10 โฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

โฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี

ทั้งการฟังเพลง การดูโทรทัศน์ และการรับชมภาพยนตร์นั้น นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนต้องทำอยู่เป็นประจำทุกวันไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการทำงานที่บ้าน หลังเลิกงาน หรือแม้แต่การพักผ่อนในช่วงวันหยุด ส่งผลให้คุณภาพเสียงของสิ่งที่คุณฟัง ก็นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในการรับชมสิ่งต่าง ๆ และทำให้เพียง ลำโพงของสมาร์ทโฟนหรือ สมาร์ททีวี เรียกได้ว่าไม่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการด้านนี้ของคุณอีกต่อไป จึงเป็นสาเหตุสำคัญให้อุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้การรับชมคอนเทนต์ของคุณ ได้รับอรรถรสที่ดีมากยิ่งขึ้น เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สายที่เชื่อมต่อกับทีวีได้ ลำโพงไร้สาย คุณภาพสูงแบบตั้งโต๊ะ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างโฮมเธียเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ยอดฮิต ที่พบเห็นได้หลาย ๆ บ้านในขณะนี้ โดยหากคุณ กำลังมองหา ลำโพง โฮมเธียเตอร์ ตัวใหม่ ที่ช่วยให้ทั้ง สมาร์ทโฟน และ โทรทัศน์ ของคุณ สามารถสร้างประสบการณ์ในการรับชมทุกคอนเทนต์ให้ดีได้มากยิ่งขึ้น วันนี้ เราได้รวบรวม 10 ชุดโฮมเธียเตอร์ น่าซื้อ ที่ใช้งานได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ มาให้คุณได้ลองเลือกชมภายในช่วงต่อไปของบทความนี้แล้วครับ

10 โฮมเธียเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2023

  1. KLIPSCH R-51PM + R-120SW
  2. Sony HT-S700RF
  3. JBL รุ่น Bar 2.1 Home Theater
  4. MICROLAB New X15L
  5. Aconatic AN-SP161
  6. sherman sb-66b3b
  7. Panasonic C-HT31GJ-K
  8. AJ Home Theater MD-2002
  9. Aconatic AN-SP560
  10. YongAn Home Theater
lazada promo 1-15 December 2023

1. KLIPSCH R-51PM + KLIPSCH R-100SW

โฮมเธียเตอร์ประสิทธิภาพสูง ที่รองรับการใช้ทั้งในด้านการฟังเพลง การดูวิดีโอบน Youtube และการรับชม Netflix ได้ด้วยคุณภาพเสียงในระดับสูงสุด

ยี่ห้อ/รุ่นKLIPSCH R-51PM + KLIPSCH R-100SW
กำลังขับเคลื่อนเสียง120 ถึง 300 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง33 .8 x 17.78 x 23.16 และ 36.8 x 31.8 x 41.7 เซนติเมตร
น้ำหนัก4.8 และ 10.9 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อBluetooth 4.0, AUX 3.5 mm, USB Digital และ Optical Digital

KLIPSCH R-51PM เป็นลำโพงแบบ Powered ประสิทธิภาพสูงสัญชาติอเมริกา ที่มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของระบบการแสดงผลเสียง ซึ่งทำได้อย่างลงตัวและยอดเยี่ยม มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ KLIPSCH R-100SW ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของโฮมเธียเตอร์รุ่นนี้ ให้ทำได้ทั่วถึงทุกมุมห้องด้วยคุณภาพเสียงระดับสูงสุด รวมไปถึงยังมั่นใจในเรื่องของคุณภาพในการแสดงผลเสียงได้ ด้วยการรองรับมาตรฐานของลำโพงระดับสูงในสหรัฐอเมริกา ที่การันตีได้จากการเลือกใช้งานลำโพงแบรนด์นี้ของหลากหลายโรงภาพยนตร์อีกด้วย

โดยในด้านการแสดงผลเสียงใช้งานเป็นระบบกระจายเสียงแบบ Tractrix Horn 90 x 90 ช่วยให้เสียงที่ส่งออกมามีความคมชัด และรักษาทุกรายละเอียดได้อย่างชัดเจนไม่ขาดหาย เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ง่ายจากสมาร์ทโฟนของคุณผ่านระบบ Bluetooth 4.0 ที่คงความละเอียดในการเชื่อมต่อของสัญญาณได้อย่างไม่ขาดหาย อีกทั้งยังเชื่อมต่อโดยตรงได้ผ่านพอร์ต AUX 3.5 mm, USB Digital และ Optical Digital ด้วยเช่นกัน ส่วนในเรื่องของการฟังเพลงก็นับว่าทำได้อย่างไรที่ติ ทั้งจากฟังก์ชัน Bass Reflex สำหรับช่วยกระจายเสียงเบสให้มีความคมชัด ช่วยเพิ่มมิติในการฟังเพลง และระบบ Digital Amplifier ที่มีหน้าที่ในการช่วยขยายเสียง เพื่อให้คุณฟังเพลงได้ด้วยระดับเสียงดังชัดเจนสูงสุด จากทุกสถานที่ภายในบ้านของคุณครับ

ข้อดี
ระบบเสียงแบบเน้นเบสช่วยเพิ่มมิติในการฟังเพลง
มีซับวูฟเฟอร์ช่วยกระจายเสียงจำนวนมาก
กำลังขับเคลื่อนเสียงระดับสูง

ข้อเสีย
ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างมาก

2. Sony HT-S700RF

ชุดโฮมเธียเตอร์ สำหรับทีวี ที่มีดีไซน์สุดสวยงามทันสมัย รองรับการจัดวางร่วมกันกับเฟอร์นิเจอร์ทุกชนิดได้แบบลงตัว

ยี่ห้อ/รุ่นSony HT-S700RF
กำลังขับเคลื่อนเสียง1,000 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง90 x 6.4 x 9, 23.1 x 43.8 x 37.8 และ 120 x 7.8 x 7.8 เซนติเมตร
น้ำหนัก3, 10.2 และ 3.6 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อBluetooth, HDMI ARC และ USB

Home theater รุ่นต่อมาเป็นลำโพงคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก Sony ที่มีความโดดเด่นอยู่ในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์สุดทันสมัย สามารถจัดวางคู่กันกับเฟอร์นิเจอร์ทุกชนิดได้แบบลงตัว และยังทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเชื่อมต่อกับโทรทัศน์คุณภาพสูง ที่สร้างรายละเอียดภาพในความคมชัดระดับสูงสุดไปได้ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ด้วยลำโพงเสริมหรือซับวูฟเฟอร์ ที่ใช้งานร่วมกันได้เป็นจำนวนมาก ยังช่วยให้มีกำลังขับเคลื่อนเสียงโดยรวมมากที่สุดถึง 1,000 วัตต์ และยังทำให้มีประสิทธิภาพในการแสดงผลเสียงใกล้เคียงกับในโรงภาพยนตร์อีกด้วย

โดยส่วนประกอบของ โฮมเธียเตอร์ รุ่นนี้ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน คือ ลำโพงซาวด์บาร์ ซึ่งเป็นลำโพงตัวหลักในการกระจายเสียง, ลำโพง Tall-Boy สำหรับสร้างเสียงเซอร์ราวด์ แบบรอบทิศทาง ด้วยระดับความสูงกว่า 120 เซนติเมตร ที่ช่วยเพิ่มความสมจริงในการรับชมวิดีโอประเภทต่าง ๆ และ ลำโพงซับวูฟเฟอร์ ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยควบคุมการแสดงผลเสียงแบบเน้นเบส ส่งผลให้สามารถฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส ยิ่งไปกว่านั้นยังเชื่อมต่อได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วยช่องเชื่อมต่อแบบ HDMI ARC และระบบ Bluetooth แบบไร้สายอีกด้วยครับ

ข้อดี
ควบคุมการทำงานได้ง่ายดายจากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
กำลังขับเคลื่อนเสียงระดับสูง
ซับวูฟเฟอร์และลำโพงสำหรับช่วยกระจายเสียง

ข้อเสีย
มีอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อจำนวนมาก

3. JBL Bar 2.1 Home Theater

ลำโพงกระจายเสียงขนาดกะทัดรัด รองรับการเชื่อมต่อได้ลื่นไหลผ่านระบบ Bluetooth แบบไร้สาย เคลื่อนย้ายได้ง่ายจากน้ำหนักและดีไซน์สุดกะทัดรัด

ยี่ห้อ/รุ่นJBL Bar 2.1 Home Theater
กำลังขับเคลื่อนเสียง300 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง96.5 x 5.8 x 6.8 และ 22.5 x 37 x 22.5 เซนติเมตร
น้ำหนัก1.9 และ 5.2 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อHDMI, HDMI ARC, Optical, USB, AUX 3.5 mm และ Bluetooth

รุ่นนี้เป็น โฮมเธียเตอร์ อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานร่วมกับโทรทัศน์ ด้วย ลำโพงซาวด์บาร์ ตัวหลักที่ใช้ในการแสดงผลเสียง ให้มีความคมชัดสมจริงและมีคุณภาพเสียงจัดอยู่ในระดับสูงสุด และลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่ช่วยให้การกระจายเสียงดีมากยิ่งขึ้น โดยในด้านของกำลังขับเคลื่อนเสียง สามารถทำได้สูงสุดกว่า 300 วัตต์ ด้วย ลำโพงซาวด์บาร์ และ ซับวูฟเฟอร์ ที่ทำงานร่วมกันเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น แต่ก็ยังคงให้เสียงในการรับชมวิดีโอที่มีความสมจริง รวมไปถึงยังแสดงเสียงได้อย่างทั่วถึงทุกมุมห้องแบบเซอร์ราวด์รอบทิศทางอีกด้วย ส่วนในด้านการเชื่อมต่อก็ทำได้กับทีวีแทบทุกรุ่น ที่รองรับการใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อแบบ HDMI , HDMI ARC, Optical, USB , AUX 3.5 mm และการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของดีไซน์การออกแบบ ยังนับว่ามีความทันสมัยและสวยงาม รวมไปถึงยังจัดวางและเคลื่อนย้ายได้ง่าย จากรูปลักษณ์ตัวเครื่องที่มีความกะทัดรัด และน้ำหนักโดยรวมที่ไม่มากจนเกินไปด้วยเช่นกันครับ

ข้อดี
ใช้พื้นที่ในการจัดวางไม่มาก
พอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
กำลังขับเคลื่อนเสียงในระดับสูง

ข้อเสีย
จำนวนอุปกรณ์ในการกระจายเสียงค่อนข้างน้อย

shopee home expo promo 2023

4. MICROLAB New X15L

ชุดโฮมเธียเตอร์ระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ที่สามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ในระดับยอดเยี่ยม ด้วยจำนวนอุปกรณ์ซึ่งให้มาสูงสุดถึง 6 ตัว

ยี่ห้อ/รุ่นMICROLAB New X15L
กำลังขับเคลื่อนเสียง170 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง29.7 x 43.7 x 29.7, 15.9 x 6.5 x 6.4 และ 6.5 x 15.9 x 6.4 เซนติเมตร
น้ำหนัก19.5 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ

MICROLAB New X15L เป็น โฮมเธียเตอร์ แบบครบเซ็ต ที่ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ มากมาย ซึ่งช่วยให้ทั้งการรับชมวิดีโอและการฟังเพลง ทำได้อย่างมีอรรถรสและให้ประสบการณ์ในการรับชมสูงสุดในทุกคอนเทนต์ ตั้งแต่ลำโพงตัวหลักที่สามารถแสดงผลเสียงได้ ด้วยระดับเสียงสูงสุดโดยไม่ถูกลดคุณภาพ, ซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็ก 3 ตัว ช่วยเพิ่มความสามารถในการแสดงเสียงแบบเซอร์ราวด์รอบทิศทาง และลำโพงแบบมีขาตั้ง สำหรับส่งเสียงออกมาจากทางด้านบน เพื่อให้มีความสมจริงในการรับชมภาพยนตร์มากที่สุด โดยที่ลำโพงทั้ง 6 ตัวนี้เมื่อทำงานร่วมกัน ก็จะทำให้กลายเป็นหนึ่งในระบบโฮมเธียเตอร์ที่มีความครบครัน และน่าสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับคนที่กำลังมองหาลำโพงชุดใหม่ เพื่อใช้งานด้านต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันครับ

ข้อดี
✓ มีลำโพงหลายตัวสำหรับช่วยกระจายเสียง
ระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์รอบทิศทาง
ส่งออกเสียงได้จากหลากหลายทิศทาง

ข้อเสีย
ใช้พื้นที่ในการจัดวางตัวอุปกรณ์ค่อนข้างมาก

5. Aconatic AN-SP161

ชุดมินิโฮมเธียเตอร์แบบ 3 ลำโพง รองรับการใช้งานได้ทั้งในรูปแบบซาวด์บาร์และเครื่องกระจายเสียง ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ

ยี่ห้อ/รุ่นAconatic AN-SP161
กำลังขับเคลื่อนเสียง100 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง16.5 x 15.5 x 60 และ 12 x 110 x 41 เซนติเมตร
น้ำหนัก16 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อBluetooth, ช่องต่อ Microphone, SD Card และ USB

ในรุ่นต่อมาเป็น มินิโฮมเธียเตอร์ ที่มีจุดเด่นสำคัญอยู่เรื่องของการเล่นเสียงแบบเบสหนัก ด้วยการแสดงผลเสียงเป็นแบบ Crystal clear sound และยังมีแสงไฟ LED บนตัวลำโพง ที่จะแสดงผลต่างกันออกไปตามอารมณ์ของเพลง ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันในการฟังเพลงและการรับชมโทรทัศน์ของคุณได้อยู่ไม่น้อย รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มความรู้สึกในการใช้งานให้ไม่น่าเบื่อได้อีกด้วย โดยระบบการกระจายเสียงสามารถทำได้สูงสุด ที่กำลังการขับเคลื่อนเสียงกว่า 100 วัตต์ ผ่านลำโพงหลักขนาดใหญ่ และยังกระจายเสียงแบบรอบทิศทางได้ด้วยลำโพงซับวูฟเฟอร์ ที่มีกำลังขับเคลื่อนเสียง 25 วัตต์ทั้งสองตัวด้วยเช่นกัน จึงทำให้รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานเป็นทั้งลำโพงซาวด์บาร์ ที่เชื่อมต่อกับโทรทัศน์และสมาร์ทโฟนได้ผ่านระบบ Bluetooh 4.2 และลำโพงในการฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถเป็นเครื่องกระจายเสียงไปได้ในตัว จากการใส่พอร์ตเชื่อมต่อกับไมโครโฟน ที่ให้มาทั้งหมดถึง 2 ช่องเลยทีเดียวครับ

ข้อดี
เน้นเล่นเสียงแบบเบสหนัก
พอร์ตเชื่อมต่อไมโครโฟน
ระบบไฟ LED ช่วยเพิ่มความแตกต่างลดูไม่น่าเบื่อ

ข้อเสีย
กำลังขับเคลื่อนเสียงค่อนข้างน้อย

6. Sherman SB-66B3B

Home Theater รูปลักษณ์การออกแบบสุดคลาสสิก ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ด้วยกำลังขับเคลื่อนเสียงกว่า 130 วัตต์

ยี่ห้อ/รุ่นSherman SB-66B3B
กำลังขับเคลื่อนเสียง130 วัตตฺ
ขนาดตัวเครื่อง23 x 29 x 39.5, 14 x 13 x 61.5 เซนติเมตร
น้ำหนัก12.6 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อBluetooth, SD Card, USB, Optical และ Coaxial

Sherman SB-66B3B คือ ชุดโฮมเธียเตอร์ ดีไซน์สุดคลาสสิก ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมายช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ซึ่งทำให้คุณสามารถเล่นเพลง ที่ชื่นชอบได้ง่ายดายผ่านระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย, ปุ่มปรับระดับเสียงและความดังเบสที่ติดตั้งอยู่บริเวณตัวเครื่อง สำหรับการปรับเพิ่มลดระดับเสียงให้เหมาะสม, หน้าจอแสดงผลแบบ LED Display เพื่อให้คุณรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ ที่กำลังเล่นได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงพอร์ตเชื่อมต่อไมโครโฟนถึง 2 ตัว สำหรับการใช้งานเป็นเครื่องกระจายเสียงในโอกาสต่าง ๆ โดยที่สามารถแสดงผลเสียงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยกำลังขับเคลื่อนเสียงกว่า 130 วัตต์ จากการทำงานของลำโพงหลักและซับวูฟเฟอร์เฟอร์ขนาดใหญ่ ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวในทุกสถานการณ์ ส่งผลให้คุณใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้ได้อย่างหลากหลายโดยไม่มีข้อจำกัดเลยแม้แต่น้อยครับ

ข้อดี
✓ ช่องเสียบไมโครโฟน 2 ช่อง
จำนวนอุปกรณ์ไม่มากเจนเกินไป
หน้าจอแสดงผลข้อมูล LED Display

ข้อเสีย
ตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่เคลื่อนย้ายลำบาก

7. Panasonic C-HT31GJ-K

ลำโพงเครื่องเสียงประสิทธิภาพยอดเยี่ยม สั่งการฟังก์ชันได้ง่ายดายผ่านระบบสัมผัส และส่งออกเสียงได้รอบด้านด้วยคุณภาพเสียงระดับสูงสุด

ยี่ห้อ/รุ่นPanasonic C-HT31GJ-K
กำลังขับเคลื่อนเสียง80 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง24 x 38.5 x 31.8 และ 12.7 x 44.8 x 10.4 เซนติเมตร
น้ำหนัก
การเชื่อมต่อBluetooth, USB, RCA และ AUX 3.5 mm

สำหรับ โฮมเธียเตอร์ ขนาดใหญ่จากแบรนด์เครื่องเสียง Panasonic รุ่นนี้ รองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การเชื่อมต่อไร้สายบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ไปจนกระทั่งการเชื่อมต่อโดยตรงผ่านพอร์ตเชื่อมต่อบนตัวเครื่อง ซึ่งประกอบด้วย USB, RCA และ AUX 3.5 mm ทำให้รองรับการใช้งานของอุปกรณ์ได้หลากหลายไม่เว้นแม้แต่ Flash Drive ในส่วนของระบบเสียงด้วยการทำงานของลำโพงแบบ Satellite ที่เป็นลำโพงหลักประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถส่งออกเสียงได้อย่างรอบด้านด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด ทำงานร่วมกันกับลำโพงแบบซับวูฟเฟอร์ ที่ช่วยให้การกระจายเสียงเป็นไปได้แบบรอบด้านมากยิ่งขึ้น โดยในด้านของดีไซน์การออกแบบก็เรียกได้ว่ามีความทันสมัย จากวัสดุแบบไม้ เหล็ก และพลาสติกคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิต ช่วยให้สามารถจัดวางไว้ในมุมต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ง่ายดาย ผ่านปุ่มกดระบบสัมผัสที่อยู่บนเครื่องอีกด้วยครับ

ข้อดี
✓ ปุ่มสั่งการระบบสัมผัส
ดีไซน์การออกแบบทันสมัย
มีซับวูฟเฟอร์ช่วยในการกระจายเสียง

ข้อเสีย
กำลังขับเคลื่อนเสียงต่ำ

8. AJ Home Theater MD-2002

เครื่องเสียง AJ ดีไซน์แบบดั้งเดิม เชื่อมต่อการใช้งานและเล่นเพลงได้หลายรูปแบบ รองรับการทำงานของ DVD และ VCD

ยี่ห้อ/รุ่นAJ Home Theater MD-2002
กำลังขับเคลื่อนเสียง40 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง22 x 15 x 18 และ 17 x 14 x 22 เซนติเมตร
น้ำหนัก4.5 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อUSB, AUX 3.5 mm, Composite, Coaxial, AV, Optical และ Bluetooth

AJ Home Theater MD-2002 เป็นอีกหนึ่ง ชุดโฮมเธียเตอร์ แบบ 3 ลำโพง ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของรูปลักษณ์ดีไซน์ สเปกตัวเครื่อง และคุณสมบัติต่าง ๆ ในการใช้งาน จึงทำให้เป็นรุ่นยอดฮิตที่มีผู้เลือกใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน โดยสามารถเลือกเล่นเพลงได้อย่างหลากหลาย ผ่านการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตหลายรูปแบบ เช่น USB, AUX 3.5 mm และการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth ตามความสะดวกและความเหมาะสมของการใช้งาน ที่สำคัญยังรองรับการใช้งานแผ่น DVD และ VCD สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคลาสสิกได้อีกด้วย ส่วนในด้านของดีไซน์การออกแบบ ก็นับว่ามีความคลาสสิกตามสไตล์ลำโพงแบบดั้งเดิม จึงอาจทำให้ถูกใจผู้สูงอายุหลายคนอยู่ไม่น้อย อีกทั้งในระหว่างการใช้งานยังสามารถดูข้อมูลการเล่นเพลงได้ง่าย ผ่านหน้าจอแสดงผลแบบ LED ที่ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันครับ

ข้อดี
✓ รองรับการเล่น DVD และ VCD
รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อหลากหลาย
หน้าจอ LED สำหรับแสดงผลการเล่นเพลง

ข้อเสีย
กำลังขับเคลื่อนเสียงต่ำ

9. Aconatic AN-SP560

ชุดโฮมเธียเตอร์ ขนาดเล็ก มาพร้อมแสงไฟแบบ LED ช่วยเพิ่มความสวยงาม และส่งออกเสียงได้แบบไร้ที่ติด้วยซับวูฟเฟอร์ที่ให้มาถึง 2 ตัว

ยี่ห้อ/รุ่นAconatic AN-SP560
กำลังขับเคลื่อนเสียง17.5 และ 35 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง12 x 110 x 41 และ 80 x 5 x 7 เซนติเมตร
น้ำหนัก3.4 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อBluetooth, USB, SD Card และ RCA

อีกหนึ่งมินิโฮมเธียเตอร์ที่น่าสนใจจากแบรนด์ Aconatic ด้วยดีไซน์สุดกะทัดรัดและหนักเบาเคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้จัดวางในที่ต่าง ๆ ได้แบบไม่กินพื้นที่ และด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่ทันสมัย ยังช่วยให้เข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์แทบทุกประเภทไปในเวลาเดียวกัน โดยในด้านของการแสดงผลเสียง ก็สามารถทำงานได้ยอดเยี่ยมด้วยระบบเสียงแบบ Crystal clear sound ซึ่งรองรับการทำงานของเสียงแบบเบสหนักได้แบบมีคุณภาพ ส่งผลให้ในการฟังเพลงก็ช่วยให้มีมิติที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ลำโพงรุ่นดังกล่าวยังเหมาะกับการใช้งานเป็น ซาวด์บาร์ ขนาดเล็ก หรือเป็น ลำโพงสำหรับคอมพิวเตอร์ จากพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลายอีกด้วย ที่สำคัญเมื่อเชื่อมต่อกับระบบ Bluetooth 4.0 จะทำให้สามารถสั่งเล่นเพลงบนสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ภายในระยะไกลสุดถึง 15 เมตรเลยทีเดียวครับ

ข้อดี
✓ น้ำหนักโดยรวมที่เบามาก
แสงไฟ LED ช่วยเพิ่มความสวยงาม
ขนาดเล็กกะทัดรัดเคลื่อนย้ายได้ง่าย

ข้อเสีย
กำลังขับเคลื่อนเสียงมีค่อนข้างน้อย

10. YougAn Home Theater

ยี่ห้อ/รุ่นYougAn Home Theater
กำลังขับเคลื่อนเสียง30 วัตต์
ขนาดตัวเครื่อง10.5 x 34 x 9.8 และ 17 x 31.5 และ 32.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก5 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อJack 3.5 mm

YougAn Home Theater เป็นเครื่องเสียงราคาย่อมเยารุ่นสุดท้าย ที่มีความโดดเด่นหลัก ๆ อยู่ในเรื่องของการส่งออกเสียง ที่ทำได้แบบเซอร์ราวด์รอบทิศทาง จากลำโพงตัวหลักที่สามารถส่งออกเสียงได้อย่างมีคุณภาพ และให้ระดับเสียงที่มีความดังสูงสุด ซึ่งทำงานร่วมกันกับซับวูฟเฟอร์ ที่มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของการกระจายเสียง ช่วยให้คุณได้รับเสียงจากวิดีโอแบบสเตอริโอรอบทิศทาง 360 องศา ที่มีความคมชัดและสมจริง โดยควบคุมการสั่งการฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ง่ายดายผ่านรีโมทคอนโทรลขนาดเล็ก ส่วนในด้านการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ก็ทำได้หลากหลายผ่านช่องเชื่อมต่อแบบแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร ที่ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องเล่น DVD และ VCD ไปจนถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ PC และ แล็ปท็อป ภายใต้ระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ครับ

ข้อดี
✓ รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
ระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์รอบทิศทาง
น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้ง่าย


ข้อเสีย
กำลังขับเคลื่อนเสียงต่ำ

วิธีการเลือก ซื้อโฮมเธียเตอร์

6 วิธีเลือกโฮมเธียเตอร์

เลือกรุ่นที่มีซับวูฟเฟอร์สำหรับช่วยกระจายเสียง

ในการใช้งานโฮมเธียเตอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซับวูฟเฟอร์ก็นับเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่มีความสำคัญด้วยเช่นกันในการกระจายเสียงให้มีความดัง และมีความทั่วถึงในทุกมุมของสถานที่ที่คุณเปิดใช้งาน ทำให้การพิจารณาถึงซับวูฟเฟอร์สำหรับการกระจายเสียง ก็นับว่ามีเป็นเครื่องที่ควรให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

พิจารณาการเชื่อมหลักของตัวอุปกรณ์

ในปัจจุบันด้วยความที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายผ่านระบบ Bluetooth ส่งผลให้การเชื่อมต่อดังกล่าวแทบจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นของชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว จึงทำให้การพิจารณาเรื่องการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น และต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมไปถึงยังต้องพิจารณาพอร์ตการเชื่อมต่ออื่น ๆ ประกอบไปด้วยเช่นกันครับ

เลือกดีไซน์การออกแบบที่เหมาะสม

เรื่องของแฟชั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มีผู้ใช้งานหลายคนค่อนข้างจริงจังเป็นอย่างมาก ทำให้การเลือกซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ของตกแต่งบ้าน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด จำเป็นต้องพิจารณาถึงรูปลักษณ์การออกแบบประกอบไปด้วย และให้ห้องของคุณออกมาสวยงามมากที่สุด คุณก็ควรให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยนั่นเองครับ

ให้ความสำคัญกับพื้นที่การจัดวาง

ชุดโฮมเธียเตอร์ ส่วนใหญ่มักจะมีจำนวนอุปกรณ์ ที่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกันมาจำนวนมาก ส่งผลมาให้ในด้านพื้นที่การจัดวาง ก็จำเป็นต้องใช้เพิ่มมากขึ้นด้วยในขณะเดียวกัน โดยหากคุณต้องการจัดวางอุปกรณ์ภายในบ้านให้มีความรู้สึกไม่เกะกะ ก็ไม่ควรที่จะลืมพิจารณาถึงจำนวนอุปกรณ์ ที่มีความจำเป็นในการเชื่อมต่อระบบโฮมเธียเตอร์ และเลือกรุ่นให้เหมาะสมกับการจัดวางภายในบ้านกับคุณมากที่สุดครับ

บทสรุป

หากคุณเป็นผู้ใช้งานที่ต้องการ ลำโพง สำหรับการต่อทีวี หรือต้องการใช้งานเครื่องกระจายเสียงในสถานการณ์ต่าง ๆ โฮมเธียเตอร์ นับเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุด ทั้งจากการเชื่อมต่อที่ทำได้ง่ายผ่านการใช้งานสาย หรือระบบไร้สาย ต่าง ๆ ไปจนถึงความสามารถในการกระจายเสียงที่นับว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม

ทำให้การเลือกซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว สำหรับการใช้งานของหลาย ๆ คนในแต่ละสถานการณ์ โฮมเธียเตอร์ นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แล้วถ้าคุณต้องการจะซื้อรุ่นที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างหลากหลาย และมีราคาเหมาะสมเข้าถึงได้ง่าย เราขอแนะนำ 10 รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งเราได้นำมาให้คุณได้เลือกชมในวันนี้ โดยทางเราเชื่อว่าจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งรุ่นที่ถูกใจคุณอย่างแน่นอนครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง