10 หูฟัง in ear ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
ทุกวันนี้หูฟังถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูวิดีโอ เล่นเกม คุยโทรศัพท์ส่วนตัวหรือคุยธุระเรื่องงาน คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ทุกที่ ทั้งในบ้านและที่สาธารณะ เมื่อมีหูฟังที่ดีเป็นตัวช่วยในการสื่อสารหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้สะดวกไม่มีติดขัด และไลฟ์สไตล์ปัจจุบันนี้มักจะควบคู่ไปกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น
หูฟังไร้สาย หรือ หูฟังบลูทูธ จึงตอบโจทย์มาก ๆ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น เคลื่อนไหวสะดวก ไม่มีสายระโยงระยางกวนใจอีกต่อไป พกพาง่าย ขนาดเล็ก ทันสมัย ไม่ว่าใช้ฟังเพลง หูฟังสำหรับเล่นเกมส์ ดูหนัง หรือคุยโทรศัพท์ ก็สะดวก เป็นที่นิยมมากในหมู่คนรักการออกกำลังกาย เพราะสะดวกอย่างมาก ไม่ว่าจะวิ่ง คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง จะไม่มีสายมากวนใจ หูฟังที่มีสาย แถมมากับมือถือ อาจทำให้ไม่สะดวก ถ้าได้ลองเปลี่ยนมาใช้แบบไร้สาย แล้วจะลืมแบบมีสายไปเลย และหากคุณกำลังมองหา หูฟังไร้สาย อินเอียร์ อยู่ล่ะก็ หูฟัง ในท้องตลาดมีราคาที่แตกต่างกันหลายระดับจากผู้ผลิตมากมาย ใครที่สงสัยว่าควรซื้อ หูฟัง ยี่ห้อไหนดี ลองอ่าน 10 อันดับ หูฟัง in ear ที่เราอยากแนะนำให้คุณ ได้เลือกใช้กัน
ทำไม หูฟังไวล์เลส จึงเป็นที่นิยม
หูฟัง True Wireless เป็นหูฟัง ที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความง่ายในการใช้ชีวิต เนื่องจากการไร้สายของหูฟัง ทำให้เวลาเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่มีสายมาให้เกะกะให้รำคาญใจ พกพาง่ายสะดวกเพียงแค่เก็บตัวหูฟังในกล่องหูฟังแล้วพกไปทั้งกล่อง ส่วนตัวหูฟังแบบมีสายเสียบที่มือถือ อาจเกิดเหตุการณ์สายหูฟังโดนเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นมือ กระเป๋า หรือสิ่งอื่น ๆ ภายนอกมาเกี่ยวพันกับสายหูฟัง ทำให้หูฟังหลุด หรือมีโอกาสทำให้มือถือตก เกิดความเสียหายได้
การใส่ หูฟังไร้สาย ทำให้สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกไปพร้อมกันกับการฟังเพลงไปด้วยได้ เช่น การทำความสะอาดบ้าน ออกกำลังกาย จอกกิ้ง เดินเล่นกับสัตว์เลี้ยง ทำอาหาร เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องพกมือถือติดตามตัว และไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนคนอื่น เหมือนการเปิดลำโพง ส่วนเรื่องคุณภาพของเสียง โดยทางทฤษฎีหูฟังแบบมีสายเสียบกับมือถือ จะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย แต่ปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า หูฟัง Wireless ได้พัฒนาไปมาก คุณภาพของเสียงไม่แพ้แบบมีสายแน่นอน
10 หูฟัง in ear ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
- Bose SoundSport Free Wireless In-Ear Wireless
- Sony WF-1000XM4
- Apple AirPods Pro Gen2
- Sennheiser Momentum True Wireless 3
- Samsung Galaxy Buds Live
- JBL Endurance Jump
- Xiaomi Mi Redmi Airdots
- Sennheiser New cx 80s
- KZ ZST
- JBL C150SI in-Ear Earphone
Preview | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
ยี่ห้อ/รุ่น | Sennheiser Momentum 4 Wireless | Sony WF1000XM4 | Apple AirPods Pro Gen2 | Sennheiser Momentum True Wireless 3 | Samsung Galaxy Buds Live | JBL Endurance Jump | Xiaomi Mi Redmi Airdots | Sennheiser New cx 80s | KZ ZST | JBL C150SI in-Ear Earphone |
ประเภทหูฟัง | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear | In-Ear |
กันน้ำ | IPX4 | IPX4 | IPX4 | IPX4 | IPX4 | IPX7 | - | - | - | - |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 5 ชม. | ต่อเนื่อง 24 ชม. | ต่อเนื่อง 24 ชม | ต่อเนื่อง 28 ชม | ต่อเนื่อง 21 ชม. | 8 ชม. | 3 ชม. | - | - | - |
การตัดเสียงรบกวน | มี | มี | มี | มี | มี | - | มี | - | - | - |
ลิงค์สินค้า |
1. Bose SoundSport Free Wireless In-Ear Wireless
★★★★★
หูฟังออกกำลังกาย สวมใส่กระชับ กันน้ำ กันเหงื่อ IPX4
ยี่ห้อ/รุ่น | Bose SoundSport Free Wireless In-Ear Wireless |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | IPX4 |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 5 ชม. |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | 1 ปี |
Bose SoundSport Free เป็น หูฟังแบบ True Wireless ที่สมบูรณ์แบบและเพอร์เฟคที่สุดแล้วในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้สวมใส่ได้ง่าย สบายหู และไม่หลุดแม้เคลื่อนไหวมาก ๆ ระบบการปรับเสียงที่แม้ว่าจะไม่มีฟังก์ชั่นตัดเสียง
แต่เวลาฟังเพลงก็เพลงไม่รู้สึกถึงเสียงรบกวนใด ๆ การเชื่อมต่อแบบ Flawless ไร้ที่ติ และไม่มีสะดุด App ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมหูฟังจริง ๆ เพราะทำให้การเชื่อมต่อทำได้ง่ายขึ้น เสียงระดับเทพแบบไม่ทิ้งลายของ Bose แม้แต่นิดเดียว รวมไปถึงฟังก์ชั่นการกันน้ำกระเซ็นและเหงื่อ
จุดที่ยังอยากให้พัฒนาไปกว่านี้คงเป็นแบตเตอรี่เท่านั้นที่ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งอาจจะน้อยไป แต่เท่านี้ก็ถือว่าเป็นหูฟัง 5 ดาวที่นำค่ายอื่น ๆ ไปแบบไม่ทิ้งฝุ่นแล้ว และด้วยราคาที่พูดได้ว่าไม่สูงจนเกินไป ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้ามองหาหูฟัง True Wireless เสียงดี เชื่อมต่อเด่น ก็มองข้าม Bose SoundSport Free ไปไม่ได้
2. Sony WF1000XM4
★★★★★
หูฟัง In ear Sony ที่มาพร้อม ระบบตัดเสียงรบกวน ประสิทธิภาพสูง
ยี่ห้อ/รุ่น | Sony WF1000XM4 |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 24 ชม. |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | – |
หูฟัง Sony รุ่นนี้เป็นตัวเลือกของ หูฟัง In-ear ที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการเลือกซื้อ และใช้งานในปัจจุบัน ทั้งจากการถูกออกแบบมาพร้อมรูปลักษณ์ สุดทันสมัย และสามารถสวมใส่เพื่อใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน ช่วยให้คุณสามารถรับชมคอนเทนต์หรือฟังเพลงที่ชื่นชอบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไปจนถึงความสามารถในการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะระบบตัดเสียงรบกวน ที่ได้ถูกติดตั้งมาให้ในตัวสินค้า
ข้อดี
✓ ระบบตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูง
✓ การใช้งานแบบไร้สาย
✓ ขนาดกะทัดรัดสามารถสวมใส่ได้กระชับและสบาย
ข้อเสีย
✘ ไระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องในหนึ่งรอบการชาร์จไม่ยาวนานมากนัก
3. Apple AirPods Pro Gen2
★★★★★
หูฟังไร้สาย จากแบรนด์ Apple ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการใช้งานของคนทุกกลุ่ม
ยี่ห้อ/รุ่น | Apple AirPods Pro Gen2 |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | IPX4 |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 24 ชม |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | – |
หากกล่าวถึงตัวเลือกของ หูฟัง ที่ได้รับความนิยม อย่างมากในปัจจุบัน หลายคนจะต้องนึกถึงสินค้าจากแบรนด์ Apple ได้เป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน จะประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงในทุกรุ่น และรูปลักษณ์การออกแบบโดยรวม ที่ให้ความรู้สึกดูสวยงามและล้ำสมัย โดยเฉพาะเรื่องของความสามารถในการตัดเสียงรบกวน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ หูฟัง Apple AirPods มีความน่าสนใจ สำหรับเรื่องของดีไซน์การออกแบบจะดูมีความกะทัดรัด ทำให้สวมใส่ได้อย่างกระชับมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา ให้กับตัวอุปกรณ์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
✓ มาตรฐานการกันน้ำระดับสูง
✓ ดีไซน์การออกแบบสวยงามล้ำสมัย
✓ ขนาดกะทัดรัดสวมใส่ได้สบาย
ข้อเสีย
✘ ระยะเวลาการใช้งานในหนึ่งรอบการชาร์จไม่ยาวนานมากนัก
4. Sennheiser Momentum True Wireless 3
★★★★★
หูฟัง In ear ที่มาพร้อมดีไซน์ สุดหรูหรา และระยะเวลารับประกันที่ยาวนานตลอด 2 ปี
ยี่ห้อ/รุ่น | Sennheiser Momentum True Wireless 3 |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | IPX4 |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 28 ชม |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | 2 ปี |
Sennheiser Momentum True Wireless 3 เป็น หูฟัง สุดหรูหรา พร้อมฟังก์ชันสุดทันสมัย ที่น่าสนใจในการเลือกใช้งานอย่างมาก เมื่อเทียบกันกับตัวเลือกของหูฟังแบบอินเอียร์จาหลาย ๆ แบรนด์ เนื่องจากถูกจัดเต็มประสิทธิภาพาการทำงานด้านเสียงมาให้อย่างคุ้มค่า ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องทำได้อย่างมีคุณภาพ และเพิ่มความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในระยะยาวให้ได้มากยิ่งขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญนอกจากจะมีสเปกการใช้งาน และรูปลักษณ์การออกแบบที่น่าสนใจแล้ว ทางแบรนด์ก็ยังได้มีการแถมการรับประกันมาให้ในตัวสินค้า ซึ่งจะครอบคลุมได้ยาวนานสูงสุดตลอด 2 ปีเลยทีเดียว
ข้อดี
✓ ดีไซน์การออกแบบหรูหรา
✓ ระบบตัดเสียงนบกวนที่มีประสิทธิภาพ
✓ มาตรฐานการกันน้ำระดับสูง
ข้อเสีย
✘ ขนาดของเคสชาร์จค่อนข้างใหญ่
5. Samsung Galaxy Buds Live
★★★★★
หูฟัง รุ่นขนาดเล็กกะทัดรัด ที่ตอบโจทย์การพกพาและใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและคล่องตัว
ยี่ห้อ/รุ่น | Samsung Galaxy Buds+ |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | ต่อเนื่อง 21 ชม. |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | 1 ปี |
Samsung Galaxy Buds Live จัดเป็น หูฟัง ที่ตอบโจทย์การพกพาและใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว จากขนาดโดยรวมของสินค้าที่มีความกะทัดรัด และน้ำหนักโดยรวมที่ไม่มากจนเกินไปของตัวเคส รวมไปถึงยังสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย ด้วยการดีไซน์ตัวหูฟังมาให้เข้ากับรูหูได้อย่างลงตัวอีกด้วย สำหรับการทำงานในภาพรวมของเสียง ก็ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งมาให้ภายใน ในขณะที่อีกหนึ่งความน่าสนใจของสินค้าตัวนี้ ก็ยังจะมีในเรื่องของรูปแบบสี ที่มีออกมาให้สามารถเลือกซื้อได้มากสุดถึง 3 รูปแบบด้วยเช่นกัน
ข้อดี
✓ รูปแบบสีของสินค้าที่มีให้เลือกได้หลากหลาย
✓ น้ำหนักเบาสามารถใส่ใช้งานได้อย่างยาวนาน
✓ ระยะเวลาการใช้งานในหนึ่งรอบเคสชาร์จที่ค่อนข้างยาวนาน
ข้อเสีย
✘ ระยะเวลาการใช้งานร่วมกันกับเคสชาร์จที่ค่อนข้างต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ
6. JBL Endurance Jump
★★★★★
หูฟังไร้สาย ที่ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกาย
ยี่ห้อ/รุ่น | JBL Endurance Jump |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | IPX7 |
ระยะใช้งาน | 8 ชม. |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | 1 ปี |
JBL Endurance Jump เป็นหนึ่งใน หูฟังไร้ สายซีรีย์ Endurance ที่มีดีไซน์ที่คล้ายกัน แต่จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น Jump จะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายที่ต้องกระโดดและมีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว
เหมาะกับการออกกำลังกายด้วยการเต้น และท่ากายบริหารแบบคาร์ดิโอ โดยมีสายคล้องบริเวณท้ายทอยซึ่งหนาและแข็งกว่ารุ่นอื่น ๆ ช่วยยึดหูฟังอีกชั้นหนึ่ง
พร้อมขาหูฟังแบบ PowerHook™ ที่มีฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่อสวมใส่หรือถอดออก พร้อมด้วยคุณสมบัติกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จด่วนที่ทำให้ใช้งานได้นานถึง 1 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที 10 นาทีใช้งานได้ 1 ชั่วโมง คุณสมบัติต่างๆ นับว่าตอบโจทย์สายคาร์ดิโอมากๆ
7. Xiaomi Mi Redmi Airdots
★★★★★
หูฟังไร้สาย บลูทูธ หูฟังอัฉริยะ ฟังเพลง สนทนา สั่งการด้วยเสียง คุณภาพคุ้มเกินราคา
ยี่ห้อ/รุ่น | Xiaomi Mi Redmi Airdots |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | 3 ชม. |
การตัดเสียงรบกวน | มี |
ประกัน | 1 ปี |
Mi Redmi AirDotsดีไซน์ก็ออกแบบมาได้สวยงาม อีกทั้งตัวหูฟังยังมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป และน้ำหนักเบา สามารถสวมใส่เพื่อใช้งานแบบต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมงยังมีเคส กับตัว Earbud ให้เปลี่ยนตามขนาดของหูผู้ใช้หูฟังไร้สาย
Mi Redmi AirDots นั้นมีไมโครโฟนในตัวสามารถรับสายเพื่อพูดคุยกับสายเรียกเข้า หรือพูดเพื่อสั่งงาน Google Assistant หรือ Siri ได้ทันทีและด้วยความที่รองรับเทคโนโลยี DSP จึงช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ดี จึงสื่อสารกับปลายสายได้ค่อนข้างชัดเจนอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นในด้านของคุณภาพเสียงหูฟังไร้สาย
Mi Redmi AirDots ก็ทำออกมาได้ดี โทนเสียงที่ได้จะออกกลางๆ ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง ส่วนเสียงสูง หรือเสียงต่ำก็มีมาครบ สำหรับเสียงเบสออกโทนนุ่มๆ ไม่ได้แน่นมากนักสามารถใช้งานเพื่อฟังเพลงได้ทุกแนว เช่น POP, Rock หรือ EDM ได้
8. Sennheiser New cx 80s
★★★★★
หูฟังแบบมีสายที่มาพร้อมรายละเอียดการใช้งานสุดคุ้มค่าในงบประมาณไม่เกิน 1,000 บาท
ยี่ห้อ/รุ่น | Sennheiser New cx 80s |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | – |
การตัดเสียงรบกวน | – |
ประกัน | – |
ต่อมาเป็น หูฟังแบบมีสาย เชื่อมต่อที่ถูกผลิตขึ้นมาจากทาง Sennheiser ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับ คนที่กำลังมองหา หูฟัง In ear แบบมีสาย ในช่วง ราค าไม่เกิน 1,000 บาทมาไว้ในการใช้งาน สำหรับในด้านของดีไซน์การออกแบบ จะค่อนข้างมีความคลาสสิกตามสไตล์ของหูฟังมีสายแบบดั้งเดิม แต่จะถูกตกแต่งและจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ให้มีความทันสมัยและหรูหราตามสไตล์ของแบรนด์มากยิ่งขึ้น ส่วนในเรื่องของการทำงานระบบเสียง ก็ยังรองรับการแสดงผลผ่านอุปกรณ์หลักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเปลี่ยนขนาดของจุกหูฟัง ให้เหมาะสมกับหูของแต่ละคนได้อย่างหลากหลายด้วยในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
✓ สามารถเปลี่ยนขนาดของจุกหูฟังได้หลากหลาย
✓ ขนาดเล็กและน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
✓ ไม่จำเป็นจะต้องชาร์จแบตเตอรี่ในการใช้งาน
ข้อเสีย
✘ ไม่รองรับมาตรฐานการกันน้ำ
9. KZ ZST
★★★★★
หูฟัง อินเอียร์ 2 ไดรเวอร์ ในตัวแบบไฮบริด ถอดเปลี่ยนสายเพื่ออัพเกรดได้ ให้เสียงชัดใสและเบสที่หนักแน่น
ยี่ห้อ/รุ่น | KZ ZST |
ประเภทหูฟัง | – |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | – |
การตัดเสียงรบกวน | – |
ประกัน | 3 เดือน |
ตัวหูฟัง KZ ZST ราคาอยู่ในระดับที่เรียกว่า กระเป๋าเงินรักเลย พอนำมาเทียบกับคุณภาพเสียงที่ได้รับแล้ว บอกได้เลยว่าเหมาะกับทุกคน เพราะว่าไม่ว่าใครก็สามารถจับจองเจ้าหูฟังเกินราคาตัวนี้มาเป็นเจ้าของได้ทั้งสิ้น
เท่านั้นยังไม่พอ ZST ยังตอบโจทย์ด้วยการมีไมค์สำหรับใช้รับสายโทรศัพท์ได้อีกด้วย ช่วยให้ไม่เสียอรรถรสเวลาเสียบหูฟังแล้วต้องถอดออกเพื่อรับสายโทรศัพท์ใดๆ ดังนั้นใครที่มองหาหูฟังที่ให้คุณภาพเทียบเท่าหูฟังราคาหลัก 2 พันขึ้นไป แต่มาในราคาไม่ถึงพัน ถอดเปลี่ยนสายได้ พร้อมไมค์ในตัวแล้วละก็ KZ ZST with Mic ตัวนี้จะต้องอยู่ในตัวเลือกแรกอย่างแน่นอน
10. JBL C150SI in-Ear Earphone
★★★★★
คุณภาพเสียงทรงพลัง และมีประสิทธิภาพตามสไตล์ JBLหูฟัง
ยี่ห้อ/รุ่น | JBL C150SI in-Ear Earphone |
ประเภทหูฟัง | In-Ear |
กันน้ำ | – |
ระยะใช้งาน | – |
การตัดเสียงรบกวน | – |
ประกัน | 1 ปี |
หูฟัง จาก JBL ที่ให้คุณสัมผัส ถึงเสียงเบสอันทรงพลัง และมีคุณภาพ ออกแบบให้มีขนาดและน้ำหนักเบา สวมใส่สบายได้ตลอดทั้งวัน ให้พลังเสียงมหาศาลด้วย ไดรฟ์เวอร์แบบ 9 mm ให้คุณเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงและเสียงเพลง
มาพร้อม ไมค์ในตัว ที่ให้คุณไม่พลาดทุกการสนทนา ให้คุณภาพเสียงที่ดี ชัดเจน และมีความเป็นส่วนตัวสูง ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นของวัสดุและจัดเก็บได้โดยที่สายไม่หักงอง่าย ควบคุมการทำงานได้ทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นระบบ Androids หรือ iOS
วิธีการเลือกซื้อหูฟัง
9 วิธีการเลือกซื้อหูฟัง
ปริมาณของแบตเตอรี่
หูฟังแบบไร้สาย จะมีเคสสำหรับเก็บหูฟังที่สามารถชาร์จพลังงานได้ด้วย เป็นเหมือน Power Bank ของตัวหูฟังนั้นเอง เพียงแค่ใส่หูฟังลงไปในเคส เท่านี้ก็ถือว่าได้ชาร์จไฟให้กับตัวหูฟังแล้ว โดยที่เคสส่วนใหญ่จะสามารถชาร์จไฟได้นาน 10-20 ชั่วโมง แล้วแต่แบรนด์
ดังนั้น ถ้าพกหูฟังและเคสไปพร้อมกัน จะสามารถฟังเพลงได้นานถึงเกือบ ๆ วันหรือมากกว่า 1 วัน โดยทั่วไปแล้วปริมาณแบตเตอรี่ของหูฟังแบบไร้สายของทุกแบรนด์นั้นก็ให้มาเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่ใช้งานหูฟังแบบหนักหน่วง ให้เลือกหูฟังของแบรนด์ที่มีค่าปริมาณแบตเตอรี่ที่มากแล้วสามารถทำงานได้หลายชั่วโมง
คุณภาพของเสียง
แน่นอนว่า หากตัดสินใจซื้อหูฟังมาก็ย่อมต้องการคุณภาพเสียงที่ดี คุณภาพเสียงของหูฟังจะขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
- การเชื่อมต่อ Bluetooth
Bluetooth เวอร์ชันสูง ๆ จะทำการเชื่อมสัญญาณได้ดีกว่าเวอร์ชันต่ำ ๆ ถ้าเคยฟังเพลงแล้วเสียงขาดหาย อาจเป็นเพราะการเชื่อมต่อไม่ดี แต่ในปัจจุบันทางผู้ผลิตส่วนใหญ่จะใช้ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 กันแล้ว โอกาสเสียงเพลงติด ๆ ดับ ๆ ก็มีโอกาสเกิดได้น้อยลง - ค่าโอนถ่ายปริมาณข้อมูลเสียงไปมาระหว่างกันต่อวินาที หรือที่เรียกกันว่า Bit-rate มีหน่วยวัดเป็น kbps หรือ mbps
การที่ Bit-rate มากย่อมแสดงว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลปริมาณเสียงได้มาก ทำให้ส่งถ่ายข้อมูลเสียงได้ครบระหว่างหูฟังและมือถือ ถ้าเสียงมาไม่ครบจะเกิดอาการที่เขาชอบเรียกกันว่า เพลงติด ๆ ดับ ๆ ครับ โดยที่การเชื่อมต่อสัญญาณนี้ จะเรียกกันว่า Bluetooth Codec ซึ่งจะมี 5 แบบด้วยกัน นั้นก็คือ SBC, AAC, aptX, aptX HD และ LDAC หูฟังและมือถือของแต่ละแบรนด์ก็จะสนับสนุนตัว Bluetooth Codec แตกต่างกันไป เช่น หูฟัง Sony WF-1000XM3 จะสนับสนุนเสียงแบบ SBC และ AAC เป็นต้น
สำหรับแบบ SBC เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่ไม่ต้องการความพิเศษอะไรมาก คุณภาพเสียงตามมาตรฐาน
ส่วนแบบ AAC การเชื่อมต่อแบบนี้มี Bit-rate ที่ 250 kbps คุณภาพเสียงคล้าย ๆ กับระบบ MP3
aptX และ aptX HD สองตัวนี้จะคล้ายกัน แต่ aptX HD จะเป็นตัวที่พัฒนามาจาก aptX ให้ค่า Bit-rate ที่ดีกว่า ทำให้คุณภาพเสียงและการเชื่อมต่อที่ดีกว่า และตัว aptX HD นี่เอง เป็นแบบที่ทางทีมงานแนะนำให้ทุกคนเลือกซื้อมากที่สุด เพื่อการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพเสียงที่ดี
สุดท้ายแบบ LDAC ตัวนี้ คุณภาพเสียงดีกว่าสี่แบบแรก และถึงหาได้ ราคาของหูฟังก็จะแพงมาก อาจไม่เหมาะกับการใช้ทั่วไป เหมาะกับมืออาชีพมากกว่าเนื่องด้วยระบบเสียงและราคาที่ค่อนข้างสูง
การตอบสนองความถี่ หรือ Frequency Response
- มีระบบป้องกันการสั่นสะเทือน ยิ่งมือใหม่ด้วยแล้วโหมดนี้มีความสำคัญอย่างมาก ระบบสั่นที่แนะนำคือระบบสั่นแบบ 5 แกน (5-Axis)ภาพที่ได้จะคมชัดเหมือนจริง ไม่สั่น ไม่เบลอ คมชัด
- เลือกกล้องที่โหมดภาพอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้ดีเหมือนช่างภาพมืออาชีพถ่าย โหมดนี้มีความสำคัญเช่นกันโดยเฉพาะมือใหม่หัดถ่าย คุณจะไม่ต้องเสียเวลาเพียงแค่กดชัตเตอร์ก็ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม สะดวก รวดเร็ว โหมด Portrait สำหรับถ่ายคน Scenery สำหรับถ่ายวิว โหมดหน้าเนียนที่ขาดไม่ได้สำหรับสายเซลฟี่ และโหมดต่างๆอีกมากมายก็เลือกแบบที่ชอบได้เลยคะ
เลือกกล้องที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างได้ง่าย
โดยส่วนใหญ่ Wireless แบบไร้สายจะระบุไว้เลยว่า สามารถปล่อยความถี่ได้ที่ 20-20,000 Hz ซึ่งถือว่าครบถ้วนแล้ว แต่ก็จะมีหูฟังบางรุ่น อาจจะระบุว่า สามารถทำความถี่ได้มากกว่าช่วงนี้ เช่น 20-40,000 Hz อาจจะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกินไป ถือว่าไม่จำเป็นเลย และถ้าอยากได้เสียงเบสที่ลงลึก ให้เลือกหูฟังที่ตัวเลขทางซ้ายมือน้อย ๆ เลือกที่ค่าเริ่มต้นประมาณ 60-150 Hz จะดีที่สุด
Driver ของ หูฟัง
Driver คือ ชิ้นส่วนที่สำคัญมากที่สุดในหูฟัง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้กลายเป็นเสียงที่พวกเราได้ยิน ได้ฟังกัน มีส่วนประกอบหลักคือ แม่เหล็ก, คอยน์เสียง, และไดอะแฟรม และส่วนประกอบอื่น ๆ
- ขนาดของ Driver
ขนาดของ Driver จะส่งผลต่อความดังของเสียง โดยที่ขนาดยิ่งใหญ่ ก็ให้เสียงดังได้มาก และเนื่องจากขนาดใหญ่นี่เอง ตัวไดอะแฟรมก็จะมีขนาดใหญ่ด้วย ส่งผลให้เสียงเบสมีความคมชัดมากกว่าขนาดเล็ก แต่ในด้านเสียงสูงกลับให้เสียงได้ไม่ดีเท่าไรนัก - จำนวนของ Driver
โดยทั่วไปหูฟังที่มีขนาดใหญ่ เช่น Headphone จะมีจำนวน Driver ที่ 4 หน่วย ในขณะที่หูฟังขนาดเล็กอาจจะมีแค่ 1-2 หน่วยเท่านั้น โดยที่หูฟังที่มี Driver จำนวนแค่ 1 หน่วย จะมีข้อจำกัดในการขับเสียงออกมา เสียงอาจจะคุณภาพไม่ดีพอ หรือไม่มีมิติมากพอ - ประเภทของ Driver
Driver มีหลายแบบ และส่วนใหญ่หูฟังไร้สาย จะมี Driver แบบ Dynamic เท่านั้น ซึ่งเป็นประเภทแบบพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไปในอุปกรณ์การกำเนิดเสียง ให้เสียงได้ในระดับมาตรฐาน
เลือกหูฟังแบบ In-ear Earbud หรือแบบ Classic Earbud ดี?
หูฟัง Wireless แบบไร้สายนั้น หลัก ๆ จะมีหูแค่สองประเภทเท่านั้น คือ แบบ In-ear และ แบบ Classic โดยที่แบบ In-ear จะเป็นหูฟังที่ยัดลงเข้าไปในรูหู จะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า กันเสียงรบกวนภายนอกได้มากกว่า มีสมาธิมากกว่าเวลาฟังเพลงหรือออกกำลังกาย
แต่ หูแบบ In-ear อาจจะทำให้เจ็บที่รูหูเวลายัดใส่เข้ารูหู และเวลาใส่ไปนาน ๆ อาจมีอาการปวดเกิดขึ้นได้เช่นกัน อีกแบบคือแบบ Classic จะเป็นแบบห้อยวางไว้ตรงหูพอดี ไม่ได้ใส่เข้าไปในรูหูเหมือนแบบ in-ear ข้อดีคือ ไม่เจ็บหู ใส่ไปนาน ๆ แล้วสบายหูกว่า แต่อาจจะได้ยินเสียงรบกวนภายนอกมากกว่า และคุณภาพเสียงไม่เท่าอินเอียร์
เลือกจากคุณสมบัติของหูฟัง
คุณสมบัติของตัวหูฟังเองก็เป็นอีกส่วนที่ควรดูก่อนทำการซื้อ โดยดูที่ว่าตัวหูฟังมีคุณสมบัติและทำอะไรได้บ้าง เช่น การกันน้ำ โดยที่การกันน้ำของหูฟัง จะระบุเป็นค่า IPX โดยเริ่มตั้งแต่ค่า 0 ไปจนถึง 8 โดยที่ค่ายิ่งมากยิ่งสามารถกันน้ำได้ดี
ถ้าคุณเป็นคนชอบออกกำลังกายและชอบฟังเพลงไปด้วย ควรเลือกหูฟังที่มีค่า IPX ที่ 4 หรือ 5 ขึ้นไป เพราะแค่ระดับนี้ก็สามารถกันเหงื่อและกันละอองฝนได้ดีมากแล้ว หูฟังบ้างแบรนด์สามารถกดรับสาย โทรออก ปรับลดเพิ่มเสียง เล่นเพลงเลื่อนไปข้างหน้าหรือย้อนหลัง ได้เลยโดยตรงที่หูฟัง ซึ่งช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น
เลือกหูฟังจากการออกแบบสวยงาม
สิ่งของถูกออกแบบเพื่อความสวยงามและน่ามองแล้ว ยังสามารถสร้างเอกลักษณ์ตัวตนของผู้ใช้ได้ด้วย ขึ้นกับ
รสนิยมของแต่ละคนเช่นกัน ดังนั้น นอกจากเลือกซื้อเพื่อมีระบบฟังก์ชั่นที่สะดวกแล้ว อย่าลืม เลือกซื้อหูฟังที่ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร หรือตามสไตล์ที่เราชอบด้วย
เลือกหูฟังจากความสบายเมื่อสวมใส่
หูฟังสายมีมาตรฐานการออกแบบเหมือนกันทั้งสิ้น แต่เราไม่ได้ถูกออกแบบมาเหมือนกัน ทั้งใบหน้า
ผู้ผลิตต่างพยายามสร้างสินค้าให้ตรงกับโครงหน้ามนุษย์มากขึ้น และคงไม่มีใครชอบที่จะสวมใส่สินค้าที่ไม่เหมาะกับใบหน้า และอาจทำให้ระคายเคือง ราต้องการความสบาย ดังนั้น ทดลองสวมใส่หูฟังก่อน ไม่ควรเลือกซื้อกรณีสวมใส่รู้สึกเจ็บและอึดอัด
เลือกหูฟังจากการรับประกัน
สินค้าไอที ต้องมีประกันที่ สามารถส่งช่อมได้ หูฟังบลูทูธเป็นสินค้าถ้าเกิดชํารุดเราควรส่งของช่อมบํารุง บางครั้งอาจมีค่าบริการที่แพงแทบหูฉีก บางยี่ห้อไม่สามารถซ่อมได้ นั้นแหละแหตุผลการมีประกันจึงสําคัญอย่างมาก สินค้าพวกนี้ต้องมีประกัน 6 เดือน – 2 ปี เลยทีเดียว ทำให้ไม่เสียเงินเกินจำเป็น
บทสรุป
สำหรับ หูฟัง in ear และ หูฟังบลูทูธ ที่เรานำมาเสนอวันนี้มีหลากหลายสเปคและราคาให้ได้เลือกใช้ อย่าลืมว่าการเลือกซื้อหูฟังสักอันต้องคำนึงถึงการใช้งานและประกัน นอกจากนี้งบประมาณในกระเป๋าก็สำคัญเอามาก ๆ จากรีวิวที่เรานำมาเพื่อนอาจได้สินค้าในใจกันแล้ว ไม่ว่าจะส่ดูหนัง ฟังเพลงตอนออกกำลังกาย หูฟังไวเลสนี่ตอบโจทย์มากๆเลยทีเดียว