10 โปรเจคเตอร์ ( Projector ) ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
โปรเจคเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกันกับหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ ซึ่งจะมีหน้าที่ในการแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังทำงานอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC แล็ปท็อป หรือแม้แต่ ทีวี ของคุณ ไปยังพื้นผิวต่าง ๆ ที่คุณต้องการจะฉายไปได้แบบอิสระ ไม่ว่าจะเป็นเพดานห้อง ผนังห้อง ไปจนถึงแบ็คกราวด์ประเภทต่าง ๆ ที่สำคัญยังเลือกปรับขนาด ซูมเข้า-ออก และปรับแต่งความคมชัดได้ตามต้องการอีกด้วย ส่งผลให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานนับว่าค่อนข้างมีมากกว่าอุปกรณ์แสดงผลประเภทอื่น ๆ และมักเป็นที่นิยมในการใช้งานภายในสถานที่กว้าง
เพื่อรองรับการใช้งานของคนจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ห้องประชุม หอประชุม หรือสถานที่จัดสัมมนามากกว่าการใช้งานเฉพาะบุคคล แต่ในยุคปัจจุบันที่อุปกรณ์ตัวดังกล่าวค่อนข้างมีตัวเลือกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของระดับ ราคา ฟังก์ชันการใช้งาน ไปจนกระทั่งการพกพาที่ทำได้ง่ายจากน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดของตัวเครื่อง เป็นผลให้มีผู้ใช้งานมากมายที่เลือก ซื้อ โปรเจคเตอร์ มาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประจำบ้าน สำหรับใช้ในการ รับชมภาพยนตร์ หรือ ในการทำงาน และหากสิ่งที่เราจะได้กล่าวไปในข้างต้นเริ่มทำให้คุณสนใจในตัวอุปกรณ์ชนิดนี้เพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว วันนี้เราได้รวบรวม 10 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023 ที่น่าสนใจ มาให้คุณได้ลองเลือก ซื้อในด้านล่างนี้เรียบร้อยแล้วครับ
10 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023
- Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector
- PROJECTOR RD806 LED 2800 Lumens
- WIFI Projector P8
- Halo LED Troprecis-T6
- Mirval Y8a
- OWLENZ SD150
- SOTIAY HD 3d WIFI
- LEJIADA 802
- Nanotech UC46 PLUS
- Mini YG300 LCD Projector
1. Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector
★★★★★
โปรเจคเตอร์ ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการ พกพา สามารถแสดงผลวิดีโอได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยความละเอียดระดับ Full HD และระบบการแสดงผล HDR10
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi Mijia Smart Compact DLP Office Conference Projector |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1 ถึง 4 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 11.5 x 15 x 15 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.3 กิโลกรัม |
สำหรับรุ่นแรกเป็นโปรเจคเตอร์ขนาดเล็กเหมาะกับ การพกพา ที่มาพร้อมดีไซน์สุดทันสมัยและคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้งานตัวอุปกรณ์ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยประสิทธิภาพในการแสดงผลสูงสุดระดับ Full HD ที่ทำให้ฉายวิดีโอได้แบบมีคุณภาพด้วยวิดีโอไดนามิกแบบ HDR10 ช่วยเพิ่มความสมจริงได้มากขึ้นสำหรับวิดีโอที่แสดง สามารถควบคุมการสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆได้ง่ายดายผ่านการใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียง
รวมไปถึงยังมีรีโมทคอนโทรล สำหรับควบคุมการทำงานของตัวเครื่อง ที่ใช้งานได้ง่ายจากปุ่มกดขนาดกำลังดีและมีรูปแบบในการสั่งการครบครันในเวลาเดียวกัน โดยในด้านของประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมก็นับว่าทำได้อย่างเยี่ยม จากระยะในการฉายภาพที่ทำได้อย่างเหมาะสมในช่วง 1 ถึง 4 เมตร ลำโพงกระจายเสียงขนาดใหญ่ที่รองรับระบบเสียง Dolby ระบบโฟกัสอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานตัวเครื่อง และช่อง Optical RGB ที่ทำงานร่วมกับ BP 4 ช่อง
ซึ่งช่วยเพิ่มความสว่างในการทำงานได้อีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนอัจฉริยะเสียงรบกวนต่ำ ที่จะมีเสียงในการทำงานของตัวเครื่องเพียง 30 เดซิเบลอีกด้วย ส่งผลให้ตัวเครื่องค่อนข้างมีความเหมาะสมกับผู้ใช้งานภายในบ้านทั่วไป ที่มีห้องขนาดเล็กมากกว่าการใช้ภายในสำนักงานเพื่อการประชุม เนื่องจากน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาเคลื่อนย้ายสะดวก และขนาดตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป จึงทำให้ projector พกพา เครื่องนี้ เคลื่อนย้ายและจัดวางตัวเครื่องได้แบบอิสระ แต่ก็ยังคงไม่เหมาะกับห้องประชุมที่จำเป็นต้องติดตั้งบริเวณเพดานห้อง เพื่อลดพื้นที่ในการจัดวางให้มากที่สุดนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ ระบบโฟกัสอัตโนมัติ
✓ การแสดงผลสิดีโอแบบ HDR10
✓ ระบบระบายความร้อนเสียงรบกวนต่ำ
ข้อเสีย
✘ ไม่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
2. Projector RD806 LED 2800 Lumens
★★★★★
Projector ความละเอียด Full HD ที่แสดงผลสีได้อย่างสวยงามไม่ผิดเพี้ยน จากเทคโนโลยี Super Color ที่มาใส่มาให้ในตัวเครื่อง
ยี่ห้อ / รุ่น | Projector RD806 LED 2800 Lumens |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1.7 ถึง 9.2 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
Projector RD806 LED 2800 Lumens เป็น เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ความละเอียด Full HD พร้อมระบบเสียง Dolby Digital ที่มีระยะการใช้งานอยู่ในช่วง 1.7 ถึง 9.2 เมตร ช่วยให้แสดงผลทุกสิ่งผ่านระบบฉายภาพได้อย่างเต็มตาเช่นเดียวกับมีโรงภาพยนตร์เป็นของตัวเองภายในบ้าน
และด้วยการทำงานของ Super color technology ไปจนกระทั่งค่าความสว่างในระดับ 3,000 lumens ทำให้แสดงผลสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสวยงามคมชัดด้วยความสมจริงและสีที่ไม่ผิดเพี้ยน รวมไปถึงยังมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี
จากหลอดไฟที่มีอายุการทำงานต่อเนื่องมากสุดถึง 30,000 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าหลอดไฟแบบปกติถึง 10 เท่าด้วยเช่นกัน โดยในด้านการแสดงผลฉายภาพทำได้สูงสุดที่ขนาด 80 ถึง 200 นิ้ว และใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อได้ตั้งแต่ USB, VGA, SD card, HDMI และช่อง AV ที่ช่วยให้ใช้งานตัวเครื่องได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย อีกทั้งยังเปิดตัวเครื่องให้ทำงานต่อเนื่องติดกันในหนึ่งรอบการใช้งานได้สูงสุดกว่า 6 ชั่วโมงอีกด้วย
ส่วนไฟล์วิดีโอที่รองรับในการแสดงผลผ่านตัวเครื่อง สามารถทำได้ทั้งกับไฟล์วิดีโอ MP4 และ AVI ในระบบเสียงแบบสเตอริโอ ไปจนถึงไฟล์เพลงแบบ MP3 ผ่านทางคอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, เครื่องเล่นดีวีดี หรือแม้แต่เครื่องเกม Play Station 4 เลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ อายุการใช้งานหลอดไฟที่ยาวนาน
✓ ระบบ Super color technology ช่วยให้สีคมชัดไม่ผิดเพี้ยน
✓ ระบบเสียง Dolby Digital
ข้อเสีย
✘ ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth
3. WIFI Projector P8
★★★★★
โปรเจคเตอร์พกพาขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ มาพร้อมความสามารถในแสดงผลต่าง ๆ ด้วยคุณภาพในระดับสูงสุด
ยี่ห้อ / รุ่น | WIFI Projector P8 |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 0.3 ถึง 3 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 8 x 14.7 x 18 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | – |
ต่อมาเป็นโปรเจคเตอร์พกพาขนาดกะทัดรัดประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ที่เหมาะกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเล่นวิดีโอเกม การใช้งานในรูปแบบโฮมเธียเตอร์ หรือแม้แต่การใช้งานเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ ผ่านทางการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth 4.0 บนตัวเครื่องสมาร์ทโฟน
และการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต HDMI, USB และ DC กับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh ที่ทำให้ตัวเครื่องทำงานได้ยาวนานสูงสุดถึง 2 ชั่วโมง ส่วนในด้านของการใช้งานมีระยะในการฉายภาพอยู่ที่ 0.3 ถึง 3 เมตร ด้วยความละเอียดสูงสุดในระดับ Full HD ซึ่งช่วยให้ฉายภาพขนาดใหญ่ได้ตั้งแต่ 40 ถึง 120 นิ้ว
และแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพ หรือแม้แต่วิดีโอ ด้วยความคมชัดและคุณภาพระดับสูงจากเทคโนโลยีในการฉายภาพแบบ DLP ที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 ภายในตัวเครื่อง ควบคู่ไปกับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 8 GB และ Ram ขนาด 1 GB ยิ่งไปกว่านั้นยังสั่งการการทำงานของตัวเครื่องได้ง่าย จากปุ่มกดระบบสัมผัสที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านบนตัวเครื่อง ส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจหากคุณต้องการเครื่องโปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก สำหรับการพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ อย่างมากเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ตัวเครื่องขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
✓ ขนาดในการฉายภาพตั้งแต่ 40 ถึง 120 นิ้ว
✓ การเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth
ข้อเสีย
✘ มีระยะเวลาการทำงานที่จำกัด
4. Halo LED Troprecis-T6
★★★★★
เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ขนาดใหญ่ประสิทธิภาพสูง ที่มีระบบเสียงจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม สำหรับการใช้งานทั้งในบ้านและที่ทำงาน
ยี่ห้อ / รุ่น | Halo LED Troprecis-T6 |
ความละเอียดวิดีโอ | HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1 ถึง 4 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 25 x 17 x 8 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.28 กิโลกรัม |
Halo LED Troprecis-T6 คือ เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ขนาดใหญ่ดีไซน์สุดทันสมัย ที่มาพร้อมระบบเสียงและการแสดงผลด้วยคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้านของภาพถ่ายและวิดีโอประเภทต่าง ๆ และใช้งานการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบระบบ Wifi ที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB, HDMI, SD card และ Audio 3.5 mm ได้ด้วยเช่นกัน
โดยในด้านของระบบเสียงและการแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ในการทำงาน ก็นับว่าทำได้แบบมีประสิทธิภาพจากลำโพงแบบไดอะเฟรมคุณภาพสูง ที่สร้างระดับเสียงในการใช้งานได้อย่างกว้างขวางและมีอรรถรส และด้วยการใช้หลักการสะท้อนแสงแบบกระจายเพื่อเพิ่มความคมชัดของสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ฉายภาพได้ในระยะสูงสุดถึง 4 เมตร
อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน จากแหล่งกำเนิดไฟแบบหลอด LED ที่ใช้งานได้ด้วยจำนวนชั่วโมงสูงสุดกว่า 30,000 ชั่วโมงอีกด้วย เป็นผลให้อุปกรณ์ตัวนี้เรียกได้ว่าจะเป็นทั้งจอแสดงผลสำหรับการเล่นเกม โรงหนังแบบส่วนตัว หรือแม้แต่จอแสดงข้อมูลในการนำเสนองาน ที่จะช่วยให้คุณสะดวกสบายมากขึ้นในทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน จึงทำให้เหมาะกับทั้งการใช้งานทั่วไปภายในบ้าน และการใช้งานในออฟฟิตสำหรับการทำงานไปได้ในเวลาเดียวกันครับ
ข้อดี
✓ ระบบเสียงคุณภาพสูง
✓ ดีไซน์ทันสมัย
✓ หลอดไฟ LED ที่มีอายุการใช้งาน 30,000 ชั่วโมง
ข้อเสีย
✘ ขนาดค่อนข้างใหญ่
5. Mirval Y8a
★★★★★
มินิโปรเจคเตอร์ความละเอียด 4K ที่รองรับการใช้งานและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้มากมาย ผ่านระบบปฏิบัติการ Android 9.0
ยี่ห้อ / รุ่น | Mirval Y8a |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K |
ระยะในการฉายภาพ | 1 ถึง 4 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | – |
Mirval Y8 เป็นเครื่องโปรเจคเตอร์ระบบปฏิบัติการ Android ที่ช่วยให้คุณรับชมภาพยนตร์บน Netflix และ Youtube หรือใช้งานแอปพลิชันต่าง ๆ ได้ง่ายดาย ผ่านทางหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 200 นิ้ว รวมไปถึงยังใช้งานร่วมกันได้กับสมาร์ทโฟน ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ผ่านการเชื่อมต่อระบบไร้สาย Bluetooth และ Wifi ได้ในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานโดยตรงผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ตั้งแต่แฟลชไดร์ฟ แล็ปท็อป เครื่องเกม Xbox หรือแม้แต่ Chromecast และ Micro SD card ผ่านการเชื่อมต่อแบบใช้สายได้ด้วยเช่นกัน ส่วนในด้านของดีไซน์การออกแบบนับว่าค่อนข้างมีความคลาสสิก และปรับการตั้งค่าระบบโฟกัสในการฉายภาพได้จากปุ่มปรับ Focus และ Keystone
อีกทั้งยังเคลื่อนย้ายได้ง่ายจากขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไปด้วยเช่นกัน ที่สำคัญด้วยการมาพร้อมความละเอียดสูงสุดในระดับ 4K ยังช่วยให้อุปกรณ์ตัวนี้สามารถฉายทั้งภาพและวิดีโอได้อย่างคมชัดสมจริง และยังถือเป็นหนึ่งในโปรเจคเตอร์ Android ที่น่าสนใจ สำหรับใช้งานเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านของคุณอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ระบบปฏิบัติการ Android 9.0
✓ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากมาย
✓ ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
ข้อเสีย
✘ ไม่มีระบบโฟกัสแบบอัตโนมัติ
6. OWLENZ SD150
★★★★★
โปรเจคเตอร์ดีไซน์คลาสสิกที่เชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ได้อย่างลื่นไหล
ยี่ห้อ / รุ่น | OWLENZ SD150 |
ความละเอียดวิดีโอ | HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1.33 ถึง 4.2 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | – |
น้ำหนัก | 1.25 กิโลกรัม |
หากคุณกำลังมองหาเครื่องโปรเจคเตอร์ที่เชื่อมต่อการทำงานได้ง่ายดาย ผ่านทางสมาร์ทโฟนทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS รวมไปถึงยังแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยความละเอียดระดับสูง ทั้งในด้านของวิดีโอ ภาพถ่าย และระบบเสียง
เครื่องฉายภาพรุ่นนี้นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย จากการฉายภาพในความละเอียด HD 1,080P ที่ขยายภาพในการแสดงผลได้สูงสุดที่ขนาด 150 นิ้ว ซึ่งทำให้คุณรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตาภายในห้องนอนและห้องรับแขกของคุณ โดยสามารถแสดงผลสีที่คมชัดและไม่ผิดเพี้ยนได้ จากระบบ Professional Color Matching ที่ประมวลผลสีได้ในระดับดีเยี่ยม
อีกทั้งยังมีหลอดไฟ LED คุณภาพสูง ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานกว่า 30,000 ชั่วโมง ทำให้ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นจากระยะโฟกัสที่สั้นเพียง 1.67 เมตร
ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้สิ่งที่ฉายออกมามีความคมชัด และโฟกัสในการฉายได้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเป็นผลให้เหมาะทั้งกับการเล่นเกมบนเครื่องเกมประเภทต่าง ๆ เช่น เครื่องเกม Play Station และ Xbox และยังใช้งานได้แบบลงตัวกับการรับชมภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือวิดีโอคอนเทนต์ต่าง ๆ ทั้งจากแอปพลิเคชัน Youtube และ Netflix ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมสิ่งต่าง ๆ ให้กับคุณได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ ระยะในการโฟกัส 1.67 เมตร
✓ อายุการใช้งานหลอดไฟ LED 30,000 ชั่วโมง
✓ ระบบ Professional Matching สำหรับการประมวลผลเสียง
ข้อเสีย
✘ ความละเอียดระดับ HD
7. SOTIAY HD 3D WIFI
★★★★★
Projector รูปลักษณ์สุดทันสมัย ที่สามารถฉายภาพและวิดีโอคุณภาพสูงสุดได้ ด้วยขนาดของหน้าจอกว่า 100 นิ้ว
ยี่ห้อ / รุ่น | SOTIAY HD 3D WIFI |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 0.8 ถึง 3.8 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 20 x 13.5 x 6 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | – |
สำหรับรุ่นนี้เป็นเครื่องโปรเจคเตอร์ความละเอียด Full HD อีกหนึ่งรุ่น ที่มีความโดดเด่นอยู่ในเรื่องของการใช้งานระบบปฏิบัติ Android ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วย Ram ในการประมวลผลข้อมูลขนาด 2 GB ควบคู่ไปกับพื้นจัดเก็บข้อมูลขนาด 16 GB และระบบจอแบบ LCD ที่ใช้งานเทคโนโลยี M4 เพื่อรักษารายละเอียดภาพให้คงที่ได้ด้วยมาตรฐาน SXGA ส่งผลให้แสดงคุณภาพของวิดีโอได้ในระดับที่น่าพอใจ
โดยในระหว่างที่เปิดใช้งานตัวเครื่องจะเลือกปรับค่าการแสดงผล ให้สามารถฉายภาพและวิดีโอได้ในขนาดสูงสุดที่ 100 นิ้ว ทำให้คุณรับชมทุกคอนเทนต์ได้อย่างเต็มตาและไม่ติดขัด และรองรับการใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ ผ่านทางพอร์ตเชื่อมต่อแบบ AV, USB, SD card และ HDMI ส่วนในด้านของดีไซน์การออกแบบก็เรียกได้ว่ามีความทันสมัย เหมาะสำหรับการติดตั้งร่วมกันกับทุกสไตล์การแต่งห้อง
นอกจากนี้ด้วยการสั่งการที่ทำได้ง่ายดายผ่านทางรีโมทคอนโทรล และฟังก์ชันการสั่งการด้วยเสียงที่ถูกติดตั้งมาภายในตัวเครื่อง ยังเป็นผลให้คุณใช้งานตัวอุปกรณ์ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ เทคโนโลยี M4 ช่วยประมวลผลสี
✓ ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android
✓ ระบบสั่งการด้วยเสียงและรีโมทคอนโทรล
ข้อเสีย
✘ ระยะในการฉายภาพค่อนข้างต่ำ
8. LEJIADA 802
★★★★★
มินิโปรเจคเตอร์ขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการพกพา มาพร้อมน้ำหนักเบาและเสียงในการทำงานที่ต่ำเพียง 24 เดซิเบล
ยี่ห้อ / รุ่น | LEJIADA 802 |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1.2 ถึง 3.6 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 17 x 11.5 x 7 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 0.5 กิโลกรัม |
LEJIADA 802 เป็นมินิโปรเจคเตอร์ขนาดเล็กความละเอียด Full HD ที่เหมาะสำหรับการพกพาอีกหนึ่งรุ่น ด้วยน้ำหนักโดยรวมที่มีเพียง 0.5 กิโลกรัม และตัวเครื่องซึ่งถูกออกแบบมาให้มีความกะทัดรัด เพื่อให้ใช้พื้นที่การจัดเก็บน้อย และทำให้การพกพาทำได้ง่ายมากที่สุด
โดยในส่วนของการทำงานตัวเครื่องสามารถฉายภาพได้ภายในระยะ 1.2 ถึง 3.6 เมตร ด้วยขนาดหน้าจอในการแสดงผลสูงสุดกว่า 100 นิ้ว รวมไปนังสร้างคุณภาพของวิดีโอได้ในระดับยอดเยี่ยม จากเลนส์ในการโฟกัสการแสดงผลคุณภาพสูง และการใช้งานหลอดไฟแบบ LED สำหรับการแสง ที่มีอายุการใช้งานโดยรวมสูงสุดกว่า 20,000 ชั่วโมง ซึ่งช่วยให้สิ่งที่แสดงออกทางหน้าจอแสดงผลมีความสว่างมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความคมชัดไปได้ในเวลาเดียวกัน
ที่สำคัญยังมีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของเสียงระหว่างการเปิดใช้งานที่เบาเพียง 24 เดซิเบล ส่งผลให้มีเสียงรบกวนการทำงานของคุณในระดับที่ต่ำเอามาก ๆ แต่อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังมองหารุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth รุ่นนี้ก็น่าจะยังไม่ใช่รุ่นที่ตอบโจทย์คุณมากเท่าไหร่นัก จากการเชื่อมต่อที่ทำได้เพียงการใช้งานสาย ผ่านพอร์ต HDMI, VGA, AV, USB และ Audio 3.5 mm นั่นเองครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเพียง 0.5 กิโลกรัม
✓ ระดับเสียงในการทำงานเพียง 24 เดซิเบล
✓ เลนส์ในการโฟกัสคุณภาพสูง
ข้อเสีย
✘ ไม่รองรับการเชื่อใต่อไร้สายผ่านระบบ Bluetooth
✘ ระยะในการฉายภาพค่อนข้างต่ำ
✘
9. Nanotech UC46 PLUS
★★★★★
โปรเจคเตอร์น้ำหนักเบา 1 กิโลกรัมประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว และใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 6 ชั่วโมง
ยี่ห้อ / รุ่น | Nanotech UC46 PLUS |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 1.07 ถึง 3.8 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 20.1 x 15.3 x 6.75 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1 กิโลกรัม |
โปรเจคเตอร์รูปทรงสุดคลาสสิกที่มีน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัมรุ่นนี้ เป็นเครื่องโปรเจคเตอร์ความละเอียดระดับ Full HD ที่ถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์สุดคลาสสิก ซึ่งใช้งานติดต่อกันได้ด้วยระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง
รองรับการใช้งานร่วมกันได้กับสมาร์ทโฟนภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS รวมไปถึงยังฉายภาพได้ตั้งแต่ขนาดในการแสดงผล 34 ถึง 130 นิ้ว ด้วยระยะในการฉายภาพระหว่าง 1.07 ถึง 3.8 เมตร โดยจากพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น USB, SD card, HDMI, AV และ VGA เป็นผลให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้จากหลายแพล็ตฟอร์ม
อีกทั้งยังมีลำโพงในตัวและระบบเสียงสำหรับการแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ที่นับว่าทำได้ในระดับที่น่าพอใจ และยังสามารถต่อลำโพงเสริมเพิ่มเติม เพื่อการสร้างระบบเสียงที่ดีมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นด้วยปุ่มปรับแต่งการใช้งานและปรับโฟกัส ที่ถูกติดตั้งมาบริเวณด้านบนของตัวเครื่อง ยังเป็นสิ่งที่ส่งผลให้ปรับแต่งการใช้งานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ที่สำคัญยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Wifi เพื่อให้คุณสั่งการสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ ขนาดในการแสดงผลสูงสุด 130 นิ้ว
✓ น้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัม
✓ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย
ข้อเสีย
✘ ระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง
10. Mini YG300 LCD Projector
★★★★★
โปรเจคเตอร์ดีไซน์ย้อนยุคความละเอียด Full HD เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน เพื่อการรับชมคอนเทนต์และวิดีโอต่าง ๆ
ยี่ห้อ / รุ่น | Mini YG300 LCD Projector |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD |
ระยะในการฉายภาพ | 0.8 ถึง 2 เมตร |
ขนาดตัวเครื่อง | 13 x 8.5 x 4.5 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 0.6 กิโลกรัม |
Mini YG300 LCD Projector เป็นรุ่นสุดท้ายของโปรเจคเตอร์ความละเอียด Full HD ในบทความนี้ ที่มีความโดดสำคัญอยู่ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ที่ค่อนข้างมีความเรียบง่ายดูย้อนยุคไปในเวลาเดียวกัน จากการใช้งานสีเหลืองและขาวในการผลิต
โดยในด้านของการทำงานรุ่นนี้นับว่าค่อนข้างเหมาะกับการใช้งานเพียงเล็กน้อยภายในบ้าน เช่น การรับชมภาพยนตร์ หรือการแสดงภาพถ่ายมากกว่าการใช้งานในสถานที่ทำงาน จากระยะในการฉายภาพที่ 0.8 ถึง 2 เมตร ซึ่งรองรับการใช้งานได้อย่างลงตัวกับห้องที่มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเพียง 0.6 กิโลกรัมที่ทำให้จัดวางและเคลื่อนย้ายได้ง่ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในห้องของคุณ
นอกจากนี้ด้วยราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไปและรูปลักษณ์ตัวเครื่องสุดน่ารัก ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานของเด็ก ๆ ทั้งในการรับชมสื่อการเรียนรู้ การ์ตูน หรือแม้แต่สิ่งอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาของเด็ก และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องฉายภาพราคาประหยัด ทั้งกับการใช้งานในห้องนั่งเล่น ห้องนอน ไปจนถึงห้องทำงานในรูปแบบของ Home Theater Projector ได้ด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม
✓ ดีไซน์ที่มีความสวยงามและย้อนยุค
✓ การใช้งานเป็น Home Theater Projector ได้
ข้อเสีย
✘ ระยะในการฉานภาพสูงสุดเพียง 2 เมตร
เลือกซื้อ โปรเจคเตอร์ อย่างไรดี
วิธีการเลือก โปรเจคเตอร์
1. เลือกจากความละเอียดในการสดงผล
สิ่งแรกที่มีความสำคัญในวิธีการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์เครื่องใหม่ คือ ความละเอียดในการฉายภาพที่ตัวอุปกรณ์สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อความคมชัดและความสมจริง หากคุณต้องการใช้งานเป็นอุปกรณ์สำหรับการรับชมภาพยนตร์หรือซีรีย์ เพื่อให้ได้รับอรรถรสในการรับชมที่ดีมากที่สุด รวมไปถึงเมื่อคุณต้องการติดตั้งไว้เพื่อใช้ภายในสำนักงานหรือออฟฟิต การเลือกรุ่นที่รองรับความละเอียดระดับ Full HD เป็นต้นไป ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้วิดีโอและภาพถ่ายที่นำเสนอมีความชัดเจน ซึ่งช่วยลดโอกาสผิดพลาดของข้อมูลในการทำงานได้อีกด้วยครับ
2. พิจารณาน้ำหนักของตัวเครื่อง
นอกจากคุณภาพของไมโครโฟน ที่ให้มาแล้ว ยังควรพิจารณาถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการบันทึกเสียงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บังลม ขาตั้ง หรือฟองน้ำหุ้มไมค์ โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้มือใหม่ สามารถอัดเสียงได้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น แต่ในการใช้งานของมืออาชีพ ก็อาจจำเป็นต้องแยกซื้อแต่ละชิ้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน จากระดับของคุณภาพอุปกรณ์ ที่คุณเลือกใช้งานในแต่ละชิ้นด้วยเช่นกันครับ
3. ตรวจสอบระยะในการฉายภาพ
เรื่องต่อมาที่ค่อนข้างสำคัญในการใช้งาน เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ก็คงจะเป็นเรื่องของระยะการฉายภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องและพื้นที่ในการใช้งานตัวเครื่อง เนื่องจากการเลือกรุ่นมี่มีระยะในการฉายมากเกินไปสำหรับใช้งานในห้องขนาดเล็ก ก็อาจทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถแสดงผลได้ด้วยความสามารถระดับสูงสุด และการเลือกรุ่นที่มีระยะในการฉายภาพที่ค่อนข้างสั้น เพื่อการทำงานในสถานที่กว้าง ๆ อย่างเช่น ห้องประชุมหรือห้องสัมมนา ก็อาจทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถโฟกัสการแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงอาจทำให้ความละเอียดของการฉายภาพทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรด้วยเช่นกันครับ
4. ให้ความสำคัญกับขนาดของการแสดงผลภาพ
ขนาดหน้าจอที่แสดงผลได้ของเครื่องโปรเจคเตอร์เป็นสิ่ง ที่ช่วยให้คุณรับชมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวเครื่องสามารถฉายหน้าจอแสดงผลได้ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินกว่า 100 นิ้ว เป็นต้นไป แต่เพื่อให้ทำได้แบบมีคุณภาพมากที่สุด ก็จำเป็นต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างกว้างในการทำงานของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อความคมชัดและเหมาะสมในระดับสูงสุด คุณก็ควรตรวจสอบระยะในการฉายภาพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลคุณใช้งานตัวเครื่องได้แบบมีคุณภาพมากที่สุดด้วยนั่นเองครับ
บทสรุป
หากคุณต้องการอุปกรณ์ในการฉายภาพสำหรับการแสดงผลสิ่งต่าง ๆ ทั้งในการทำงาน การใช้งานไลฟ์สไตล์ หรือแม้แต่การรับชมภาพยนตร์ให้มีความคมชัดสมจริงเช่นเดียวกับการรับชมในโรงภาพยนตร์ โปรเจคเตอร์นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้ได้ดีเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการทำงานของโทรทัศน์และหน้าจอแบบ LCD แต่จะทำได้ดีมากกว่าหากต้องการหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ และความยืดหยุ่นในการเปิดใช้งานตัวเครื่องที่ทำได้แทบทุกสถานที่ ที่สำคัญยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์ เพื่อใช้งานเป็นตัวแสดงผลภาพและวิดีโอในระบบโฮมเธียร์เตอร์ ซึ่งต้องการให้มีหน้าจอแสดงผลใหญ่มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย และหากคุณก็เป็นอีกหนึ่งผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์ ที่มีความสามารถหลัก ๆ อยู่ในเรื่องที่เราได้กล่าวแล้วไปในข้างต้น เราก็ขอแนะนำให้คุณลองเลือกชมรุ่นที่คุณถูกใจ จาก 10 รุ่นน่าซื้อที่เราได้นำมาให้คุณได้รับชมภายในบทความนี้ได้เลยครับ