แนะนำ 10 อันดับ iPad รุ่นไหนดี แห่งปี 2023
ในยุคที่การทำงานแบบ Work From Home และการเรียนออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ กลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่หลายคนจำเป็นจะต้องทำกันอยู่แล้วในทุกวัน ส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การใช้งานในด้านนี้มีความสะดวกสบายและง่ายดายมากยิ่งขึ้นนั้น ก็เป็นสิ่งที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจในการหามาใช้งานอยู่ไม่น้อยในช่วงเวลาปัจจุบัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งในกลุ่มของนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน จนเรียกได้ว่าของขาดตลาดจนไม่สามารถหาซื้อได้ภายในวันเดียวในช่วงเวลานี้อย่าง iPad ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การทำงานในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดีเป็นอย่างมาก จากความสามารถในการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพของชิปประมวล ไปจนถึงความหลากหลายในการใช้งานด้วยแอปพลิเคชันมากมาย ที่มีให้คุณเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดายผ่านทางระบบปฏิบัติการ iOS และคุณภาพของการใช้งานปากกา Stylus ในการวาด เขียน หรือจดสิ่งต่าง ๆ อย่าง Apple Pencil ที่มีความลื่นไหลไม่มีสะดุดและเป็นหนึ่งในปากกาที่มีความใกล้เคียงกับการเขียนบนกระดาษมากที่สุดในโลก ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้ใช้งานที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น และกำลังมองหา iPad เครื่องใหม่ ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
10 อันดับ iPad รุ่นไหนดี ในปี 2023
- iPad Pro 11
- iPad Air 4
- iPad Pro 12.9 2020
- iPad Pro 11 2018
- iPad Air 3
- iPad mini 5
- iPad Pro 12.9
- iPad 7th
- iPad 6th
Preview | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
ยี่ห้อ/รุ่น | iPad Pro 11 | iPad Air 4 | iPad Pro 12.9 2020 | iPad Pro 11 2018 | iPad Air 3 | iPad Mini 5 | iPad Pro 12.9 | iPad 7th | iPad 6th |
ชิปประมวลผล | Apple A12z Bionic | Apple A14 Bionic | Apple A12z Bionic | Apple A12x Bionic | Apple A12 Bionic | Apple A12 Bionic | Apple A12x Bionic | Apple A10 Fusion | Apple A10 Fusion |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13.4 | iPad OS 14 | iPad OS 13.4 | iOS 12 | iPad OS 13 | iPad OS 13 | iOS 12 | iPad OS 13 | iOS 11 |
Ram | 6 GB | 4 GB | 6 GB | 6 GB | 3 GB | 3 GB | 6 GB | 3 GB | 2 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 128, 256, 512 GB และ 1 TB | 64 และ 256 GB | 128, 256, 512 GB และ 1 TB | 64, 256, 512 GB และ 1 TB | 64 และ 256 GB | 64 และ 256 GB | 64, 256, 512 GB และ 1 TB | 32 และ 128 GB | 32 GB |
แบตเตอรี่ | 7,812mAh | - | 9,720mAh | 7,812mAh | 8,134mAh | 5,124mAh | 9,720mAh | 8,827mAh | 8,227mAh |
ลิงค์สินค้า |
1. iPad Pro 11
★★★★★
iPad รุ่นท็อป ที่รองรับการใช้งานของคนในทุกไลฟ์สไตล์และการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Pro 11 |
ชิปประมวลผล | Apple A12z Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13.4 |
Ram | 6 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 128, 256, 512 GB และ 1 TB |
แบตเตอรี่ | 7,812mAh |
รุ่นแรกเป็น iPad Pro รุ่นล่าสุดที่ถูกเปิดตัวมาในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ที่ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน, การเรียน, การจดบันทึก, การเล่นเกม หรือแม้แต่กิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการอุปกรณ์หน้าจอขนาดใหญ่สำหรับการใช้งาน และด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่จุดอยู่ในระดับสูงขนาดนี้ น่าจะทำให้รุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกใจผู้ใช้งาน ที่ชื่นชอบการเลือกซื้ออุปกรณ์ระดับท็อปจากแบรนด์ Apple อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ข้อดี
✓ หน้าจอแสดงผลขนาด 11 นิ้วที่ใช้งานได้อย่างเต็มตา
✓ รองรับการใช้งาน Apple Pencil 2
✓ กล้องทั้งหมด 2 ตัวที่ให้มาสำหรับใช้ในการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ
ข้อจำกัด
✘ ขนาดหน้าจออาจยังไม่ใหญ่เพียงพอสำหรับงานเฉพาะทางบางประเภท
2. iPad Air 4
★★★★★
iPad Air รุ่นปี 2020 ที่ใช้งานดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ล่าสุด และมาพร้อมจำนวนสีให้คุณเลือกได้อย่างหลากหลายตามความชื่นชอบของแต่ละคน
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Air 4 |
ชิปประมวลผล | Apple A14 Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 14 |
Ram | 4 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 64 และ 256 GB |
แบตเตอรี่ | – |
iPad Air 4 เป็นรุ่นแอร์ ในปี 2020 ที่ถูกผลิตออกมาด้วยดีไซน์แบบใหม่ ซึ่งถูกใช้งานเฉพาะใน iPad Pro รุ่นหลัง ๆ นี้เท่านั้น ส่งผลให้ในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์ของไอแพตรุ่นนี้จะค่อนข้างมีความสวยงามล้ำสมัย และดูแตกต่างจากรุ่นที่ผ่านมาอยู่พอสมควร โดยที่ในด้านของสเปกตัวเครื่องนั้นก็จัดอยู่ในระดับสูงจนแทบจะใกล้เคียงกันกับรุ่นท็อปสุดอย่างรุ่นโปร แต่ในด้านของจุดเด่นสำคัญที่รุ่นนี้ถูกใส่มาให้นั้น จะเป็นจำนวนของสีที่มีออกมาให้เลือกใช้งานได้มากกว่าในหลาย ๆ รุ่นที่ผ่านมา จนทำให้รุ่นนี้กลายเป็นไอแพตที่มีความหลากหลายในด้านสีมากที่สุด ตั้งแต่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ประเภทนี้ออกมาเลยนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ ใช้งานดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ล่าสุดที่แสดงผลสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตา
✓ ชิปประมวลผล Apple A14 Bionic ประสิทธิภาพสูง
✓ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iPad OS 14 เวอร์ชันล่าสุด
ข้อจำกัด
✘ ไม่มีเซ็นเซอร์แสกนใบหน้าสำหรับปลดล็อคตัวเครื่อง
3. iPad Pro 12.9 2020
★★★★★
iPad รุ่นท็อปสุดจากแบรนด์ Apple ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในงานเฉพาะทาง ซึ่งต้องการสเปกระดับสูงโดยเฉพาะ
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Pro 12.9 2020 |
ชิปประมวลผล | Apple A12z Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13.4 |
Ram | 6 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 128, 256, 512 GB และ 1 TB |
แบตเตอรี่ | 9,720mAh |
iPad Pro 12.9 2020 เป็นรุ่นท็อปสุดที่กำลังมีออกวางจำหน่ายมาให้เราได้เลือกซื้อกันในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็น iPad ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในทุกด้านอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาดหน้าจอ, ชิปประมวลผลข้อมูล, แบตเตอรี่ หรือแม้แต่กล้องถ่ายภาพ ที่สำคัญจากการรองรับการใช้งานปากกา Apple Pencil 2 ที่มีความแม่นยำในการใช้งานจัดอยู่ในระดับสูง และความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการใช้งานฟังก์ชันและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ส่งผลให้ไอแพตเครื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีผู้ใช้งานมืออาชีพเป็นจำนวนมาก เลือกใช้งานเป็นอุปกรณ์หลักในการทำงานด้านต่าง ๆ ของตนเองด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ Ram ในการประมวลผลขนาดใหญ่ 6 GB
✓ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน
✓ มาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR Scanner สำหรับการใช้งานระบบ AR
ข้อจำกัด
✘ การพกพาอาจทำได้ค่อนข้างลำบาก
4. iPad Pro 11 2018
★★★★★
iPad Pro Generation 2 รุ่นขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ที่ใช้งานดีไซน์การออกแบบสุดล้ำสมัย และรองรับการใช้งานปากกา Apple Pencil 2
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Pro 11 2018 |
ชิปประมวลผล | Apple A12x Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iOS 12 |
Ram | 6 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 64, 256, 512 GB และ 1 TB |
แบตเตอรี่ | 7,812mAh |
iPad Pro 11 รุ่นต่อมา เป็นหนึ่งในรุ่นยอดฮิตที่ถูกออกแบบมา สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงไว้ในการใช้งานด้านต่าง ๆ ซึ่งต้องการสเปกของตัวอุปกรณ์มากกว่าปกติในการใช้งานด้านเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปรับแต่งภาพ, การตัดต่อวิดีโอ, การทำงานด้านเอกสาร หรือการใช้งานในรูปแบบอื่น ๆ ที่คุณต้องการ จากความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์ที่เสริมทำได้มากกว่ารุ่นอื่น ๆ ตั้งแต่ Apple Magic Keyboard ที่ช่วยให้การจัดการงานด้านเอกสารทำได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไปจนถึง Apple Pencil 2 ที่ทำให้การวาดและเขียนสิ่งต่าง ๆ ทำได้ง่ายดายมากกว่าปากกา Stylus จากแบรนด์อื่น ๆ ครับ
ข้อดี
✓ รองรับการใช้งานปากกา Stylus แบบ Apple Pencil 2
✓ หน่วยความจำข้อมูลสูงสุดถึง 1 TB
✓ Ram ในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ 6 GB
ข้อจำกัด
✘ ตัวเครื่องอาจถูกบิดงอได้ง่าย
5. iPad Air 3
★★★★★
iPad Air รุ่นที่ 3 ขนาดหน้าจอแสดงผล 10.5 นิ้ว ที่รองรับการใช้งานในฟังก์ชันพื้นฐานระดับทั่วไปได้อย่างเพียงพอ
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Air 3 |
ชิปประมวลผล | Apple A12 Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13 |
Ram | 3 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 64 และ 256 GB |
แบตเตอรี่ | 8,134mAh |
รุ่นนี้เป็น iPad Air รุ่นยอดนิยม ที่มีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทย จากระดับราคาที่มีความย่อมเยาเข้าถึงได้ง่าย และสเปกโดยรวมที่ถูกใส่มาให้แบบเพียงพอต่อการใช้งานในไลฟ์สไตล์ทั่วไป ทั้งในการเล่นเกม การใช้งานแอปพลิเคชัน หรือการท่องโลกออนไลน์บนเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงยังเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยังคงมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Touch ID ความแม่นยำสูง ติดไว้ให้สำหรับการปลดล็อกหน้าจอ เและเรียกใช้งานการเข้าออกแอปพลิเคชันหรือหน้าจอหลักในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ สเปกโดยรวมใกล้เคียงกันกับรุ่นระดับท็อป
✓ รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ iPad OS
✓ มีฟังก์ชันการปลดล็อคตัวเครื่องผ่านการแสกนลายนิ้วมือแบบ Touch ID
ข้อจำกัด
✘ ไม่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ
6. iPad Mini 5
★★★★★
ไอแพตรุ่นเล็กขนาดพกพาที่นำออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย ด้วยขนาดตัวเครื่องสุดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียงไม่กี่ร้อยกรัม
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Mini 5 |
ชิปประมวลผล | Apple A12 Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13 |
Ram | 3 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 64 และ 256 GB |
แบตเตอรี่ | 5,124mAh |
หากรุ่น ที่คุณกำลังมองหาเป็นอุปกรณ์ ขนาดเล็ก ที่มีความโดดเด่นสำคัญอยู่ในเรื่องของการ พกพา ที่ทำได้ง่ายจาก น้ำหนักเบา ในขณะที่ยังคงมีสเปกโดยรวมของตัวอุปกรณ์จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม iPad Mini 5 น่าจะนับเป็นหนึ่งในรุ่นที่คุณควรให้ความสนใจมากที่สุด ในช่วงเวลานี้
สำหรับการเลือกซื้อ iPad จากแบรนด์ Apple ที่ใช้ในการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ จากสเปกของตัวเครื่องที่ให้มาเป็นแบบเดียวกันกับ iPad Air 3 แต่ถูกย่อขนาดหน้าจอให้เล็กลงมาเพื่อให้การนำออกไปใช้งานยังสถานที่ต่าง ๆ ทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในด้านของการจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ รุ่นนี้ก็ยังถือว่าทำได้เป็นอย่าง ดีจากการรองรับการใช้งาน Apple Pencil 1 ด้วยนั่นเองครับ
ข้อดี
✓ ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก
✓ รองรับการใช้งาน Apple Pencil 1
✓ ใช้งานระบบปฏิบัติการ iPad OS เวอร์ชัน 13
ข้อจำกัด
✘ แบตเตอรี่โดยรวมค่อนข้างต่ำ
7. iPad Pro 12.9
★★★★★
iPad Pro ขนาดใหญ่รุ่นปี 2018 ที่รองรับการใช้งานต่าง ๆ ในด้านเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้งานปากกา Apple Pencil 2
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad Pro 12.9 2018 |
ชิปประมวลผล | Apple A12x Bionic |
ระบบปฏิบัติการ | iOS 12 |
Ram | 6 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 64, 256, 512 GB และ 1 TB |
แบตเตอรี่ | 9,720mAh |
iPad Pro 12.9 ในรุ่นปี 2018 เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งรุ่นท็อปสุด ที่ทาง Apple ได้มีการเปิดตัวออกมาให้เราได้เลือกใช้งาน ทั้งจากสเปกโดยรวมระดับสูงสุดที่รองรับการใช้งานได้กับทุกแอปพลิเคชันในช่วงเวลานั้น ไปจนถึงหน้าจอขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การใช้งานตัวเครื่องในรูปแบบต่าง ๆ ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลื่นไหล นอกจากนี้ด้วยการรองรับการใช้งาน Apple Pencil เวอร์ชัน 2 และ Apple Magic Keyboard รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวออกมาในปี 2020 ยังเป็นส่วนที่ส่งผลให้ความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้มีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
✓ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน
✓ หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้อย่างเต็มตา
✓ ขนาดความจุสูงสุดที่ 1 TB
ข้อจำกัด
✘ การพกพาทำได้ลำบากกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่พอสมควร
8. iPad 7th
★★★★★
iPad Generation ปี 2019 รุ่นยอดฮิตที่มีสเปกโดยรวมจัดอยู่ในระดับพื้นฐาน และถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของนักศึกษาโดยเฉพาะ
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad 7th |
ชิปประมวลผล | Apple A10 Fusion |
ระบบปฏิบัติการ | iPad OS 13 |
Ram | 3 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 32 และ 128 GB |
แบตเตอรี่ | 8,827mAh |
iPad Generation 7 เป็นหนึ่งใน iPad รุ่นราคาประหยัด ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของนักเรียนนักศึกษา โดยเฉพาะ จากสเปกการทำงานโดยรวมที่เหมาะสำหรับ การใช้งานในฟังก์ชันพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านเอกสาร , การค้นคว้าข้อมูลผ่านทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ต่าง ๆ ไปจนถึงการวาดเขียนที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการรองรับการเชื่อมต่อปากกา Stylus Apple Pencil 1 ยิ่งไปกว่านั้นด้วยแอปพลิเคชันที่มีอยู่มากมายบนระบบปฏิบัติการ iOS ยังทำให้คุณเลือกใช้งานตามความต้องการได้อย่างหลากหลายอีกด้วยครับ
ข้อดี
✓ สเปกโดยรวมจัดอยู่ในระดับพื้นฐาน
✓ แบตเตอรี่ที่ให้มามีขนาดความจุ 8,827mAh
✓ ฟีเจอร์ Touch ID สำหรับปลดล็อดหน้าจอตัวเครื่อง
ข้อจำกัด
✘ ขนาดความจุเริ่มต้นค่อนข้างต่ำ
9. iPad 6th
★★★★★
iPad แบบธรรมดารุ่นที่ 6 ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว ที่รองรับการใช้งานในไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบได้อย่างลื่นไหลและมีคุณภาพ
ยี่ห้อ / รุ่น | iPad 6th |
ชิปประมวลผล | Apple A10 Fusion |
ระบบปฏิบัติการ | iOS 11 |
Ram | 2 GB |
พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 32 GB |
แบตเตอรี่ | 8,227mAh |
สุดท้ายเป็น iPad Generation อีกหนึ่งรุ่นที่ยังคงมาพร้อมสเปกตัวเครื่อง ที่สามารถใช้งานทั่วไปในไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ จากชิปประมวลผลที่ยังคงไม่ล้าสมัยมากจนเกินไป และระบบปฏิบัติการที่ถูกใส่มาให้ภายในตัวเครื่อง ซึ่งยังคงได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเวลาปัจจุบัน โดยหากกล่าวถึงในด้านของรูปลักษณ์และดีไซน์การออกแบบ รุ่นนี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกใจผู้ใช้งานอุปกรณ์จากแบรนด์ Apple ที่ยังคงชื่นชอบความคลาสสิกในด้านของรูปลักษณ์การออกแบบอยู่ไม่น้อยเลยครับ
ข้อดี
✓ เซ็นเซอร์แสกนลายนิ้วมือแบบ Touch ID
✓ น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างน้อย
✓ แบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
ข้อจำกัด
✘ ชิปประมวลผลขเอมูลมีเวอร์ชันค่อนข้างเก่า
เลือกซื้อ ipad อย่างไรดี
4 วิธีการเลือก ipad
1. เลือกจาก ซีรีย์ของ iPad ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ มากที่สุด
ตัวเลือกของ iPad ที่มีออกมาให้เราเลือกซื้อได้กันในทุกวันนี้นั้น จะถูกแบ่งแยกย่อยออกมาเป็นแต่ละซีรีย์ ที่มีความโดดเด่นออกไปอย่างชัดเจนในไลฟ์สไตล์การใช้งาน ตั้งแต่รุ่นโปรที่มีสเปกการใช้งานและฟังก์ชันจัดอยู่ในระดับสูงสุด, รุ่นแอร์สำหรับผู้ที่ต้องการขยับสเปกกับเรทราคาลงมาอีกเล็กน้อย เพื่่อให้มีความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด, รู่นมินิ ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการพกพา และรุ่นราคาประหยัดอย่าง iPad Generation ที่จะมีออกมาให้เลือกซื้อได้อยู่เป็นประจำทุกปีนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการเลือกซื้อให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นการเลือกดูจากสิ่งนี้ก่อนเป็นลำดับแรก จะช่วยให้คุณเลือกซื้อได้ง่ายดายเพิ่มมากขึ้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
2. ตรวจสอบขนาดความจุที่รองรับการใช้งานได้อย่างเพียงพอ
หนึ่งในสิ่งที่มีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์ประเภทนี้ จะเป็นในส่วนของขนาดความจุตัวเครื่องที่ให้มาในการใช้งาน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ส่งผลในทางตรงต่อจำนวนแอปพลิเคชันและข้อมูลต่าง ๆ ที่ตัวอุปกรณ์รุ่นนั้น ๆ สามารถจัดเก็บไว้ได้ภายในเครื่อง แต่ตามปกติแล้วรุ่นที่มีขนาดความจุสูงมากกว่า ก็มักจะมาพร้อมราคาที่สูงมากขึ้นมาอีกเล็กน้อยด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากต้องการให้รุ่นที่คุณเลือกซื้อมีอายุการใช้งานยาวนานมากที่สุด การยอมเพิ่มราคาขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูล ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ความคุ้มค่าในการใช้งานเพิมขึ้นมาได้อีกไม่น้อยเลยครับ
3. ให้ความสำคัญกับขนาดหน้าจอที่มีผลโดยตรงต่อการใช้งาน
ในการเลือกซื้อ iPad เครื่องใหม่ให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุดนั้น หนึ่งในที่หลีกเลี่ยงไปเสียไม่ได้ในการพิจารณา ควรจะเป็นในเรื่องของขนาดหน้าจอซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายในการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการรับชมคอนเทนต์ การเล่นเกม, การจัดบันทึกสิ่งต่าง ๆ หรือการใช้งานด้านอื่น ๆ ในไลฟ์สไตล์ทั่วไป
โดยหากคุณต้องการรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถใช้งานในด้านเหล่านี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น ก็อาจจำเป็นจะต้องแลกมาด้วยการพกพาออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ทำได้ลำบากมากยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ในทางตรงกันข้ามหากต้องการให้มีความโดดเด่นอยู่ในเรื่องของการพกพา ก็อาจทำให้ขนาดหน้าจอเล็กลงมาอีกพอสมควรด้วยนั่นเองครับ
4. พิจารณาความจำเป็นของ Apple Pencil แต่ละรุ่น
เนื่องจากในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ปากกา Stylus ที่ถูกผลิตขึ้นจากแบรนด์ Apple หรือที่เรียกว่า Apple Pencil นั้นมีออกมาให้เราใช้งานได้เพียงแค่ 2 รุ่น ซึ่งมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรในด้านของการใช้งาน ส่งผลให้ในเรื่องของรุ่นปากกาที่รองรับการใช้งานกับ iPad ที่คุณต้องการ ก็กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญในการพิจารณาด้วยเช่นกัน
โดยหากคุณต้องการใช้งานอุปกรณ์ ตัวนี้ในด้านของ การวาดภาพ หรือ การออกแบบสิ่งต่าง ๆ ในงานของมืออาชีพ ก็ควรเลือก ซื้อรุ่นที่รองรับการใช้งานปากกาแบบ Apple Pencil 2 ที่มีคุณสมบัติและความสามารถในการใช้งานสูงมากกว่า เพราะจะทำให้ความรู้สึกในการใช้งานและการจัดเก็บในรายละเอียดเล็กน้อยทำได้ดีมากกว่า แต่หากต้องการใช้งานในลักษณะทั่วไปการเลือกใช้งานเพียงรุ่นที่รองรับปากกา Apple Pencil 1 ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปของคุณแล้วครับ
บทสรุป
จากความจำเป็นของ iPad ที่มีผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงเวลานี้ ส่งผลให้การเลือกซื้ออุปกรณ์ตัวดังกล่าวมาไว้สำหรับการใช้งานในกิจกรรมต่าง ๆ ก็นับเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเพื่อให้คุณดำเนินชีวิตในทุกวันได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของการเลือกซื้อให้เหมาะสมและรองรับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ดีมากที่สุดนั้น คุณควรเริ่มต้นในการพิจารณาจากรายละเอียดพื้นฐานที่เราได้กล่าวไป ตั้งแต่ซีรีย์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณ, ขนาดความจุที่เพียงพอต่อความต้องการ, ขนาดหน้าจอที่มีผลต่อการใช้งาน
ไปจนถึงการรองรับการใช้งานของ Apple Pencil แต่ละรุ่นเสียก่อน แล้วถึงเลือกดูจากรุ่นที่เหมาะสมกับราคามากที่สุดในสเปกและฟังก์ชันการใช้งานที่ได้กล่าวไป โดยที่หากได้ทำตามขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ในเบื้องต้นแล้ว เราเชื่อว่าคุณจะต้องได้รุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีมากที่สุดอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการเรียน การทำงาน การเล่นเกม การจดบันทึก หรือแม้แต่การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ และหากคุณยังเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดไม่ได้ หรือยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้งาน iPad รุ่นไหนดี ในปี 2023 นี้ เราก็ขอแนะนำให้ลองอ่านรายละเอียดสินค้าแต่ละรุ่นที่เราได้แนะนำมาให้อีกหนึ่งครั้ง เพื่อให้คุณได้กลับไปพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนมากที่สุดในเรื่องที่คุณอาจมองข้าม ซึ่งหากทำอย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วเราเชื่อว่าคุณจะได้เจอรุ่นที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดแน่นอนครับ