Baseus GaN USB 65 W
- Apple Acc 12 W
- Anker PowerPort 2 Lite
- Eloop C2
- UGREEN 50459
- TECHPRO Wall USB Charger 2 Port 2.1A
- Essager QC3.0
- Basike QC3.0 Wall Charger USB
- OWIRE Fast Charger QC3.0 18W
1. AUKEY PA-B4
★★★★★
หัวชาร์จ แบตเตอรี่ ความเร็วสูงจากแบรนด์ AUKEY ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งกับเครื่องสมาร์ทโน, แท็บเล็ต และแล็ปท็อป
ยี่ห้อ / รุ่น | AUKEY PA-B4 |
ขนาดสินค้า | 5.2 x 5.2 x 3 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 103.5 กรัม |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 65 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 3 ช่อง |
รุ่นแรกเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ขนาดมาตรฐาน ที่มาพร้อมความสามารถในชาร์จเร็วสูงสุดถึง 65 วัตต์ ส่งผลให้สามารถใช้งานได้ทั้งกับเครื่องสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ ด้วยความปลอดภัยในการใช้งานระดับสูงสุด จากมาตรฐานการผลิตสินค้า ที่ได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความั่นใจในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ทางแบรนด์จึงยังมีการแถมการรับประกันมาให้ยาวนานสูงสุดถึง 2 ปีเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ มาตรฐานการผลิตระดับสูงจากสหรัฐอเมริกา
✓ การรับประกันสินค้ายาวนานสูงสุดตลอด 2 ปี
✓ ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท
ข้อพิจารณา
✘ ไม่มีพอร์ตชาร์จแบบ USB ซึ่งเป็นพอร์ตระดับมาตรฐาน
2. Baseus GaN USB 65 W
★★★★★
หัวชาร์จเร็วแบบ 3 ช่องส่งออกกระแสไฟฟ้า ที่จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของสิ่งต่าง ๆ พร้อมกันได้มากถึง 3 ชิ้น
ยี่ห้อ / รุ่น | Baseus GaN USB 65 W |
ขนาดสินค้า | 7.5 x 3.6 x 3.2 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 65 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 3 ช่อง |
สำหรับรุ่นถัดมา เป็นอุปกรณ์ชาร์จไฟ ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้มากสุดถึง 3 ชิ้นในเวลาเดียวกัน จากพอร์ต่างออกกระแสไฟฟ้า ที่ถูกติดตั้งมาให้ทั้งหมดถึง 3 ช่อง ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วจะถูกแบ่งแยกออกมาเป็นพอร์ตแบบ USB Type A และ USB Type C ที่จะรองรับการชาร์จไฟของแบตเตอรี่ได้ ด้วยความเร็วสูงสุดกว่า 65 วัตต์ ดังนั้นจึงทำให้รุ่นนี้เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกับเครื่องสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ไปจนถึงแล็ปท็อปบางรุ่น เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลักที่หลากหลาย
✓ ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ 65 วัตต์
✓ บริเวณปลั๊กไฟสามารถพับเก็บได้
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่
3. Apple Acc 12 W
★★★★★
หัวชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB ขนาดใหญ่จากแบรนด์ Apple ที่มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานระดับยอดเยี่ยม
ยี่ห้อ / รุ่น | Apple Acc 12 W |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 12 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 1 ช่อง |
Apple Acc 12 W เป็น อุปกรณ์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่รุ่นระดับ มาตรฐานจากแบรนด์ Apple ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานร่วมกันกับเครื่อง iPhone และ iPad โดยเฉพาะ แต่ด้วยการใช้งานพอร์ตส่งออก กระแสไฟฟ้าแบบ USB Type A จึงทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์จากแบรนด์อื่นได้ด้วยเช่นกัน ส่วนจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ตัวอุปกรณ์มีความน่าสนใจนั้น จะเป็นในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งถือเป็น จุดเด่น ของสินค้าจากแบรนด์ Apple รวมไปถึงในกรณีที่เกิดความเสียหายกับตัวสินค้า ก็ยังสามารถส่งเคลมได้ทันทีผ่านทาง Apple Care ด้วยครับ
ข้อดี
✓ มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง
✓ ศูนย์รับประกันสินค้ามีอยู่ทั่วประเทศ
✓ สามารถพับเก็บรวิเวณปลั๊กได้
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดและน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่น ๆ พอสมควร
4. Anker PowerPort 2 Lite
★★★★★
หัวชาร์จแบบ USB จากแบรนด์ Anker ที่สามารถจ่ายไฟได้ความรวดเร็วสูงสุดถึง 2.4 แอมป์
ยี่ห้อ / รุ่น | Anker PowerPort 2 Lite |
ขนาดสินค้า | 6.5 x 6.5 x 2.9 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 145 กรัม |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | ABS |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 12 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 2 ช่อง |
Anker PowerPort 2 Lite หัวชาร์จขนาดมาตรฐาน ที่ถูกออกแบบช่องชาร์จแบบ USB Type A จำนวน 2 ช่อง และสามารถส่งออกไฟฟ้าได้ ด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 2.4 แอมป์ ที่สำคัญเพื่อให้คุณสามารถใช้งานตัวอุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัยในระดับสูงสุด ทางแบรนด์จึงยังมีการติดตั้งเทคโนโลยี MultiProtect มาให้ภายในตัวสินค้า สำหรับป้องกันการเกิดไฟกระชาก, ไฟเกิน และไฟลัดวงจร ซึ่งจะสามารถทำงานได้ผ่านการใช้งานเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ เทคโนโลยีสำหรับป้องกันการเกิดไฟกระชาก, ไฟเกิน และไฟฟ้าลัดวงจร
✓ ปลั๊กไฟสามารถพับเก็บได้
✓ รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวรูปแบบต่าง ๆ
ข้อพิจารณา
✘ มีพอร์ตชาร์จเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น
5. Eloop C2
★★★★★
หัวชาร์จแบบ 3 ช่องจากแบรนด์ Eloop ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่อง จากวัสดุในการผลิตแบบทนทานต่อกระแสไฟฟ้า
ยี่ห้อ / รุ่น | Eloop C2 |
ขนาดสินค้า | 6 x 6 x 2.7 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 90 กรัม |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | ABS |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 30 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 3 ช่อง |
รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นน่าสนใจ ที่มีความสามารถในการใช้งานค่อนข้างน่าสนใจ ทั้งจากจำนวนช่องชาร์จแบตเตอรี่ ที่ให้มามากสุดถึง 3 รูปแบบ ประกอบได้ด้วยช่องชาร์จแบบ USB Type C และ USB Type A, กำลังไฟฟ้าสูงสุดในการชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับได้ 30 วัตต์, วัสดุในการผลิตแบบ ABS คุณภาพสูง ที่มีความทนทานต่อกระแสไฟฟ้า และมีน้ำหนักเบาพกพาสะดวก ไปจนถึงความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์ ซึ่งถูกออกแบบมาให้ตัดไฟได้ในกรณี ที่เกิดไฟกระชากหรือไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ ระบบตัดไฟแบบอัตโนมัติ
✓ น้ำหนักเบาเพียง 90 กรัม
✓ จำนวนช่องชาร์จไฟมากถึง 3 ช่อง
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดสินค้าใหญ่พอสมควร
6. UGREEN 50459
★★★★★
อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่จากแบรนด์ UGREEN ที่ถูกออกแบบมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานระดับดีเยี่ยม
ยี่ห้อ / รุ่น | UGREEN 50459 |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | ABS |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 10.5 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 1 ช่อง |
UGREEN 50459 นับเป็นหนึ่งในรุ่นราคาประหยัด ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานของเครื่องสมาร์ทโฟนจากหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung Huawei, Oppo, Vivo ไปจนถึงแบรนด์อื่น ๆ โดยที่ในส่วนของความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่นั้น จะทำได้ด้วยความเร็วสูงสุด 10.5 วัตต์ จากการใช้งานพอร์ตชาร์จแบบ USB Type A ที่รองรับการส่งออกกระแสไฟฟ้าได้ในระดับ 2.1 แอมป์ อีกทั้งในส่วนของมาตรฐานความปลอดภัยโดยรวม ก็เรียกว่าถูกจัดมาให้ในระดับยอดเยี่ยม ส่งผลให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนจากหลายหลายแบรนด์
✓ มาตรฐานความปลอดภัยหลากหลายรูปแบบ
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
ข้อพิจารณา
✘ ใช้งานมาตรฐานช่องชาร์จแบตเตอรี่เวอร์ชันเก่า
7. TECHPRO Wall USB Charger 2 Port 2.1A
★★★★★
หัวชาร์จแบตเตอรี่ทรงสี่เหลี่ยมแบบ 2 ช่องชาร์จ ที่พกพาได้อย่างง่ายดายจากขนาดตัวอุปกรณ์สุดเล็กกะทัดรัด
ยี่ห้อ / รุ่น | TECHPRO Wall USB Charger 2 Port 2.1A |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | – |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | – |
ต่อมาเป็นรุ่นที่เน้นจุดเด่นไปในด้านของการพกพา และอรรถประโยชน์โดยรวมในการใช้งานโดยเฉพาะ จากการถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดใช้พื้นที่การจัดวางน้อย และมีน้ำหนักเบาพกพาสะดวก ส่งผลให้การนำติดกระเป๋าเพื่อไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ จะทำได้อย่างไม่ลำบาก และเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางได้เป็นอย่างมากในเวลาเดียวกัน ส่วนในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่นั้น จะทำได้พร้อมกันมากสุดถึง 2 เครื่อง จากรูปแบบพอร์ต USB Type A ที่ส่งออกกระแสไฟฟ้าได้ที่ 2.1 แอมป์และ 1 แอมป์นั่นเองครับ
ข้อดี
✓ จำนวนช่องชาร์จไฟทั้งหมด 2 ช่อง
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
✓ วัสดุในการผลิตทนทานต่อความร้อน
ข้อพิจารณา
✘ ความเร็วในการชาร์จไม่สูงมากนัก
8. Essager QC3.0
★★★★★
หัวชาร์จแบบ 3 ช่องจากแบรนด์ Essanger ที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมาตรฐานการชาร์จแบบ QC3.0
ยี่ห้อ / รุ่น | Essager QC3.0 |
ขนาดสินค้า | 5.6 x 3.7 x 3.7 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | ABS |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 30 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 3 ช่อง |
Essager QC3.0 เรียกได้ว่าเป็นรุ่นขนาดค่อนข้างใหญ่ ที่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกันได้ทั้งหมด 3 ช่อง จากการใช้งานช่องชาร์จรูปแบบ USB Type A ที่เป็นรูปแบบมาตรฐาน ซึ่งสามารถใช้งานได้กับสายชาร์จแบตเตอรี่จากหลากหลายแบรนด์ โดยที่ในส่วนของการใช้งานนั้น จะสามารถรองรับได้หลากหลายเทคโนโลยีจากแบรนด์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น Qualcomm Quick Charge 3.0, Samsung Adaptive Fast Charge และ USB PD เป็นต้นครับ
ข้อดี
✓ รองรับมาตรฐานความเร็วในการชาร์จได้หลากหลาย
✓ ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนหลากหลายแบรนด์
✓ จำนวนช่องชาร์จที่ให้มาทั้งหมด 3 ช่อง
ข้อพิจารณา
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่
9. Basike QC3.0 Wall Charger USB
★★★★★
หัวชาร์จความเร็วสูงขนาด 18 วัตต์ ที่สามารถพกพาได้อย่างง่ายดาย จากบริเวณหัวปลั๊กที่เลือกพับเก็บได้
ยี่ห้อ / รุ่น | Basike QC3.0 Wall Charger USB |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 18 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 1 ช่อง |
Basike QC3.0 Wall Charger USB นับเป็นหนึ่งในรุ่นขนาดเล็ก ที่ถูกผลิตออกมาให้มีความโดดเด่นสำคัญอยู่ในส่วนของการพกพาโดยเฉพาะ จากขนาดของตัวสินค้า ที่มีความเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบาพกพาสะดวก ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บใส่กระเป๋าได้แบบไม่กินพื้นที่ โดยที่ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่นั้น จะทำได้สูงสุดที่ความเร็ว 18 วัตต์ ผ่านทางพอร์ตส่งออกกระแสไฟฟ้าแบบ USB Type A และรองรับมาตรฐานการชาร์จไวจากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่ครอบครองสมาร์ทโฟนจากทุกแบรนด์ได้แน่นอนครับ
ข้อดี
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
✓ ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ระดับมาตรฐาน
✓ รองรับมาตรฐานการชาร์จเร็วระดับต่าง ๆ
ข้อพิจารณา
✘ ช่องชาร์จที่มีอยู่เพียงแค่ 1 ช่อง
10. OWIRE Fast Charger QC3.0 18W
★★★★★
หัวชาร์จเร็วว จากแบรนด์ OWIRE ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนจากทุกแบรนด์
ยี่ห้อ / รุ่น | OWIRE Fast Charger QC3.0 18W |
ขนาดสินค้า | – |
น้ำหนัก | – |
วัสดุที่ใช้ในการผลิต | – |
ความเร็วสูงสุดในการชาร์จไฟ | 18 วัตต์ |
จำนวนช่องจ่ายไฟ | 1 ช่อง |
สุดท้ายเป็นรุ่นระดับมาตรฐานราคาประหยัด ที่มีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาปัจจุบัน จากความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ ที่ให้มาในระดับมาตรฐาน 18 วัตต์ และขนาดตัวเครื่องสุดเล็กกะทัดรัด ที่จะทำให้การพกพาไปยังสถานที่อื่น ๆ สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บไปด้วยในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ด้วยการใช้งานวัสดุที่มีความทนทานต่อความร้อน ก็ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ในระยะยาว และมีความปลอดภัยในระดับสูงอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ระดับมาตรฐาน
✓ วัสดุในการผลิตทนทานต่อความร้อน
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
ข้อพิจารณา
✘ วัสดุที่ใช้ในการผลิตอาจไม่หรูหรามากนัก
เลือกซื้อ หัวชาร์จ อย่างไรดี ?
6 วิธีการเลือกซื้อ
1. เลือกจากจำนวนช่องจ่ายไฟที่ถูกติดตั้งมาไว้
ในช่วงเวลาปัจจุบันนี้มี หัวชาร์จ แบตเตอรี่ มากมาย ที่ถูกออกแบบมาพร้อมช่องส่งออกไฟมากกว่าหนึ่งช่อง เพื่อให้สามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พร้อมกันได้มากกว่าหนึ่งเครื่อง และประหยัดระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้มากสุดไปได้ด้วยในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานตัวอุปกรณ์ให้ได้มากที่สุด คุณจึงควรตัดสินใจจากจำนวนอุปกรณ์ ที่ต้องการชาร์จเป็นอันดับแรก ๆ เพื่อให้เลือกรุ่นที่มีความเหมาะสมในการใช้งานได้มากที่สุด เนื่องจากผู้ใช้งานแต่ละคนก็มักจะมีจำนวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการชาร์จ ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน และหากยิ่งมีจำนวนอุปกรณ์ในการชาร์จค่อนข้างมาก ก็จะทำให้ใช้จำนวนช่องชาร์จของปลั๊กไฟเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ในตรงกันข้ามหากคุณไม่ได้มีจำนวนอุปกรณ์ ที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ในแต่ละวันมากเท่าไหร่นัก การเลือกรุ่นที่มีช่องส่งออกกระแสไฟฟ้สเพียงแค่ช่องเดียว ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออกกระแสไฟ และความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์ได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
2. พิจารณาความเร็วสูงสุดที่รองรับได้ในการชาร์จแบตเตอรี่
สำหรับในเรื่องของระดับความเร็ว ในการชาร์จแบตเตอรี่ของแต่ละรุ่นนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไปตามความสามารถในการทนทานต่อแรงดันไฟฟ้า ที่ตัวอุปกรณ์จะรองรับได้เมื่อเชื่อมต่อกับไฟบ้าน ซึ่งหากรุ่นที่คุณเลือกซื้อยิ่งรองรับการชาร์จไฟได้ด้วยความเร็วระดับสูง ก็จะทำให้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ลดลง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถใช้งานตัวเครื่องสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยที่ในส่วนของความเร็วในการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้น หลัก ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของพอร์ตเชื่อมต่อ ที่ถูกติดตั้งมาให้กับอุปกรณ์ตัวนนั้น ๆ และแน่นอนว่าพอร์ตที่รองรับการชาร์จได้ด้วยความเร็วระดับสูงสุดนั้น จะเป็น พอร์ต เชื่อมต่อแบบ USB Type C ที่มีความทันสมัยมากที่สุดในช่วงเวลานี้นั่นเอง ดังนั้นหากต้องการลดระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้ต่ำลงได้มากที่สุด ก็ควรมองหารุ่นที่มีระดับความเร็วในการชาร์จสูงมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยนั่นเองครับ
3. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยภายในตัวสินค้า
เนื่องจากสินค้าประเภทนี้เป็นสิ่งที่จะต้องเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบไฟบ้าน จึงทำให้ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน จัดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการพิจารณาด้วยเช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถใช้งานหัวชาร์จรุ่นที่เลือกซื้อได้อย่างปลอดภัยในระดับสูงสุด ซึ่งจัดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ สำหรับการใช้งานอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามซักหนึ่งชิ้น ส่วนในการเลือกซื้อให้มีความเหมาสมนั้น ก็ควรเลือกดูจากรุ่นที่รองรับมาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบต่าง ๆ โดยที่จะสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ ที่จะแสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของตัวสินค้า ซึ่งถือเป็นขั้นตอนระดับพื้นฐาน ที่ทำได้ค่อนข้างง่ายดายและไม่ลำบากเลยแม้แต่น้อยครับ
4. ให้ความสำคัญกับรูปแบบของพอร์ตส่งออกกระแสไฟฟ้าที่รองรับ
รูปแบบของพอร์ตส่งออกกระแสไฟฟ้า ที่ถูกออกแบบมาพร้อมกันกับตัวอุปกรณ์นั้น จัดเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่ไม่ควรถูกลืมไปในการพิจารณาเลือกซื้อด้วยเช่นกัน เนื่องจากรูปแบบของสายชาร์จ ที่แต่ละคนมีไว้ในการครอบครอง เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีความแตกต่างกันออกไปตามประเภทของสายชาร์จแบตเตอรี่ ที่ถูกแถมมาให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวหลักรุ่นที่คุณเลือกซื้อ โดยที่รูปแบบหลัก ๆ ของพอร์ตเชื่อมต่อ ที่คุณจะสามารถพบเห็นได้ในหัวชาร์จปัจจุบันนี้ จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type A ที่เป็นเวอร์ชันเก่าและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C ที่จะมีความรวดเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่สูงกว่า ทำให้ในการเลือกซื้อก็ควรเลือกจากความสะดวกในการใช้งานของแต่ละคน ตามหัวชาร์จของอุปกรณ์แต่ละรุ่น ที่คุณมีเอาไว้ในความครอบครองนั่นเองครับ
5. เลือกดูน้ำหนักที่มีความเหมาะสมในการพกพา
ในบางสถานการณ์ของการใช้งานก็หลีกเลี่ยงไปไม่ได้ ที่จะต้องพกพาหัวชาร์จแบตเตอรี่ออกไปใช้งานยังสถานที่อื่น ๆ นอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในการเรียน, การทำงาน หรือแม้แต่การใช้งานชีวิตประจำวันในด้านอื่น ๆ ส่งผลให้ในส่วนของน้ำหนักโดยรวมของตัวอุปกรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อการใช้งานในด้านนี้ ก็นับได้ว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญสำหรับการพิจารณาเลือกซื้อด้วยเช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถพกพาตัวอุปกรณ์ออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว และสะดวกสบายได้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ในการเลือกซื้อให้ตอบโจทย์การใช้งานในด้านนี้ให้ดีได้มากที่สุดนั้น คุณก็ควรมองหารุ่นที่มีน้ำหนักเบามากสุด ควบคู่กับองค์ประกอบในส่วนอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุดด้วยเช่นกันครับ
6. ตัดสินใจจากอุปกรณ์หลักที่ต้องการชาร์จแบตเตอรี่
หัวชาร์จแบตเตอรี่ แต่ละรุ่นนั้นจะถูกออกแบบมาให้เหมาะ สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์หลัก ที่แตกต่างกันออกไปตามกำลังไฟฟ้า ซึ่งตัวอุปกรณ์จะสามารถส่งออกได้จากกระแสไฟบ้านในการใช้งาน ส่งผลให้สินค้าบางรุ่นรองรับการใช้งานได้มากกว่าเพียงแค่การชาร์จแบตเตอรี่ของเครื่องสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต, แล็ปท็อป หรือแม้แต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ ดังนั้นเพื่อให้ตัวอุปกรณ์ตอบโจทย์การชาร์จแบตเตอรี่ของคุณได้อย่างตรงจุดมากที่สุด จึงควรมองหารุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์หลักของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานตัวเครื่องได้ในทุกสถานการณ์ที่คุณต้องการ เพราะหากคุณต้องการหัวชาร์จสำหรับแล็ปท็อป แต่เลือกซื้อเพียงรุ่นที่รองรับการใช้งานได้กับเครื่องสมาร์ทโฟน ก็อาจทำให้คุณไม่สามารถใช้งานตามความต้องการของคุณได้นั่นเองครับ
บทสรุป
ในการเลือกซื้อ หัวชาร์จ แบตเตอรี่มาไว้ในการใช้งานซักหนึ่งชิ้นนั้น เรียกได้ว่ามีองค์ประกอบต่าง ๆ มากมาย ที่คุณควรให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการพิจารณาเลือกซื้อ เพื่อให้คุณได้ใช้งานรุ่นที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในทุกสถานการณ์ โดยที่ในส่วนของรายละเอียดที่ควรถูกนำมากพิจารณาในเบื้องต้นนั้น จะประกอบไปด้วย จำนวนช่องส่งออกไฟที่ถูกติดตั้งมาให้, ความเร็วสูงสุดในการชาร์จแบตเตอรี่ ที่รองรับได้ในมาตรฐานความเร็วของตัวสินค้า, มาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกใช้ในการผลิต, รูปแบบของพอร์ตส่งออกกระแสไฟฟ้า, น้ำหนักของตัวอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการพกพา และอุปกรณ์หลักที่คุณต้องการใช้งาน เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังควรให้ความสนใจกับในส่วนของระดับราคา ที่มีความเหมาะสมกับรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านั้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน และเพื่อให้การเลือกซื้อของคุณทำได้รวดเร็วและง่ายดายได้มากยิ่งขึ้น คุณก็สามารถลองตัดสินใจเลือกซื้อดูจากทั้งหมด 10 รุ่น ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณในวันนี้ได้เลยครับ