10 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023
ด้วยสภาพอากาศที่ยอดแย่ในแต่ละวันและทุกๆวันคุณจะต้องออกไปเผชิญกับมันในทุกๆเช้า นับว่าก็จะยิ่งทำให้สภาพร่างกายของคุณนั้นแย่ลงทุกวัน การเดินทางในโดยรถยนต์ส่วนตัวที่ดูเหมือนจะมีความปลอดภัยแต่มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดอีกต่อไป เมื่อการจราจรติดขัดคุณจะต้องเจอกับค่าฝุ่นที่เกินมาตรฐานนั่นคือ ฝุ่นPM 2.5 ที่เป็นค่าฝุ่นควันพิษร้ายทำลายร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีมลพิษจากควันรถยนต์ ควันบุหรี่ และอื่นๆอีกมากมาย คิดดูสิว่าหากคุณติดสัก 1 ชั่วโมงโดยไปไหนไม่ได้นอกจากนั่งสูดควันไม่นานร่างกายของคุณและคนที่คุณรักก็จะทรุดโทรมอย่างแน่นอน แต่หากหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อันเลวร้ายต่างเหล่านี้ไม่ได้ มีทางเดียวก็คือต้องเผชิญกับมันและอาวุธที่จะสามารถต่อสู้กับควันพิษต่างๆได้นั้น ก็คือ เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศในรถยนต์ นั่นเอง เครื่องฟอกอากาศ หรือ เครื่องกรองอากาศในรถยนต์ นั้น เป็นอุปกรณ์ที่คนเมืองสมควรมีอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะคนในเมืองโดยเฉพาะเมืองที่มีรถติดมากๆ ต้องเจอฝุ่นควันทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมี เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 ก็เป็นสิ่งสำคัญ และในบทความนี้เราได้รวบรวมวิธีเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รวมถึง เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ 10 ยี่ห้อที่ได้รับการการันตีว่ามียอดขายที่ดีและคุณภาพน่าเชื่อถือมาฝากทุกท่าน
10 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023
- Electrolux EP31-15GYA
- Philips GoPure Compact 100
- CONOCO S1
- Bwell G8
- Innovy Car Air Purifier
- HAFELE Car Air Purifier
- AUGIENB Car Air Purifier
- Anitech SCAP-02
- Xiaomi SmartMi Car Air Purifier
- Gmax Car Air Purifier
1. Electrolux EP31-15GYA
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จากแบรนด์ Electrolus ที่มาพร้อมระบบการกรอง 4 ขั้นตอนและ IonActive
ยี่ห้อ/รุ่น | Electrolux EP31-15GYA |
น้ำหนัก | 540 กรัม |
ขนาด | 200 * 116 * 106 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | – |
รุ่นแรกเป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในรถยนต์ พร้อมประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมระดับสูง ส่งผลให้สามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างครอบคลุม ในทุกมุมของพื้นที่ที่เปิดใช้งานตัวเครื่อง ด้วยการทำงานของมอเตอร์ที่ยอดเยี่ยม และระบบการกรองอากาศแบบ 4 ขั้นตอน ที่เมื่อทำงานร่วมกันกับระดับบ IonActive แล้ว จะทำให้ความสามารถในการดักจับสิ่งสกปรก เพิ่มขึ้นมาได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้อดี
✓ การดักจับฝุ่นแบบ 4 ขั้นตอน
✓ การรับประกันสินค้าตลอด 2 ปี
✓ ช่องสำหรับการใส่น้ำมันหอมระเหย
ข้อเสีย
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร
2. SHARP IG-NX2B
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศรุ่นขนาดพกพา ที่มาพร้อมตัวเลือกสีให้สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ
ยี่ห้อ/รุ่น | SHARP IG-NX2B |
น้ำหนัก | 295 กรัม |
ขนาด | 78 * 162 * 55 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | CADR ถึง 3.6 ลบ.ม./ชม. |
SHARP IG-NX2B เป็นตัวเลือกของสินค้าที่ค่อนข้างมีความหลากหลาย ให้เราสามารถเลือกใช้งานตามความชื่นชอบได้พอสมควร จากการถูกออกแบบรูปแบบของสี มาให้เราสามารถพบเห็นได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ประกอบด้วย สีดำ, สีขาว และสีเขียวมิ้น โดยในด้านของประสิทธิภาพการจัดการสิ่งสกปรก จะสามารถรองรับการจัดการกับฝุ่นหรือมลภาวะภายในรถยนต์ได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในขนาดพื้นที่สูงสุดที่ระดับ 3.6 ตารางเมตร
ข้อดี
✓ สามารถใช้งานกับรถยนต์ทุกขนาดได้เป็นอย่างดี
✓ ตัวเลือกสีของสินค้าที่หลากหลาย
✓ ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ภายในตัวสินค้า
ข้อเสีย
✘ อาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กว้างเท่าไหร่นัก
3. CONOCO S1
★★★★★
เครื่องฟอกอากาศสำหรับการใช้งานในรถยนต์ ที่ถูกออกแบบมาพร้อมขนาดเล็กกะทัดรัดจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
ยี่ห้อ/รุ่น | CONOCO S1 |
น้ำหนัก | 600 กรัม |
ขนาด | 225 * 150 * 58 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | CADR ถึง 21-30 ลบ.ม./ชม. |
รุ่นนี้เป็นตัวเลือกของอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมา ให้คุณสามารถจัดวางและใช้งานได้อย่างประหยัดพื้นที่ และตอบโจทย์การใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดีกับรถยนต์ทุกขนาดและประเภท ซึ่งในส่วนของการใช้เพื่อจัดการุ่น รุ่นนี้จะเลือกใช้งานแผ่นกรองแบบ HEPA Filter 3M และมีการผลิตออกมาจากได้มาตรฐานของเยอรมณี ดังนั้น ทั้งในด้านของการใช้งานไปจนถึงการจัดวางอย่างต่อเนื่อง เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ตัวนี้ ก็นับว่าสามารถทำได้ดีอย่างไร้ที่ติแน่นอน
ข้อดี
✓ การใช้งานแผ่นกรอง HEPA filter 3M
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
✓ สามารถเชื่อมต่อกับช่องเสียบบุหรี่ในรถยนต์ได้
ข้อเสีย
✘ น้ำหนักโดยรวมค่อนข้างสูงพอสมควร
4. Bwell G8
★★★★☆
เครื่องกรองแบบ 4 ขั้นสำหรับการใช้งานในรถยนต์ ที่สามารถจัดการกับเชื้อโรคและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
ยี่ห้อ/รุ่น | Bwell G8 |
น้ำหนัก | 300 กรัม |
ขนาด | 180 * 75 * 75 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | CADR ถึง 10 ลบ.ม./ชม. |
สำหรับรุ่นนี้เป็นตัวเลือกของเครื่องฟอกอากาศสำหรับการใช้งานในรถยนต์ พร้อมรายละเอียดการทำงานโดยรวมระดับมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ ได้ด้วยความรู้สึกที่สบายมากยิ่งขึ้น สำหรับเรื่องของสเปกการทำงานโดยรวมนั้น ก็ยกตัวอย่างเช่น การสร้างกำลังลมที่ระดับ 10 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง, แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2,600mAh, ระดับเสียงในการทำงาน 28 ถึง 45 เดซิเบล, การปรับระดับแรงลม 2 ระดับ และการใช้งานระบบกรองแบบ 4 ขั้นตอน เป็นต้น
ข้อดี
✓ การส่งออกระดับเสียงไม่ดังมากนัก
✓ ระบบการรองอากาศแบบ 4 ขั้นตอน
✓ ระยะเวลาการใช้งานค่อนข้างยาวนาน
ข้อเสีย
✘ กำลังในการสร้างแรงลมค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกันกับขนาด
5. Innovy Car Air Purifier
★★★★☆
อุปกรณ์ฟอกอากาศบริสุทธิ์ที่สามารถรองรับการจัดการมลภาวะได้ทั้งหมด 8 ชนิด
ยี่ห้อ/รุ่น | Innovy Car Air Purifier |
น้ำหนัก | – |
ขนาด | – |
การกรองอนุภาค | – |
Innovy Car Air Purifier เป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นขนาดเล็ก ที่จะช่วยให้คุณสามารถทำการจัดการกับปัญหามลภาวะต่าง ๆ ทั้งหมด 8 ชนิดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นไวรัส, สารก่อภูมิแพ้, ฝุ่น PM 2.5, ก๊าซพิษ, ควันบุหรี่, กลิ่นของสัตว์เลี้ยง, กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่เชื้อรา ด้วยการทำงานภายในที่มีประสิทธิภาพของตัวอุปกรณ์ ซึ่งถือว่าครอบคลุมการใช้งานของช่วงเวลานี้ได้อย่างดีในระดับที่เหมาะสมแล้ว
ข้อดี
✓ การจัดการกับมลภาวะ 8 ชนิด
✓ ระยะเวลาการรับประกันสินค้าตลอด 1 ปี
✓ สามารถใช้งานได้ทั้งภายในบ้านและรถยนต์
ข้อเสีย
✘ ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง
6. HAFELE Car Air Purifier
★★★☆☆
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จากแบรนด์ HAFELE ที่ครอบคลุมการทำงานได้ภายในพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 15 ตารางเมตร
ยี่ห้อ/รุ่น | HAFELE Car Air Purifier |
น้ำหนัก | – |
ขนาด | 212 * 136 * 66 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | CADR ถึง 30 ลบ.ม./ชม. |
ต่อมาเป็นสินค้าที่ถูกออกแบบมา ให้คุณสามารถใช้งานได้ทั้งภายในบ้านและรถยนต์ ด้วยการถูกออกแบบมาให้สามารถชาร์จได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จผ่านที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ หรือแม้แต่การใช้งานภายในบ้านทั่วไปก็ตาม โดยสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นและความน่าสนใจหลัก ๆ ของรุ่นนี้ จะมาจากการที่ตัวสินค้า มีการใช้งานระบบการกรองสิ่งสกปรกแบบ 7 ขั้นตอน และสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกันกับสินค้าหลาย ๆ รุ่นที่ผ่านมานั่นเอง
ข้อดี
✓ ระบบการกรองสิ่งสกปรกแบบ 7 ขั้นตอน
✓ สามารถใช้งานได้กับพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
✓ การเชื่อมต่อเพื่อชาร์จไฟ 2 รูปแบบ
ข้อเสีย
✘ ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง
7. MITSUTA MCA101
★★★★☆
เครื่องฟอกอากาศรุ่นขนาดพกพาจากแบรนด์ MITSUTA ที่มาพร้อมการออกแบบสุดทันสมัย และความแข็งแรงทนทานระดับสูง
ยี่ห้อ/รุ่น | MITSUTA MCA101 |
น้ำหนัก | 365 กรัม |
ขนาด | 72 * 72 * 180 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | – |
MITSUTA MCA101 คือ สินค้าที่ถูกออกแบบมาด้วยการเน้นรูปลักษณ์ภายนอก ให้เป็นไปในลักษณะที่มีความสวยงามและดูทันสมัย ทั้งจากการออกแบบส่วนประกอบต่าง ๆ โดยรวม ไปจนถึงการเล่นระบบการแสดงผลไฟในการทำงาน ที่อยู่บริเวณส่วนควบคุมด้านบนของตัวสินค้า ส่วนในเรื่องของระบบการทำงานภายใน ตัวสินค้าจะสามารถทำการกรองได้แบบ 4 ขั้นตอน และเลือกปรับระดับแรงลมได้ทั้งหมด 3 ระดับ ที่สำคัญยังใช้กำลังไฟฟ้าในระดับที่ต่ำเพียง 3 วัตต์เท่านั้นอีกด้วย
ข้อดี
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 3 วัตต์
✓ น้ำหนักโดยรวมค่อนข้างเบา
✓ ดีไซน์การออกแบบสวยงามทันสมัย
ข้อเสีย
✘ การกรองฝุ่นขนาดต่ำสุดที่ 0.3 ไมครอน
8. Anitech SCAP-02
★★★☆☆
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จากแบรนด์ Anitech ที่มาพร้อมระยะเวลาการรับประกันสินค้าตลอด 2 ปี
ยี่ห้อ/รุ่น | Anitech SCAP-02 |
น้ำหนัก | – |
ขนาด | – |
การกรองอนุภาค | – |
หากคุณกำลังมองหาสินค้ารุ่นระดับมาตรฐาน ที่สามารถใช้งานภายในรถยนต์ได้อย่างเหมาะสม รุ่นนี้จะถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย จากความสามารถในการรองรับการใช้งานกับพื้นที่ ที่มีขนาดโดยรวมประมาณ 5 ถึง 10 ตารางเมตร จากการทำงานภายในของตัวสินค้า โดยในภาพรวมของการใช้งาน จะสามารถถจัดการกับสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของฝุ่น หรือแม้แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ตัวสินค้าก็ยังได้ถูกออกแบบมา พร้อมการรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลาตอน 2 ปีเลยทีเดียว
ข้อดี
✓ ระยะเวลาการรับประกันสินค้าตลอด 2 ปี
✓ ขนาดพื้นที่ในการใช้งานค่อนข้างกว้าง
✓ ขนาดสินค้าค่อนข้างมีความเล็กกะทัดรัด
ข้อเสีย
✘ อาจไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดีมากนักเมื่อเทียบกันกับหลาย ๆ รุ่น
9. Xiaomi SmartMi Car Air Purifier
★★★★☆
อุปกรณ์กรองสิ่งสกปรกจากแบรนด์ Xiaomi ที่สามารถจัดการกับฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี
ยี่ห้อ/รุ่น | Xiaomi SmartMi Car Air Purifier |
น้ำหนัก | – |
ขนาด | 110 * 110 * 400 มิลลิเมตร |
การกรองอนุภาค | – |
Xiaomi SmartMi Car Air Purifier จัดเป็นตัวเลือกของสินค้าจากแบรนด์ Xiaomi ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับการใช้งานของผู้คนในปัจจุบัน เนื่องจากมีความสามารถในการจัดการกับฝุ่น ที่มีขนาดประมาณ 2.5 ไมครอนหรือที่เรียกกันว่าฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของรุ่นนี้ จะเป็นการถูกออกแบบตัวสายชาร์จ มาให้มีความยาวมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้การจัดวางสามารถทำได้อย่างยืดหยุ่น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป ก็ทำให้การจัดวางใช้พื้นที่ไม่มากเท่าไหร่นักด้วยในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
✓ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ในการจัดวางได้อย่างยืดหยุ่น
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ
✓ สามารถจัดการกับฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย
✘ ระดับเสียงในการทำงานค่อนข้างสูง
10. Gmax Car Air Purifier
★★★☆☆
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จากแบรนด์ Gmax ที่สามารถเปิดทำงานได้ด้วยระดับเสียงที่เบาเป็นพิเศษ
ยี่ห้อ/รุ่น | Gmax Car Air Purifier |
น้ำหนัก | 165 x 165 x 47 กรัม |
ขนาด | – |
การกรองอนุภาค | – |
สุดท้ายเป็นตัวเลือกของสินค้าจากแบรนด์ Gmax ที่สามารถพกพาและนำออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของการใช้งานภายในรถยนต์ หรือแม้แต่การใช้งานบนโต๊ะทำงาน โดยในระหว่างการเปิดทำงานในสถานที่ต่าง ๆ ตัวเครื่องจะใช้กำลังไฟฟ้าในระดับที่ต่ำเพียง 3 วัตต์ และมีระดับเสียงในระหว่างการฟอกอากาศ ที่อยู่ในระดับโดยรวมต่ำสุดเพียง 28 เดซิเบลเพียงเท่านั้น
ข้อดี
✓ การใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ
✓ ระดับเสียงในการทำงานไม่สูงมากนัก
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัด
ข้อเสีย
✘ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่
วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
เชื่อว่าหลายๆ คนอยากที่จะมองหา เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่นไหนดี เพื่อมาใช้ในรถ แล้วเราควรจะเลือกอย่างไรให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพจากแบรนด์ขายดีที่จะช่วยตอบโจทย์ด้านการใช้งานให้คุณมากที่สุด เราได้รวบรวม วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ มาเป็นแนวทางสำหรับการซื้อให้คุณได้รับเครื่องฟอกอากาศที่คุ้มค่าและดีที่สุดกัน
7 วิธีการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
เลือกจากชนิดของ เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่พบใหญ่จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ เครื่องฟอกอากาศแบบสร้างไอออนและเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ไส้กรองอากาศ
- เครื่องฟอกอากาศแบบปล่อยไอออน
เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้ มีคุณสมบัติที่สามารถกำจัดกลิ่น อย่างเช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ อย่างเช่น เทคโนโลยี Plasmacluster ที่นอกจากกรองฝุ่นแล้วยังไม่ทำให้ผิวแห้งเสียอีกด้วย - เครื่องฟอกอากาศแบบใช้ไส้กรองหรือฟิลเตอร์
เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเกสรดอกไม้ ฝุ่นควันPM2.5 เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้จะต้องใช้ไส้กรองในเครื่อง ไส้กรองที่นิยมคือ HEPA Filter (High Efficiency Particulate Air Filter) ซึ่งเป็นไส้กรองที่มีประสิทธิภาพในการกรองที่ดีที่สุด ดักจับฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาด 0.30 ไมครอนหรือขนาดเล็กเพียง 0.0003 mm ได้และมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสูงถึง 99.97% นอกจากไส้กรอง HEPA Filter แล้วเครื่องกรองอากาศบางรุ่นยังมีไส้กรองคาร์บอนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในรถยนต์ได้อีกด้วย
เลือก เครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถติดตั้งได้ง่าย
ตำแหน่งในการติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ก็มีความสำคัญ เช่นกัน เพื่อสะดวกในการใช้งานกรองอากาศได้อย่างทั่วถึงทั้งรถโดยไม่กีดขวางการขับรถ เครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถใช้งานโดยการเสียบที่บริเวณที่จุดบุหรี่ หรือเสียบกับช่องแอร์ การติดตั้งก็จะไม่ได้ยุ่งยากแต่การย้ายตำแหน่งอาจทำได้ยากเนื่องจากได้กำหนดตำแหน่งไว้แล้ว ตำแหน่งที่นิยมวางเครื่องฟอกอากาศเช่นคอนโทรลหน้า ทางวางแก้ว ที่วางแขนหรือเบาะรถด้านหลังจะมีสายสำหรับรัดเครื่องแถมมาให้ด้วย นอกจากนี้หากให้ดีควรสามารถที่จะใช้ฟอกอากาศได้หลากหลายทั้งในรถยนต์และในบ้านได้
การชาร์จไฟ
เครื่องฟอกอากาศนั้นมีทั้งแบบชาร์จไฟกับที่จุดบุหรี่และชาร์จโดยการเสียบสาย USB ดังนั้นต้องดูว่ารถของคุณสามารถใช้งานได้กับที่ชาร์จแบบใด แต่หากไม่มีอย่างใดอย่างหนึ่งก็สามารถที่จะซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้เช่นกัน
การออกแบบ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์นั้นส่วนใหญ่ที่เห็นบ่อยๆก็จะมีอยู่ 2 รูปแบบคือแบบทรงกลมและแบบทรงเหลี่ยม การออกแบบอาจจะใช้วัสดุอย่างเช่น พลาสติก หรืออลูมิเนียม สีสันก็แตกต่างกันออกไป การเลือกซ้อก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและขนาดพื้นที่ที่ต้องการจะจัดวางอุปกรณ์
ระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศชนิดที่ใช้ไส้กรอง การเลือกซื้อควรดูระยะเวลาใช้งานของไส้กรอง เลือกเครื่องที่สามารถซื้อไส้กรองได้ง่าย และควรตรวจสอบคุณภาพของไส้กรองอยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศและเพื่อให้คุณได้รับอากาศที่ดีอยู่เสมอนั่นเอง
ราคาของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศมีหลายยี่ห้อ หลายราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งาน หากเทียบกับคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณและครอบครัว
บทสรุป
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ นั้นมีหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติที่ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ การเลือกเครื่องฟอกอากาศคุณสามารถดูได้จากแนวทางที่เราได้ให้ความรู้ไว้ด้านบน และเราขอแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือร่างกายมีความอ่อนไหวต่อควันฝุ่นให้เลือกใช้เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เพราะเครื่องฟอกอากาศจะสามารถป้องกันควันฝุ่นให้คนที่คุณรักได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดเวลา