10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

หูฟังตัดเสียงรบกวนหูฟังตัดเสียงรบกวน เป็นหนึ่งในประเภทของ หูฟังไร้สาย ที่มีความโดดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของความสามารถในการฟังเพลงและรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ด้วยคุณภาพเสียงที่จัดอยู่ในระดับสูงสุด และป้องกันผลที่อาจเกิดจากเสียงรบกวนด้านนอกได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้คน, เสียงรถยนต์, เสียงเครื่องจักร หรือแม้แต่เสียงรบกวนตามธรรมชาติอื่น ๆ ส่งผลให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์ สำหรับเพิ่มอรรถรสและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการรับชมคอนเทนต์ให้มีคุณภาพและมีความสมจริงที่ดีมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในการฟังเพลง, เล่นเกม, รับชมวิดีโอบนแอปพลิเคชัน Youtube หรือติดตามซีรีย์ต่าง ๆ บนแอปพลิเคชัน Netflix การมองหา หูฟังตัดเสียงรบกวน เพื่อการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ก็นับเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

และหากคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่จัดอยู่ในกลุ่มของผู้ใช้งานที่เราได้กล่าวไป ก็แนะนำให้ลองหาซื้อรุ่นใหม่ซักหนึ่งรุ่นจากบทความ แนะนำ หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 ซึ่งเราได้เลือกรุ่นที่น่าซื้อมากที่สุด ในขณะนี้มาให้คุณได้ลองเลือกซื้อควบคู่ ไปกับการอธิบายรายละเอียดของสินค้าได้เลยครับ

10 หูฟังตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

  1. Sennheiser Momentum 4 Wireless
  2. Sony WH-1000XM4
  3. Bose 700
  4. Apple AirPods Max
  5. Marshall MID Active Noise Cancelling
  6. Apple Airpods Pro
  7. Bowers & Wilkins PX7 S2
  8. Samsung Galaxy Buds Live
  9. Sony WF-1000XM4
  10. OPPO Enco Free True Wireless Headphones

Preview

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ยี่ห้อ/รุ่น

Sennheiser Momentum 4 Wireless

Sony WH-1000XM5

Bose 700

Apple AirPods Max

Marshall MID Active Noise Cancelling

Apple Airpods Pro

Bowers & Wilkins PX7 S2

Samsung Galaxy Buds Live

Sony WF-1000XM4

Oppo Enco Free True Wireless

น้ำหนักของหูฟัง

294 กรัม

249 กรัม

255 กรัม

384.8 กรัม

272 กรัม

51 กรัม

307 กรัม

53.8 กรัม

41 กรัม

48.2 กรัม

การใช้งานแบตเตอรี่

60 ชั่วโมง

30 ชั่วโมง

20 ชั่วโมง

20 ชั่วโมง

20  ชั่วโมง

4.5 ชั่วโมง

30 ชั่วโมง

21 ชั่วโมง

24 ชั่วโมง

25 ชั่วโมง

ระบบเสียง

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

Android และ iOS

ใช้กับเครื่อง

Bluetooth 5.2

Bluetooth 5.2

Bluetooth 5.0

Bluetooth 5.0

-

Bluetooth 5.0

Bluetooth 5.2

Bluetooth 5.0

Bluetooth 5.2

Bluetooth 5.0

ลิงค์สินค้า

lazada promo 1-15 December 2023

1. Sennheiser Momentum 4 Wireless

หูฟังตัดเสียงรบกวน ที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ด้วยระยะเวลาการรับประกันสินค้าตลอด 2 ปี

ยี่ห้อ / รุ่นSennheiser Momentum 4 Wireless
น้ำหนักของหูฟัง294 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด60 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.2

Sennheiser Momentum 4 Wireless นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับคนที่กำลังมองหา หูฟังตัดเสียงรบกวน ดี ๆ ซักหนึ่งรุ่น มาไว้ในการใช้งาน จากความโดดเด่นที่หลากหลาย ซึ่งล้วนแล้วแต่จะช่วยให้คุณใช้งานตัวหูฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่ทำให้ตัวอุปกรณ์รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 60 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวสินค้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไปจนถึงการถูกออกแบบมาพร้อม ระบบตัดเสียง รบกวนคุณภาพสูง เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมสิ่งต่าง ๆ ให้ดีได้กับคุณมากที่สุด รวมไปถึงยังเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการใช้งานระยะยาวได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการแถมการรับประกันสินค้ามาให้ตลอด 2 ปีด้วยเช่นกัน

ข้อดี
การรับประกันสินค้ายาวนานตลอด 2 ปี
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องสูงุสด 60 ชั่วโมง
สามารถใส่การ์ด SD ในการฟังสิ่งต่าง ๆ ได้

ข้อเสีย
ขนาดของส่วนหูค่อนข้างใหญ่พอสมควร

2. Sony WH-1000XM5

หูฟัง Sony พร้อมรูปลักษณ์ การออกแบบสุดคลาสสิก ที่มาพร้อมความสามารถแสดงผลเสียงระดับสูง

ยี่ห้อ / รุ่นSony WH-1000XM5
น้ำหนักของหูฟัง249 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด30 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.2

หูฟัง รุ่นนี้ เป็นตัวเลือกสินค้าจาก แบรนด์ Sony ที่รองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง จากแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายใน ส่งผลให้คุณจะสามารถฟังเพลง หรือรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ยาวนานสูงสุดตลอด 30 ชั่วโมงอย่างเต็มคุณภาพ ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ เพียงครั้งเดียว สำหรับความน่าสนใจของหูฟังตัวนี้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องของระบบตัดเสียงรบกวน ที่ทำงานได้ด้วยการใช้ไมโครโฟนทั้งหมด 8 ตัว และชิปประมวลผลเสียง QN1 ซึ่งช่วยให้แสดงผลเสียงได้อย่างคมชัดและมีประสิทธิภาพในทุกรูปแบบ ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับเสียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ข้อดี
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 9 ชั่วโมง
ระบบตัวเสียงรบกวนจากไมโครโฟน 8 ตัว
การใช้งานแบบไร้สาย

ข้อเสีย
ดีไซน์การออกแบบค่อนข้างเรียบง่าย

3. Bose 700

หูฟัง Bose พร้อมฟังก์ชัน ตัดเสียงรบกวน ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามหรูหรา

ยี่ห้อ / รุ่นBose 700
น้ำหนักของหูฟัง255 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด20 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.0

รุ่นนี้เป็น หูฟัง จากแแบรนด์ Bose ที่ถูกออกวางจำหน่ายมาให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า กับระดับราคาที่ออกวางจำหน่ายอย่างมาก ตั้งแต่เรื่องของดีไซน์การออกแบบ ที่ให้ความรู้สึกโดยรวมสุดสวยงามหรูหรา และมีรูปแบบสีให้เลือกใช้งานได้ทั้งหมดถึง 3 รูปแบบ ประกอบด้วย สี Black, Soapstone และ Luxe Silver ไปจนถึงประสิทธิภาพการแสดงผลเสียงระดับสูง ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพในระดับสูงสุด นอกจากนี้ในส่วนของระบบการตัดเสียงรบกวน ก็ยังมีระดับการทำงานที่หลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ถึง 11 ระดับเลยทีเดียว

ข้อดี
ความสามารถในการตัดเสียงรบกวน 11 ระดับ
รูปแบบสีที่มีให้เลือกได้หลากหลาย
ดีไซน์การออกแบบสวยงามหรูหรา

ข้อเสีย
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องไม่ยาวนานมากนัก

4. Apple AirPods Max

หูฟัง Apple AirPods รุ่นประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด และมีรูปแบบสีให้เลือกซื้อได้หลากหลาย

ยี่ห้อ / รุ่นApple AirPods Max
น้ำหนักของหูฟัง384.8 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด20 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.0

Apple AirPods Max จัดเป็น หูฟังแบบไร้สาย ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของ Apple ในช่วงเวลานี้ ด้วยการถูกออกแบบมาเป็น หูฟัง แบบ Headphone ที่จะทำให้สามารถป้องกันเสียงรบกวน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากบริเวณโดยรอบได้เป็นอย่างดี และการใช้งานหน่วยประมวลผลเสียงคุณภาพสูง ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ จากทาง Apple ในขณะที่ด้านของรูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ ก็ยังให้ความรู้สึกที่ดูหรูหราทันสมัย จากส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ถูกเลือกใช้งานในตัวหูฟัง ยิ่งไปว่านั้นยังเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการมีตัวเลือกสีทั้งหมดถึง 5 รูปแบบอีกด้วย

ข้อดี
ความสามารถในการแสดงผลเสียงระดับสูง
รูปลักษณ์การออกแบบหรูหราล้ำสมัย
จำนวนสีที่มีให้เลือกได้ถึง 5 รูปแบบ

ข้อเสีย
ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องที่ต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ

shopee home expo promo 2023

5. Marshall MID Active Noise Cancelling

หูฟัง Marshall ตัดเสียงรบกวน ประเภท Headphone แบบไร้สาย ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมสิ่งต่าง ๆ ให้ดีได้มากยิ่งขึ้น

ยี่ห้อ / รุ่นMarshall MID Active Noise Cancelling
น้ำหนักของหูฟัง272 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด20 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน Bluetooth

Marshall MID Active Noise Cancelling เป็น หูฟัง Headphone แบบไร้สาย ที่ไม่มีดีแค่เพียงการรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ด้วยคุณภาพระดับสูงสุดเพียงเท่านั้น แต่ยังคงมีความโดดเด่น อยู่ในเรื่องของการสนทนาผ่านทาง หูฟัง ที่คมชัด จากไมโครโฟน 4 ตัวรอบตัว หูฟัง ที่ใช้สำหรับทั้งการตัดเสียงรบกวน และเพิ่มความลื่นไหลและคมชัดในการสนทนาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเพื่อความง่ายดายในการสั่งใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวอุปกรณ์ เช่น การเล่น-หยุดเพลง, การลด-เพิ่มเสียง หรือแม้แต่การกดรับ-วางสาย รุ่นนี้ก็ทำได้ผ่านการใช้งานปุ่ม Multi-Directional Contral Knob เพียงปุ่มเดียวเท่านั้นครับ

ข้อดี
ปุ่ม Multi-Directional Contral Knob ที่ใช้สั่งการฟังก์ชันการควบคุมต่าง ๆ
ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน 20 ชั่วโมง
ไมโครโฟน 4 ตัวในระบบตัดเสียงรบกวนและเพิ่มความคมชัดในการสนทนา

ข้อเสีย
น้ำหนักค่อนข้างมากหากเทียบกับหูฟังแบบ In-Ear

6. Apple Airpods Pro

หูฟัง รุ่นยอดนิยม จากแบรนด์ Apple ดีไซน์การออกแบบสุดทียสมัย สามารถสวมใส่ต่อเนื่องได้ยาวนานโดยไม่ปวดหู

ยี่ห้อ / รุ่นApple Airpods Pro
น้ำหนักของหูฟัง51 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด4.5 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.0

Apple Airpods Pro คือ หูฟังไร้สายแบบ In-Ear ประสิทธิภาพสูงสุด จากแบรนด์ Apple ที่คิดว่าไม่มีใครที่น่าจะไม่รู้จักกันอย่างแน่นอน จากความมีชื่อเสียงและความสามารถในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมของตัวอุปกรณ์ ซึ่งป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้แบบมีคุณภาพ ด้วยการใช้งานชิปประมวลผลเสียง แบบ Apple H1 ที่มีความโดดเด่น ในการจัดการกับเสียงให้มีความหน่วงต่ำที่สุด และป้องกันการเกิดเสียงรบกวนในการใช้งานไปได้ในเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นในด้านของดีไซน์การออกแบบก็นับว่ามีความหรูหราและดูมีราคา รวมไปถึงยังสวมใส่ต่อเนื่องได้ยาวนานโดยไม่เกิดอาการปวดหูอีกด้วยครับ

ข้อดี
ดีไซน์การออกแบบดูหรูหราและสวยงามทันสมัย
ชิปประมวลผลเสียงประสิทธิภาพสูง
สวมใส่ได้สบายโดยไม่ปวดหู

ข้อเสีย
อาจไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันได้ทั้งหมดหากเป็นสมาร์ทโฟน Android

7. Bowers & Wilkins PX7 S2

หูฟังไร้สาย ดีไซน์การออกแบบสุดทันสมัย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูง

ยี่ห้อ / รุ่นBowers & Wilkins PX7 S2
น้ำหนักของหูฟัง307 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด30 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.2

Bowers & Wilkins PX7 S2 เรียกได้ว่าเป็น หูฟัง ที่มีความน่าสนใจ ตั้งแต่เรื่องของภาพลักษณ์การออกแบบ โดยรวมภายนอกของตัวสินค้า ที่ให้ความรู้สึกดูทันสมัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงมีความกะทัดรัด ส่งผลให้สามารถสวมใส่และใช้งานได้ ด้วยความสะดวกสบายในระดับสูงสุดตามไปด้วยในเวลาเดียวกัน ในด้านของการใช้งานนั้นตัวสินค้า ก็ได้ถูกติดตั้งหน่วยประมวลผลคุณภาพเสียงระดับสูงมาให้ ส่งผลให้เมื่อใช้งานร่วมกันกับรายละเอียดอื่น ๆ จึงจะทำให้คุณได้รับชมทุกคอนเทนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการฟังเพลง การรับชมคอนเทนต์สตรีมมิ่งต่าง ๆ ไปจนถึงการเล่นเกมในทุกสไตล์เลยทีเดียว

ข้อดี
ขนาดกะทัดรัดสวมใส่สบาย
รูปลักษณ์การออกแบบสวยงามล้ำสมัย
ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพเสียงมากมาย

ข้อเสีย
มีน้ำหนักพอสมควร

8. Samsung Galaxy Buds Live

หูฟัง Earbuds จากแบรนด์ Samsung ที่สามารถสวมใส่เพื่อฟังสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสบายโดยไร้เสียงรบกวน

ยี่ห้อ / รุ่นSamsung Galaxy Buds Live
น้ำหนักของหูฟัง53.8 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด21 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.0

Samsung Galaxy Buds Live นับเป็นตัวเลือกของสินค้าจากแบรนด์ Samsung ที่ถูกออกแบบมาอย่างแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เมื่อเทียบกันกับตัวเลือกของสินค้ารุ่นอื่น ๆ ที่เราได้แนะนำไว้ให้กับคุณที่ผ่านมา ด้วยการเป็น หูฟัง Earbuds ที่ถูกออกแแบบมาพร้อมกันกับ เคสชาร์จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง ในหนึ่งรอบการชาร์จของแบตเตอรี่ ให้ได้มากยิ่งขึ้น สำหรับความน่าสนใจของ หูฟังตัดเสียงรบกวน ตัวนี้ จะเป็นการสวมใส่ที่สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย จากขนาดโดยรวมสุดเล็กกะทัดรัด และน้ำหนักของ หูฟัง แต่ละข้างเพียง 5.6 กรัม นอกจากนี้ก็ยังมีความหลากหลายของตัวเลือกสี ที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ทั้งหมดถึง 3 รูปแบบด้วยเช่นกัน

ข้อดี
การสวมใส่และใช้งานที่สะดวกสบาย
ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
ระบบตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย
ไม่สามารถใช้งานได้ยาวนานมากนักในหนึ่งรอบการชาร์จ

9. Sony WF-1000XM4

หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สาย ที่มาพร้อมขนาดเล็กกะทัดรัดและพกพาได้สะดวก

ยี่ห้อ / รุ่นSony WF-1000XM4
น้ำหนักของหูฟัง41 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด24 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.2

สำหรับรุ่นนี้เป็น หูฟัง ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะของ in-ear ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการฟังสิ่งต่าง ๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลักได้ เป็นอย่างดี ในด้านของการเชื่อมต่อนั้นตัวสินค้า จะสามารถทำได้อย่างมีเสถียรภาพ ด้วยการใช้งานระบบ Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 โดยความน่าสนใจของ หูฟัง ตัวนี้ จะเป็นเรื่องของระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง ที่สามารถทำได้สูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง จากการใช้งานแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งในหูฟังแต่ละข้างและเคสชาร์จ สำหรับในส่วนของการประมวลผลเสียง รุ่นนี้ก็ยังสามารถทำได้อย่างน่าสนใจ และตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม จากการทำงานของชิปประมวลผลเสียงแบบผสมผสายอย่าง Sony V1 ด้วยในเวลาเดียวกัน

ข้อดี
ชิปประมวลผลเสียงแบบผสมผสานคุณภาพยอดเยี่ยม
ระบบตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูงจากทาง Sony
การสวมใส่ที่ทำได้สบายจากลักษณะหูฟังแบบ in-ear

ข้อเสีย
การใช้งานต่อเนื่องที่ไม่ยาวนานมากนัก

10. Oppo Enco Free True Wireless

หูฟัง Oppo ไร้สายตัดเสียงรบกวน แบบ True Wireless ที่มีดีไซน์การออกแบบสุดหรูหรามีราคา และสวมใส่ได้ยาวนานโดยไม่ปวดหู

ยี่ห้อ / รุ่นOppo Enco Free True Wireless
น้ำหนักของหูฟัง48.2 กรัม
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด25 ชั่วโมง
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานAndroid และ iOS
เวอร์ชัน BluetoothBluetooth 5.0

สุดท้ายเป็น หูฟัง รูปทรง Airpods ที่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างยาวนานโดยไม่ปวดหู ด้วยน้ำหนักเบาสบายเพียง 4.6 กรัมต่อหนึ่งข้าง และการใช้วัสดุในการผลิตที่ดูไม่หนักมากจนเกินไป โดยที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดไปถึงสองวัน จากแบตเตอรี่เคสขนาดความจุ 410mAh และใช้งานต่อเนื่องต่อหนึ่งรอบการชาร์จได้มากถึง 5 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ของหูฟังที่มีอยู่ประมาณ 31mAh ที่สำคัญยังสั่งใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยการสไลด์ขึ้นลงและแตะที่ตัวอุปกรณ์ ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นจะต้องมีปุ่มกดสำหรับสั่งการการใช้งานของตัวหูฟังเลยแม้แต่ปุ่มเดียวนั่นเองครับ

ข้อดี
การสั่งการผ่านระบบสัมผัส
น้ำหนักหูฟังแต่ละข้างเพียง 4.6 กรัม
การใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 25 ชั่วโมง

ข้อเสีย
ขนาดค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับหูฟังประเภทเดียวกัน

เลือกซื้อ หูฟังตัดเสียงรบกวน อย่างไรดี

4 วิธีการ เลือกหูฟังตัดเสียงรบกวน

1. เลือกจากประเภทของหูฟัง

โดยปกติแล้วหูฟังที่มาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของการป้องกันเสียงรบกวน มักมาพร้อมดีไซน์การออกแบบทั้งหมด 2 ประเภท คือ

  • หูฟังไร้สายแบบ In-Ear ที่มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของขนาดตัวอุปกรณ์สุดกะทัดรัด และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่เกิดอาการเมื่อยล้าบริเวณใบหู แต่จะวัดประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนจากการออกแบบจุกหูฟัง และการทำงานของหน่วยประมวลผลเสียงต่าง ๆ ใน
  • ขณะที่หูฟังแบบ Headphone จะเป็นหูฟังไร้สายขนาดใหญ่ ที่ป้องกันการเกิดเสียงรบกวนได้แบบดีเยี่ยม จากการถูกออกแบบให้สวมใส่ครอบหูไปได้แบบสนิท ส่งผลให้ป้องกันเสียงรบกวนจากด้านนอกได้ดีมากกว่า แต่ด้วยน้ำหนักของตัวอุปกรณ์ที่มีอยู่ค่อนข้างมาก จะทำให้เมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ก็อาจเกิดอาการเมื่อยล้าได้มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อตามประเภทของหูฟังให้เหมาะสมกับสไตล์การใช้งานของแต่ละคน ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและมีคุณภาพมากที่สุดตามไปด้วยนั่นเองครับ

2. ตรวจสอบขนาดและน้ำหนักของหูฟัง

เนื่องจาก หูฟัง เป็นอุปกรณ์เสริมแบบต่อพ่วง ที่จำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บระหว่างการเดินทาง จึงทำให้การพิจารณาถึงขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม ก็นับเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไปไม่ได้เพื่อให้ได้รุ่นที่คุ้มค่ามากที่สุดด้วยเช่นกัน

เพราะหาก คุณเลือกรุ่น ที่มีขนาดใหญ่ และ มีน้ำหนักมากจนเกินไป ก็อาจมีผลโดยตรงให้การพกพาหรือจัดเก็บลงในกระเป๋าทำได้ยากและลำบากมากยิ่งขึ้น โดยหากต้องการเน้นจุดเด่นในด้านของการพกพาเป็นหลัก ก็อาจเลือก ซื้อหูฟัง ที่มาพร้อมกับ เคสชาร์จ เพื่อทำให้การจัดเก็บทำได้ง่าย

และสามารถชาร์จแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้ต่อเนื่องในการใช้งานระหว่างวัน หรือหากต้องการเน้นไปในเรื่องของคุณภาพเป็นหลัก ก็อาจเลือกเป็นหูฟังแบบครอบหูที่ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี และมักใช้งานระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าก็ได้ด้วยเช่นกันครับ

3. พิจารณาระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องของแบตเตอรี่

หูฟังตัดเสียงรบกวน ในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นหูฟังแบบไร้สาย ที่จำเป็นจะต้องชาร์จแบตเตอรี่เพื่อการใช้งานด้วยกันทั้งสิ้น เป็นผลให้การพิจารณาถึงความจุแบตเตอรี่ของตัวหูฟัง ก็เรียกได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันกับเรื่องอื่น ๆ อยู่ไม่น้อย

เพื่อให้หูฟังรุ่นนั้น ๆ รองรับการใช้งานต่อเนื่องไปได้ยาวนานตลอดวัน แต่ในบางครั้งการได้มาซึ่งแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ และระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนาน ก็อาจทำให้จำเป็นต้องแลกมาด้วยขนาดและน้ำหนักของตัวหูฟังที่มากยิ่งขึ้น

จนกระทั่งในบางครั้งก็อาจจำเป็นต้องใช้งานรุ่นที่มาพร้อมเคสชาร์จ สำหรับการสำรองแบตเตอรี่เพื่อให้ใช้งานได้ในหลาย ๆ รอบ ซึ่งคุณสามารถเลือกให้เหมาะสมตามความต้องการของคุณได้เลยครับ

4. ให้ความสำคัญฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบทั้งการฟังเพลง, การดูวิดีโอบน Youtube และการรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ผ่านทาง Netflix การเลือกซื้อหูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพการใช้งานยอดเยี่ยม และมีฟังก์ชันการใช้งานครบครันรอบด้าน จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้คุณใช้งานในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดีแบบไร้ที่ติมากที่สุด

จากความสามารถของตัวอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมา สำหรับรองรับการใช้งานในด้านนี้โดยตรง และการมาพร้อมฟังก์ชันหรือคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โดยที่ในด้านของการเลือกซื้อก็ควรเริ่มต้นจากสิ่งที่มีความสำคัญในการใช้งาน
เช่น ประเภทของหูฟัง, ขนาดและ น้ำหนักของตัว หูฟัง และการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานจากขนาดความจุของแบตเตอรี่ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

แล้วจึงให้ความสนใจไปในด้านของระดับราคารองลงมา เพื่อให้เลือกซื้อรุ่น ที่ต้องการได้ดีและคุ้มค่ามาก ที่สุด ซึ่งหากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก ซื้อ หูฟัง Noise Cancelling รุ่นไหนดี ในปี 2020 นี้ รุ่นที่คุณกำลังมองหาอยู่อาจจะเป็น 1 ใน 10 รุ่น ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณในบทความนี้ก็เป็นได้ครับ

บทสรุป

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบทั้งการฟังเพลง, การดูวิดีโอบน Youtube และ การรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ผ่านทาง Netflix การเลือก ซื้อ หูฟังตัดเสียงรบกวน ที่มีประสิทธิภาพการใช้งานยอดเยี่ยม และมีฟังก์ชันการใช้งานครบครันรอบด้าน จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้คุณใช้งานในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดีแบบไร้ที่ติมากที่สุด

จากความสามารถของตัวอุปกรณ์ ที่ถูกออกแบบมา สำหรับรองรับการใช้งานในด้านนี้โดยตรง และการมาพร้อมฟังก์ชันหรือ คุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
โดยที่ในด้านของการเลือกซื้อ ก็ควรเริ่มต้นจากสิ่งที่มีความสำคัญในการใช้งาน เช่น ประเภทของหูฟัง, ขนาดและน้ำหนักของตัวหูฟัง และการใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานจาก ขนาดความจุของแบตเตอรี่ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน แล้วจึงให้ความสนใจไปในด้านของระดับราคารองลงมา

เพื่อให้เลือกซื้อรุ่น ที่ต้องการได้ดีและ คุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งหากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก ซื้อหูฟัง Noise Cancelling รุ่นไหนดี ในปี 2023 นี้ รุ่นที่คุณกำลังมองหาอยู่อาจจะเป็น 1 ใน 10 รุ่น ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณในบทความนี้ก็เป็นได้ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง